ลูกค้าแห่รีวิวกับร้านลับย่านวังหลัง “เจปังไอติมย่างเนย” ที่ไม่ธรรมดาเพราะทั้งเนยและไอติมเป็นโฮมเมดทั้งหมด ใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม อีกทั้งยังส่งเสริมเกษตรกรไทยเพราะวัตถุดิบหลักของการทำไอติมคือน้ำตาล ซึ่งน้ำตาลที่นำมาทำไอติมนั้นเป็นน้ำตาลออร์แกนิคที่รับมาจากเกษตรกรโดยตรง เปิดขายมาได้ประมาณ 1 ปี ลูกค้าเต็มร้านยอดขายสูงสูด 150 ชิ้นต่อวัน
นายพีรล์ รัตนวชิรินทร์ และป้าอ้วน ลัดดา รัตนวชิรินทร์ เจ้าของร้านเจปัง เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการทำร้านเจปังนั้นเริ่มมาจากในตอนแรกทางร้านได้มีโอกาสรู้จักกับโครงการตั้งตัวอ้อยคั้นน้ำ ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรไทยและแนะนำช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษได้ ซึ่งตนก็มองว่าจะมีสินค้าประเภทไหนที่ให้เกษตรกรไทยเป็นซับพลายเออร์ของตนได้ ท้ายสุดมาลงตัวที่ “ไอศกรีม” หรือ ไอติม เพราะว่าส่วนผสมหลักของไอติมคือ “น้ำตาล” เพราะฉะนั้นทางร้านให้ข้อมูลว่าลูกค้าอุ่นใจได้อย่างแน่นอนเพราะวัตถุดิบหลักที่อยู่ในตัวไอติมนั้นไม่มีสารเคมี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทาง
ทั้งนี้ในตอนแรกก่อนที่จะกลายมาเป็น “ไอติมย่างเนย” นั้น ทางร้านขายไอติมเปล่าๆ มาก่อน ซึ่งยอดขายก็ยังไม่ได้มีเข้ามาจำนวนมากนัก หลังจากนั้นก็เริ่มคิดค้นและหาไอเดียในการสร้างไอติมให้เกิดความแตกต่างจากคนอื่น คิดได้ดังนั้นตนก็นึกขึ้นได้ว่ามีขนมที่ชอบกินตอนเด็กคือ ไอติมกับขนมปังรถเข็นที่มาขายตามหมู่บ้าน ต่อมาตนก็เกิดไอเดียการนำเอาไอติมและขนมปังมาดัดแปลงและเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้า โดยการนำมายกระดับให้กลายเป็น “ไอติมย่างเนย” และได้มีชื่อร้านอย่างเป็นทางการว่า “เจปัง” ปัจจุบันเปิดขายมาได้ประมาณ 1 ปี
นอกจากนี้ในส่วนของการทำการตลาดนั้นทางร้านให้ข้อมูลว่า จริงๆ แล้วทางร้านไม่ได้เน้นหรือมีเทคนิคการทำการตลาดมากขนาดนั้น เพียงแต่ทางร้านมุ่งมั่นที่จะทำสินค้าของตนเองออกมาให้ได้ดีมากที่สุด ใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด รวมถึงรักษามาตรฐานของการบริการลูกค้าและขั้นตอนการทำในแต่ละชิ้น เพื่อที่จะได้ไอติมย่างเนยออกมาดีมีคุณภาพทุกชิ้น ส่วนลูกค้าเมื่อมาลองกินไอติมย่างเนยของที่ร้านก็จะรีวิวหรือพูดบอกต่อแบบปากต่อปาก เป็นการทำการตลาดแบบเข้าถึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เมื่อมีลูกค้ารีวิวเป็นจำนวนมาก ลูกค้าอื่นๆ ที่ได้เห็นก็จะตามมาเอง
สำหรับเมนูของทางร้านนั้นจะมีทั้งตัวไอติมเปล่าๆ และเมนูไอติมย่างเนย รวมถึงแบบใส่โคน ซึ่งตัวขนมปังจะมีขนมปังเนยสด และขนมปังชาโคล ส่วนไอติมจะมีทั้งหมด 7 รสชาติ ได้แก่ ชาเขียว ชาไทย ช็อกโกแลต นมสด นมอ้อย มะนาว อัญชัน และกะทิ โดยทั้งหมดเป็นไอติมโฮมเมดที่ทางร้านทำขึ้นมาเอง
