การประกาศให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายของเอลซัลวาดอร์ ภายใต้การบริหารประเทศของนายนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีหัวก้าวหน้าของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเปิดตัวอย่างฮือฮาและผลักดันกฎหมายประกาศให้ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมายเป็นประเทศแรก หรือ Legal Tender ในวันที่ 6 มิถุนายน 2564 ซึ่งหลังจากนั้นรัฐบาลของเอลซัลวาดอร์ก็ทยอยเข้าซื้อ Bitcoin เข้าระบบอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลล่าสุดขณะนี้ประเทศเอลซัลวาดอร์มีจำนวนการถือครอง Bitcoin อยู่ทั้งหมด 2,301 BTC หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท
จากมุมมองของ Stock2morrow ได้แสดงภาพอีกด้านจากความเสี่ยงในของการนำเหรียญบิตคอยน์มาเป็นสกุลเงินของประเทศซึ่งหากย้อนมองกลับไปในช่วงนั้นที่นายนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ได้พยายามออกมาสนับสนุนบิตคอยน์และผลักดันการบังคับใช้กฎหมายอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู โดยชูนโยบายนำพาประเทศเอลซัลวาดอร์ก้าวไปเข้าสู่การเป็น "Bitcoin City" ให้ได้ ซึ่งในช่วงเวลานั้น บิตคอยน์เป็นขาขึ้น อะไรก็ดูดีไปหมด จนลืมมองภาพกลับกันว่า ขึ้นได้ มันก็ร่วงได้!
แล้วถ้าบิตคอยน์ เป็นขาลงล่ะ ฃ? จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศเอลซัลวาดอร์
จากบทวิจัยของ The Central American University ได้ทำการสำรวจชาวเอลซัลวาดอร์ 1,270 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นว่า "มันไร้ประโยชน์" โดยผู้ที่ให้ความเห็นในแบบสำรวจแบ่งเป็น
ประชากร 71% มองว่า กฎหมายบิตคอยน์ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรต่อตัวพวกเขาเลย
ประชากร 12.8% มองว่า กฎหมายบิตคอยน์ ให้ประโยชน์แก่พวกเขาไม่มาก
ประชากร 6.1% มองว่า กฎหมายบิตคอยน์มีประโยชน์ และมีประโยชน์มากแก่พวกเขา
ทั้งนี้ มีคนประมาณ 3.9% แสดงความคิดเห็นว่ากฎหมายบิตคอยน์และการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ของรัฐบาล จะกลายมาเป็นหนึ่งในความล้มเหลวที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลนายนายิบ บูเคเล
ขณะที่ดูเหมือนว่าประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพอใจนายนายิบ บูเคเล เท่าไรนัก เพราะหลังจากที่กฎหมายมีการประกาศใช้แล้ว ดูเหมือนว่าแทนที่จะเอาประโยชน์ที่ได้จากการ "โหนกระแสบิตคอยน์" นำมาใช้พัฒนาประเทศและแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ผลักดันนโยบายต่างๆ ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ อย่างที่โปรยยาหอมโฆษณาชวนเชื่อไว้ก่อนหน้านี้นั้น กลับไม่เป็นอย่างที่พูดสัญญาเอาไว้ แต่กลับเอาเงินของประเทศไปซื้อบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ส่วนทางกับแนวโน้มเศรษฐกิจขาลงของประเทศที่ไม่สามารถลืมตาอ้าปากใดๆ ได้เลย ขณะที่หนี้สาธารณะของประเทศกลับพอกพูนเพิ่มขึ้นอย่างไม่สามารถมีอะไรมาหยุดยั้งได้ ขณะเดียวกันที่นายนายิบ บูเคเล เองนั้นยังคงเชื่อมั่นต่อบิตคอยน์ไม่หวั่นไหว แม้จะมีเสียงทัดทานคำเตือนจากทั้ง IMF หรือแม้แต่ธนาคารโลกก็ตามที
อย่างไรก็ดี บทวิจัยยังแสดงข้อสงสัยด้วยว่า ความไม่พอใจส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการประมาทในการลงทุนอย่างหน้ามืดตามัว จนลืมพิจารณาความเสี่ยงที่มองไม่เห็นซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังจากที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งคำถามที่ประชาชนฝากถึงฝั่งรัฐบาลคือ "การขาดทุนที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะทำอย่างไรกันต่อไป"
ซึ่งมุมมองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความเสี่ยงในการเข้าไปลงทุนของรัฐบาลนั้น สอดคล้องกับบทวิจัยของ www.nber.org แสดงความคิดเห็นว่า ประเทศกำลัง "ล้มเหลว" จากการนำบิตคอยน์ไปใช้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับบิตคอยน์เลย รวมถึง Ecosystem ที่รัฐบาลพยายามสร้าง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตังค์แอป Chivo หรือตู้ Chivo ATM ที่ติดตั้งทั่วประเทศ ซึ่งประชาชนที่สามารถเข้าถึงได้ในความเป็นจริงมีไม่ถึง 10% จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาว่า การพยายามผลักดันข้อกฎหมายประกาศให้ใช้บิตคอยน์อย่างถูกกฎหมายของนายนายิบ บูเคเล นั้น แฝงนัยซ่อนเร้นอะไรไว้หรือไม่ เอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนบางกลุ่ม ผ่านทางผลประโยชน์เชิงซ้อน ซึ่งยากที่จะตรวจสอบหรือไม่
ขณะเดียวกัน ทางฟากฝั่งของสื่อตะวันออกกลางรายใหญ่อย่าง Al Jazeera ออกมารายงานว่า ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล มีความพยายามอย่างมากจะสร้างบรรยากาศเมืองแห่ง Bitcoin ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย การสร้างตู้ ATM สำหรับ Bitcoin และพยายามให้ร้านค้าท้องถิ่นหันมารับ Bitcoin แทนเงินกระดาษของประเทศ
แต่ในทางกลับกันสิ่งที่น่ากังวล คือ หนี้สินของประเทศที่สูงกว่า 50% ของ GDP และยังคงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศเล็กๆ แห่งนี้พยายามขอกู้เงินจาก IMF มากถึง 1.3 พันล้านเหรียญ แต่ทาง IMF ตอบปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สบายใจที่เอลซัลวาดอร์ไม่พยายามจะหาเงินเข้าประเทศ แต่กลับจะนำประเทศไปฝากความหวังไว้กับการเป็น Bitcoin City แทน ซึ่งสิ่งที่สะท้อนความกังวลใจที่เกิดขึ้นนี้ ต่างมองว่าหากบิตคอยน์ยังคงผันผวนไหลลงอย่างต่อเนื่อง ประเทศที่มีหนี้ท่วมและวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศกำลังย่ำแย่ อีกทั้งสถาบันการเงินใหญ่ระดับโลก ปิดประตูให้กู้ยืมเงิน ทางออกของผู้นำเอลซัลวาดอร์ จะหันหน้าไปทางไหน เพราะภาพสะท้อนโลกคู่ขนาน multiverse เอลซัลวาดอร์ ที่ฉายออกมาเป็นภาพ เวเนซุเอลา จากที่เคยรางๆ เริ่มปรากฏชัดเจนมากขึ้น