xs
xsm
sm
md
lg

TOP ลงทุนสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ จ่อนำเทคโนฯ ผลิตไฮโดรเจนสีเขียวมาใช้ในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ท็อป เวนเจอร์ บริษัทในกลุ่มไทยออยล์ เข้าลงทุนใน Versogen สตาร์ทอัพสหรัฐฯ ที่มีเทคโนโลยีด้านเมมเบรน (Membrane) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” แบบ AEM Electrolyzers ที่ความบริสุทธิ์สูง ด้วยต้นทุนที่ต่ำ

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) เผยว่า ไทยออยล์มีเป้าหมายในการก้าวสู่ธุรกิจไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) ซึ่งเป็นก๊าซไฮโดรเจนที่ผลิตจากพลังงานสะอาด เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานลม จึงได้ลงทุนในบริษัท Versogen สตาร์ทอัพชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นทางด้านเมมเบรน (Membrane) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” แบบ Anion Exchange Membrane (AEM) Electrolyzers

ทั้งนี้ AEM Electrolyzer เป็นนวัตกรรมใหม่ในการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” ที่ความบริสุทธิ์สูง ด้วยต้นทุนที่ต่ำเพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่าจะมีสูงมากจากทั่วโลกในอนาคต

ไทยออยล์เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีการผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” มาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสามารถสนับสนุน Net Zero Greenhouse Gas Emission โดยไฮโดรเจนเริ่มมีการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศในทวีปยุโรปมีความต้องการใช้ “ไฮโดรเจนสีเขียว” เพื่อเป็นสารตั้งต้นในการผลิต (Feedstock) และเป็นแหล่งพลังงานในอนาคต


นายวิรัตน์กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กรที่สำคัญของไทยออยล์ คือ กลยุทธ์การกระจายการเติบโตและสร้างความมั่นคงผ่านพอร์ตการลงทุน (Value Diversifications) ด้วยการแสวงหาโอกาสในการเข้าสู่ธุรกิจ New S-Curve ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการเดินตามกลยุทธ์ขององค์กรดังกล่าว และยังส่งเสริมการมุ่งสู่ Net Zero Greenhouse Gas Emission และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไทยออยล์ในการ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน” อีกด้วย 

ไทยออยล์มุ่งหน้าเสริมศักยภาพทางธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายว่าธุรกิจของไทยออยล์ในปี 2573 จะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ประมาณ 10% จากธุรกิจโรงกลั่นปิโตรเลียม 40% ธุรกิจปิโตรเคมี 40% และธุรกิจโรงไฟฟ้า 10% และมีความตั้งใจที่จะเดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยกลยุทธ์การกระจายการเติบโตไปยังธุรกิจใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และธุรกิจใหม่เชิงนวัตกรรม อีกทั้งตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปี 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emission) ภายในปี 2603

ดังนั้น การลงทุนในเทคโนโลยีผลิต “ไฮโดรเจนสีเขียว” นับเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยสนับสนุนการใช้พลังงานที่ผลิตจากพลังงานธรรมชาติ และมุ่งสู่ Net Zero Greenhouse Gas Emission รวมถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กำลังโหลดความคิดเห็น