ทั้งนี้ผลตอบรับจากลูกค้านั้น ป้าอ้วนเผยว่า ลูกค้าที่ได้มากินไอติมย่างเนยของทางร้านแล้วนั้นทุกคนจะบอกว่าอร่อย และช่วยบอกต่อลูกค้าคนอื่นๆ ให้มาลองกินดู โดยส่วนมากลูกค้าจะเป็นกลุ่มลูกค้าแพทย์และพยาบาลที่โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากร้านตั้งอยู่ในตลาดวังหลังใกล้กับโรงพยาบาล สะดวกและง่ายต่อการเดินทางมาที่ร้าน แต่ในช่วงหลังก็เริ่มมีลูกค้ากลุ่มอื่นๆ สนใจมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของกำลังการผลิตนั้นทางร้านให้ข้อมูลว่า ไอติมย่างเนยจะสามารถทำได้สูงสุดวันละประมาณ 150 ชิ้น และในแต่ละชิ้นค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรในการทำ เนื่องจากต้องย่างตัวขนมปังกับเนยก่อน เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบ หอมและค่อยนำไอติมมาวางอีกชั้น ทำให้ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรในการทำต่อ 1 ชิ้น ทั้งนี้วัตถุดิบที่ใช้นั้นเป็นวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยมทุกอย่าง ไม่มีการแต่งสี กลิ่นและรสของตัวไอติมแต่อย่างใด
ความพิเศษและจุดเด่นของขนมปังย่างเนย ทางร้านเผยว่าจุดเด่นหลักๆ ของตัวขนมปังย่างเนยนั้นมีครบทั้งรูป รส กลิ่น และเสียง เนื่องจากการเอาขนมปังไปย่างกับเนยโฮมเมดนั้นจะได้ทั้งความกรอบ ความมัน ความเค็ม จากนั้นเมื่อวางไอติมที่มีความหวานเข้าไป จะทำให้ใน 1 คำที่ลูกค้ากินนั้นมีครบทุกรสชาติ นอกจากนี้ตัวไอติมย่างเนยจะถูกขายที่หน้าร้านเพียงช่องทางเดียว เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องความสดใหม่และความกรอบของขนมปัง รวมถึงตัวไอติมจะละลายง่ายถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นาน ทำให้จำเป็นต้องขายหน้าร้านอย่างเดียว เพื่อความอร่อยและเนื้อสัมผัสที่ดีของตัวไอติมย่างเนยเอาไว้ แต่ถ้าเป็นไอติมเปล่าๆ ทางร้านจะมีบริการเดลิเวอรี่ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ
สำหรับราคาของตัวไอติมย่างเนยนั้นในตอนแรกทางร้านตั้งใจจะขายในราคา 80 บาท แต่มองว่าลูกค้ามีหลากหลายอาชีพรวมถึงนักเรียนและนักศึกษา จึงตั้งราคาให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและจับต้องได้ง่าย ทำให้ทางร้านตั้งโปรโมชั่นในตอนนี้ไว้ที่ชิ้นละ 59 บาท และจะเน้นที่ตัวไอติมเป็นหลักจะไม่เน้นท็อปปิ้งเสริม นอกจากนี้ในส่วนของตัวไอติมเปล่า 1 สกู๊ป โดยที่ไม่มีแพคเกจจิ้งเสริมจะขายที่ราคา 35 บาท ขนาดน้ำหนักประมาณ 75-80 กรัม ถ้าเพิ่มอีก 1 รสชาติทางร้านขอบวกเพิ่ม 10 บาท
นอกจากนี้การต่อยอดธุรกิจในอนาคตนั้นทางร้านกำลังต่อยอดในส่วนของการจัดเลี้ยง โดยมีนโยบายคือการนำเอาเจปังยกไปหาลูกค้าถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานเลี้ยงต่างๆ ซึ่งทางร้านจะจัดบูธและนำไปเสิร์ฟให้ลูกค้าได้เข้าถึงมากที่สุด เพราะฟีดแบกมาจากลูกค้าที่ชอบรีวิวและติดตามเพจเฟซบุ๊ก แต่ก็มีลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่สามารถเดินทางมาซื้อที่หน้าร้านได้ เพราะระยะทางที่อาจจะไกลเกินไปสำหรับลูกค้า เพราะฉะนั้นการต่อยอดในรูปแบบงานจัดเลี้ยงหรือการบริการเมนูสินค้าไปยังสถานที่จัดเลี้ยงก็จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นและทำสดใหม่หน้างานอีกด้วย
อย่างไรก็ตามร้านเจปังไอติมย่างเนยตั้งอยู่ในตลาดวังหลัง การเดินทางที่ง่ายที่สุดสามารถจอดรถไว้ที่วัดระฆัง เดินตรงซอยเข้าไปประมาณ 200-300 เมตร จะเจอร้านเจปังอยู่ฝั่งซ้ายมือ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00-19:00 น.
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : เจปัง ไอติมย่างเนยโฮมเมดโคตรหอม กรอบ อร่อย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *