xs
xsm
sm
md
lg

อารัมโกทวงคืนแชมป์บริษัทมูลค่าสูงสุดในโลก หลังแอปเปิลติดร่างแหกระแสทิ้งหุ้นกลุ่มไฮเทค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


แอปเปิลคืนตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกให้อารัมโก หลังราคาหุ้นร่วงตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ซาอุดี อารัมโกซิวตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกคืนจากแอปเปิลได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากราคาน้ำมันทะยานลิ่วต่อเนื่อง ขณะที่แอปเปิลเจอหางเลขจากกระแสการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อีกทั้งยังมีปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานจากมาตรการล็อกดาวน์ในจีน

นักลงทุนพากันขายหุ้นบริษัทไฮเทคและย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า กระแสนี้ยังฉุดให้ราคาบิตคอยน์ รวมถึงคริปโตสำคัญอีกหลายสกุล และสินทรัพย์ดิจิตอลอื่นๆ ร่วงกราว

ราคาหุ้นของแอปเปิลเมื่อวันพุธ (11) ในตลาดนิวยอร์กตกลงกว่า 5% และปิดการซื้อขายด้วยมูลค่าตามราคาตลาดที่ 2.37 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ข้อมูลจากรีฟินิทีฟระบุว่า มูลค่าของอารัมโกอยู่ที่ราว 2.43 ล้านล้านดอลลาร์ จึงถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียคว้าตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกนับจากปี 2020 หลังจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานทะยานลิ่วตามต้นทุนน้ำมันและก๊าซในตลาดโลก

มูลค่าตามราคาตลาดปีนี้ผันผวนอย่างมาก ช่วงต้นปีแอปเปิลกลายเป็นบริษัทแห่งแรกในโลกที่มีมูลค่าแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และคว้าตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก

อารัมโกเคยครองตำแหน่งนี้มาก่อนหลังการทำไอพีโอ (การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก) ครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปี 2019 ที่ส่งให้มูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นเป็น 2 ล้านล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ตลาดแนสแด็กปิดการซื้อขายในวันพุธลดลง 3.2% หลังจากมีการรายงานข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า อัตราเงินเฟ้อของอเมริกายังคงปักหลักใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี

อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากเผชิญวิกฤตโควิด-19
ธนาคารกลางทั่วโลกพากันรับมือปัญหานี้ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งกระตุ้นให้เงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากกังวลว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว

ความเคลื่อนไหวนี้ฉุดราคาบิตคอยน์ดิ่งลงต่ำกว่า 27,000 ดอลลาร์ ต่ำกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วถึงราว 60%

ในทางกลับกัน ปีนี้ราคาน้ำมันพุ่งพรวดทำสถิติสูงสุดหลายต่อหลายครั้ง จากความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า ซัปพลายจากรัสเซียอาจสะดุดนับจากที่มอสโกเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ทะยานขึ้นราว 36% ในปีนี้ และเทรดอยู่แถวๆ 106.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้เล่นอย่างซาอุดี อารัมโก ที่ราคาหุ้นวิ่งฉิว 27% ตั้งแต่ต้นปี สวนทางกับราคาหุ้นแอปเปิลที่ดิ่งลงกว่า 17% นับจากเดือนมกราคม

ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่สุดในองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และซาอุดี อารัมโกโกยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 110,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว จาก 49,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020

ขณะเดียวกัน ช่วงที่ผ่านมา แอปเปิลเผชิญปัญหาห่วงโซ่อุปทานสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนที่โรงงานของซัปพลายเออร์หลายแห่งหยุดทำงานชั่วคราวขณะที่มีการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่

เดือนที่แล้วผู้ผลิตไอโฟนแห่งนี้เตือนว่า อาจขาดทุนก้อนใหญ่สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่ยังคงดำเนินอยู่ และแจงว่า ปัญหาการผลิตและลอจิสติกส์อาจฉุดยอดขาย 4,000-8,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสปัจจุบัน

ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ (ซีอีโอ) แอปเปิลแจงว่า สถานการณ์ตึงเครียดของบริษัทกระจุกอยู่รอบบริเวณ “ระเบียงเซี่ยงไฮ้”

แดน ไอเวส กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ เว็ดบุช ซีเคียวริตี้ส์ บอกว่า ผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในจีนเป็น “ตัวถ่วงสำหรับไตรมาส 2” และเพิ่มเติมว่า ปัญหาห่วงโซ่อุปทานของแอปเปิลในจีนมีแนวโน้มว่า จะยังคงเป็น “ข้อกังวลสำคัญที่สุด” สำหรับนักลงทุนในระยะสั้น แต่อาจผ่อนคลายลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ซึ่งคาดว่า แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟน 14
กำลังโหลดความคิดเห็น