เริ่มต้นจากความชอบทำอาหารไทยและได้ศึกษาดูใจกับแฟนชาวต่างชาติ ทำให้เกิดแนวคิดการทำพิซซ่าหน้าอาหารไทยที่เป็นจุดเริ่มต้นของความรักทั้งคู่ สู่การต่อยอดเป็นธุรกิจและเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ลูกค้าต่างชาติให้ความสนใจและเป็นที่นิยมในพื้นที่ เริ่มทำเป็นรถฟู้ดทรัคตั้งเป้ายอดขาย 100 ถาดต่อวัน ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำพร้อมการันตีความปังด้วยการลงข่าวหนังสือพิมพ์และรายการทีวีของสื่อต่างประเทศ
จุดเริ่มต้นการใช้ชีวิตในอเมริกา
นางสาวพักตร์พิมล สุวรรณเพชร เจ้าของร้านฟู้ดทรัคพิซซ่าหน้าอาหารไทย Anzalone Pizza ในสหรัฐอเมริกา เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการเปิดร้านนั้นมีที่มาจากการที่ตนได้เจอกับแฟนชาวอเมริกันที่ประเทศไทยและได้มีการปรึกษาว่าจะต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการที่ตนต้องย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา สุดท้ายทำให้ตนได้ทำวีซ่าคู่หมั้นและได้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาได้ประมาณ 2 ปีกว่า ซึ่งพอย้ายมาแล้วนั้นก็ได้ตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกันและได้ทำเป็นรถฟู้ดทรัคพิซซ่า เนื่องจากแฟนชาวอเมริกันของตนถนัดและมีความรู้เรื่องการทำพิซซ่ามาหลายปี ส่วนการทำเป็นฟู้ดทรัคแทนที่จะเปิดเป็นร้านอาหารนั้นเพราะว่าฟู้ดทรัคมีการลงทุนน้อยกว่าและสามารถทำกันสองคนได้
ที่มาของพิซซ่าหน้าพะแนง
ทั้งนี้พิซซ่าของทางร้านจะมีหลายหน้า แต่หน้าที่เป็นจุดเด่นที่สุดคือ หน้าพะแนง หรือที่คนอเมริกันเรียกว่า ไทยเคอรี่พิซซ่า ซึ่งทางร้านเป็นเพียงเจ้าเดียวที่ทำขึ้นมาในพื้นที่นั้น รวมถึงยังเป็นพิซซ่าที่ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำมากที่สุด ส่วนที่มาของเมนูพิซซ่าหน้าพะแนงนั้นเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่แฟนของตนไปที่ประเทศไทยและต้องการทำพิซซ่าแบบไทยให้ตนลองกิน แต่ด้วยความที่ทั้งสองหาวัตถุดิบค่อนข้างยาก จึงตัดสินใจนำเอาแกงพะแนงของตนราดบนหน้าพิซซ่า และสุดท้ายรสชาติก็ออกมาค่อนข้างดี แต่ในตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องสานสัมพันธ์และทำพิซซ่าแบบจริงจังนัก แต่หลังจากนั้นเมื่อย้ายมาอยู่ที่อเมริกาแล้วเริ่มทำธุรกิจพิซซ่าก็ทำให้นึกถึงพิซซ่าหน้าพะแนงที่เคยทำเมื่อตอนเริ่มคบกันใหม่ๆ จึงตัดสินใจนำมาปรับสูตรใหม่ให้เข้ากับแป้งพิซซ่าและวางขายจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันขายมาได้ประมาณ 2 ปี
อยู่ไทยทำอาชีพอะไร
ก่อนจะมาที่อเมริกาเมื่ออยู่ประเทศไทยตนเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงและทำงานไปด้วย ซึ่งในตอนนั้นตนทำงานที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งอยู่ในระหว่างฝึกงาน แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกเส้นทางชีวิตที่แตกต่างออกไปก็คือการย้ายมาอยู่ต่างประเทศนั้นเอง
เมนูอาหารไทยเข้ากันกับแป้งพิซซ่า
ด้วยความที่ตนเป็นคนที่ชอบทำอาหาร จึงนำเอาอาหารไทยมาใส่บนหน้าพิซซ่าอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายจึงค้นพบว่าแกงพะแนงเป็นเมนูที่เข้ากันกับแป้งพิซซ่ามากที่สุด รวมถึงยังเป็นเมนูที่เคยลองทำเมื่อตอนอยู่ที่ประเทศไทย นอกจากนี้หลังจากที่ได้ลองทำขายก็ปรากฏว่ามีลูกค้าชื่นชอบจำนวนมาก โดยความพิเศษของตัวพิซซ่าพะแนงจะอยู่ตรงที่ความเข้มข้นของแกงพะแนง เมื่อลูกค้ากินเข้าไปก็จะรู้ได้เลยว่าเป็นอาหารไทย ถึงแม้จะอยู่บนพิซซ่าแต่จะยังคงรสชาติความเป็นแกงพะแนงเอาไว้
กลุ่มลูกค้า
