xs
xsm
sm
md
lg

โบรกเกอร์ชำแหละหุ้น 4 กลุ่มเอี่ยวคริปโต ใครกระทบหนักสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



DBSV ชำแหละหุ้น 4 กลุ่มลงทุนคริปโตฯ ชี้กลุ่มขุดเหมืองบิทคอยน์ - ที่ปรึกษาออกเหรียญ กระทบหนักสุด เตือนแม้ "ราคาลง แต่ไม่น่าเก็บ" ขณะเดียวกันประเมิน GULF - BROOKS สะเทือนมากน้อยแค่ไหน เหตุเป็น 2 เจ้าหลัก ที่เข้าไปถือหุ้นโดยตรงในเหรียญคริปโตฯ

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นขาลงอยู่ในขณะนี้ ว่า ราคาเหรียญคริปโต (Crypto) ที่ลดลงรุนแรง ตั้งแต่เงินเฟ้อสูงแทบทุกสกุล เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, BNB, BITKUP โดยเฉพาะเหรียญที่เป็น Stablecoin อย่าง LUNA แทบไม่เหลือมูลค่า หลังจากทั่วโลกมีอัตราเงินเฟ้อสูงผิดปกติ

ชำแหละ หุ้น 4 กลุ่มเอี่ยวคริปโต ใครกระทบหนักสุด

อย่างไรก็ดี DBSV ระบุว่า แม้ Crypto ส่วนใหญ่จะร่วง แต่ก็ควรจำแนกการพิจารณาว่ารับ Crypto ในระดับใด โดยสินทรัพย์ที่ขุดมาก็จะมีมูลค่าตลาดที่ต่ำ ซึ่งได้ให้คำแนะนำไว้ว่า "แม้หุ้นตกรับข่าวแล้ว ก็ยังไม่ควรเข้าไปช้อน " ทั้งนี้ได้จำแนกหลักทรัพย์ไทยที่ได้ผลกระทบจากการลดลงของมูลค่าเหรียญ
ประกอบด้วย

1. ชุดกลุ่มบริษัทขุดเหรียญบิทคอยน์ ซึ่งสิ่งที่กังวลคือ ถึงจะขุดได้ แต่หลักทรัพย์ที่ขุดมามีมูลค่าต่ำ โดยหลักทรัพย์ในกลุ่มนี้ เช่น JTS, ZIGA,UPA,AJA,ECF,CWT,SCI,NRF เป็นต้น

2. กลุ่มรับเหรียญมาใช้ซื้อสินค้าได้ หรือ รับบริการต่างๆ ทำโปรโมชั่น คาดว่ากลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะหากได้รับมาจากการชำระค่าสินค้าหรือบริการ ก็จะป้องกันความเสี่ยงได้ ด้วยการขายออกมาทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง ชุดหลักทรัพย์เหล่านี้ เช่น ANAN,SIRI,ORI,ASW, MAJOR หรือมีการออกและใช้เหรียญภายในกลุ่ม เพื่อให้ลูกค้ามารับบริการได้ หรือทำโปรโมชั่นทางการตลาด เช่น Jin Coin กลุ่ม JMART หรือ Popcoin ของกลุ่ม RS

3 กลุ่มหลักทรัพย์ที่รับเป็นที่ปรึกษาทำธุรกิจเกี่ยวกับ เหรียญ Crypto หรือเป็นศูนย์ซื้อขายฯ  ระยะนี้ก็จะซบเซาไปตามสถานการณ์ของเหรียญ หลักทรัพย์ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เช่น บริษัท XPG รับเป็นที่ปรึกษาในการออกเหรียญ หรือให้บริการต่างๆ SCB สนใจเข้าไปถือหุ้นใน BITKUP หรือกระทั่ง GULF ให้บริษัทย่อยไปร่วมลงทุน ในธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา (Binance US) ใช้เงินราว 660 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทย่อยคือกัลฟ์ อินโนวา ถือหุ้น 51% ส่วน Binance Capital Management ถือหุ้น 49%  

และ 4. หลักทรัพย์ที่เข้าไปถือหุ้นโดยตรงในเหรียญ Crypto เท่าที่ติดตาม มีอยู่ 2 หลักทรัพย์คือ GULF และ BROOK ถือว่าได้รับผลกระทบทางลบโดยตรง สามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้

GULF: เม.ย.65 ให้บริษัทย่อยคือ Gulf International Investment Limited (GII) ซึ่งถือหุ้นอยู่ 100% ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล BNB มูลค่าราว 1,678.25 ล้านบาท หรือ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หากสมมุติให้ในที่สุดแล้วมูลค่าเหรียญลดลงไป 50% หรือได้รับความเสียหายไป 839 ล้านบาท หากหากเทียบกับกำไรตลอดปีจะเป็นสัดส่วนราว 7% จากกำไรราว 1.2 พันล้านบาท  

แต่ล่าสุดบริษัทได้มีการจำหน่ายหุ้นทั้งหมด ให้แก่บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้งส์(ประเทศไทย) จำกัด (GHT) ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ถือหุ้นในบริษัทฯ ในสัดส่วนร้อยละ 4.86 (ณ วันที่ 16 มิถุนายนที่ 1,681.67 ล้านบาท จึงคาดว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้แล้ว2565)
 
BROOK: ต.ค.64 ลงทุนในเงิน Crypto เป็นสกุลหลักๆ 60% คือ Bitcoin, Ethereum, Binance, Stablecoin และอีก 40% เป็นสกุลอื่นๆที่ 1,290 ล้านบาท หากสมมุติให้ในที่สุดแล้วมูลค่าเหรียญลดลงไป 50% หรือได้รับ ความเสียหายไป 645 ล้านบาท หากเทียบกับกำไรตลอดปีที่ราว 200-300 ล้านบาท จะเป็นสัดส่วนที่มากเกิน 100%  และ หากเทียบเป็นต่อหุ้นจะอยู่ที่ 0.07 บาท หรือมากถึง 12%จากราคาหุ้นปัจจุบัน แต่ราคาหุ้นก็ได้ปรับลงมาแบบดิ่งจากจุดสูงสุดเมื่อปลาย มี.ค.65 ในอัตราถึง 46% แล้ว

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดในรอบ 28 ปี ยังผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม เช่น ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และธนาคารกลางในโซนเอเชียต่างๆ ยังผลให้กังวลเศรษฐกิจ ชะลอตัว นักลงทุนกลัวความเสี่ยง ต่างออกจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย อีกทั้งเหรียญคริปโตไม่ได้มีสินทรัพย์ที่ค้ำประกันอยู่อย่างชัดเจน ไม่ได้มีมูลค่าในตัวเองอย่างทองคำ ส่วนบางกระแสก็กล่าวว่าส่วนหนึ่งคือร่วงตามตลาดหุ้นทั่วโลกในอนาคตยังไม่แน่นอน แต่ก็ต้องระมัดระวังที่จะเข้าไปลงทุน ก็มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตมูลค่าเหรียญคริปโตจะกลับมาฟื้นตัวได้ หากสถานการณ์ต่างๆ กลับมาคลี่คลายไปในทางที่ดี เช่น เศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้ตกต่ำอย่างที่กังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน กลับมาเจรจากันได้, สถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 คลี่คลาย เป็นเพียงโรคประจำถิ่น หรือกระทั่งเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัว แต่ความเสี่ยงคือ จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น