กลุ่มลูกค้าของทางร้านจะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติทั้งกลุ่มที่เคยและยังไม่เคยกินอาหารไทยมาก่อน แต่ถ้าได้ลองกินพิซซ่าหน้าอาหารไทยของทางร้านก็จะทำให้ลูกค้าลองเปิดใจให้กับอาหารไทยได้มากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจมากที่สุดคือลูกค้าท้องถิ่นในรัฐไอดาโฮของอเมริกา ที่ตนและแฟนอาศัยอยู่ และพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ได้เริ่มต้นทำธุรกิจเป็นที่แรก ซึ่งเมื่อลูกค้ารู้ว่าตนเป็นคนไทยก็มีความสนใจและสนับสนุนพิซซ่าของตน เพราะทำให้ลูกค้ารู้ว่าเป็นอาหารไทยจากคนไทยแท้ๆ
มีเมนูอะไรบ้าง
เมนูโดยรวมของทางร้านนั้นจะมีหลากหลายหน้าให้เลือก ได้แก่ ชีส มาร์การิต้า เปเปอร์โรนีคลาสสิค คาวบอย ไส้กรอก เห็ด ฮาวาเอี้ยน และเมนูซิกเนเจอร์คือ พิซซ่าหน้าพะแนง ทั้งนี้สำหรับวิธีการขายพิซซ่าของทางร้านนั้น ในช่วงปีแรกจะขับรถไปขายตามตลาดนัดหรือไม่ก็จอดตามข้างถนน แต่ในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนวิธีขายใหม่ คือ รับงานแบบอีเว้นท์ ซึ่งมีทั้งการประกันราคาและประกันยอดขาย โดยจะทำให้ยอดขายของทางร้านคงที่มากกว่าและคุ้มค่ากว่าเดิม นอกจากนี้ทางร้านขายพิซซ่าโดยใช้เตาฟืนในการอบ ซึ่งฟืนที่อเมริกาค่อนข้างมีราคาสูง ทำให้ทางร้านต้องเปลี่ยนวิธีรับงานใหม่เป็นการรับอีเว้นท์อย่างเดียวนั่นเอง
หลังจากที่รับงานแบบอีเว้นท์ไปอย่างต่อเนื่อง ทางร้านเริ่มสังเกตได้ว่าลูกค้าเก่าที่ต้องการกินพิซซ่าของร้านนั้นเริ่มเข้าถึงพิซซ่าของตนได้ยากมากขึ้น เนื่องจากการรับงานแบบอีเว้นท์จำเป็นต้องย้ายสถานที่ไปเรื่อยๆ และในบางงานก็ไม่ได้เปิดให้คนภายนอกเข้างานได้ ทำให้ตนและแฟนตัดสินใจว่าจะเปิดร้านเป็นสาขาที่ 2 ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและเตรียมการ ซึ่งทางร้านให้ข้อมูลว่าพร้อมเปิดร้านสาขาที่ 2 ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งลักษณะของร้านใหม่นั้นจะเป็นลักษณะของศูนย์อาหาร และจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงพิซซ่าของตนได้เหมือนเดิมโดยที่ไม่ต้องย้ายสถานที่ไปไหน นอกจากนี้ขนาดและราคาของพิซซ่านั้นจะเริ่มจากเส้นผ่านศูนย์กลาง 9-20 นิ้ว และมีราคาตั้งแต่ 300-1,500 บาท
ตั้งเป้ายอดขายต่อวัน
ในแต่ละวันตนและแฟนจะออกไปขายพิซซ่าซึ่งในหนึ่งวันจะมีทั้ง 1 รอบ และ 2 รอบ หรืออาจจะทั้งวันก็มี โดยในแต่ละวันได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องการขายให้ได้ 100 ถาดต่อวัน ซึ่งเวลาเปิดร้านก็จะเริ่มต้นที่ 11:00-14:00 น. และขายอีกทีคือ 17:00-20:00 น. นอกจากนี้ยังเคยทำสถิติยอดขายได้หลักแสนภายใน 1 วันอีกด้วย
ลูกค้าสนใจมากขึ้นรู้สึกอย่างไร
“กิ๊กมีความดีใจและปลื้มมากๆ ที่ตอนนี้พิซซ่าพะแนงของกิ๊กมีลูกค้าชอบเยอะมาก และก็ในที่สุดพิซซ่าอาหารไทยของเราก็เริ่มที่จะออกไปสู่สายตาชาวโลก สำหรับกิ๊กเนี่ยการทำอาหารไม่มีขอบเขตนะคะ ถ้าเกิดว่าทำออกมาแล้วรสชาติดี ทำออกมาแล้วอร่อยนะคะ เราสามารถที่จะประยุกต์ได้ทุกอย่าง”
อย่างไรก็ตามตนและแฟนอาศัยอยู่ในรัฐไอดาโฮ อเมริกา ซึ่งตนมีทั้งเพจเฟซบุ๊กและได้เปิดช่องยูทูปเป็นของตนเองและมีผู้ติดตามหลักแสนคน ทำให้ธุรกิจของตนเป็นที่สนใจแก่กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก รวมถึงธุรกิจของตนยังได้ลงข่าวหนังสือพิมพ์และรายการทีวีของสื่อต่างประเทศอีกด้วย ถือเป็นความภาคภูมิใจที่คนไทยสามารถเติบโตได้ในต่างประเทศ พร้อมทั้งได้นำเอาอาหารไทยไปประยุกต์เข้ากับอาหารต่างประเทศอย่างลงตัวอีกด้วย
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : กิ๊กอินเมกา แฟนเพจ
Youtube : กิ๊กอินเมกา
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *