xs
xsm
sm
md
lg

อนาคตเหรียญ LUNA กับโอปป้าปลาร้าเดือด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของอุตสาหกรรมคริปโตฯ โลก เพราะภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน จากวันที่ 9 พ.ค.2565 เวลา 01.39 น. เหรียญ LUNA ยังเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,322.56 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 3 วัน ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงกว่า -100% มูลค่าติดลบภายในระยะเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น ราคาเหรียญ LUNA ของ Terra สูญสิ้นมูลค่า ล่มสลายกลายเป็นมวลอากาศดิจิทัลไปโดยปริยาย ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้กระดานเทรด Bitkub ได้พักการทำธุรกรรมทั้งหมดของเหรียญ LUNA จากความผันผวนอย่างรุนแรงและอาจเตรียมที่จะเพิกถอนเหรียญดังกล่าวออกไปจากกระดาน

เพราะอะไรจึงเป็นสาเหตุให้เหรียญ LUNA (Terra) ถึงล่มสลายกลายเป็นเถ้าธุลีดิจิทัล ภายในเวลาเพียง 5 วัน...มันเกิดอะไรขึ้น

อาจเป็นความบังเอิญ หรือเจ้ากรรมนายเวร Do Kwon ตามมาทัน LUNA ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะช่วงเวลาที่เกิดการล่มสลายของเหรียญ LUNA นั้น มาพร้อมๆ กันกับเหตุการณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น เพราะจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนล่าสุดที่พุ่งสูงถึงกว่า 8.3% จึงสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่อาจอยู่เฉยต่อไปได้ เพราะหากล่าช้าอาจทำให้ตัวเลขวิกฤตเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นได้อีก จึงต้องเร่งใช้ยาแรงมาฆ่าเชื้อพิษเศรษฐกิจประเทศที่กำลังกลัดหนอง และเชื้อไวรัสเงินเฟ้อก็ระบาดไปยังหลายๆ ประเทศ จากปัญหาที่มาจาก COVID-19 หวังกระตุ้นการพลิกฟื้นกลับฟื้นคืนขึ้นมา

ขณะที่ในส่วนของตัว LUNA เองนั้นก็ประกาศเดินหน้าแพลตฟอร์มการออมเหรียญ Anchor Protocol ของ Terra Chain ซึ่งคุยฟุ้งว่าให้ดอกเบี้ยสูงถึง 20% โดยให้คนนำเงินในช่วงที่ตลาดหมีจำศีล แปลงเป็น USDT เพื่อที่จะนำมาออมใน Anchor Protocol ได้ ซึ่งในขณะนั้นการออมเงินในแพลตฟอร์มถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่เสี่ยงน้อยและปลอดภัย

จากมุมมองการวิเคราะห์เหรียญ LUNA ของ @OnChainWizard ผ่านทางทวิตเตอร์ มองว่า คนทำการช็อตบิตคอยน์ คาดว่าจะเป็นวาฬหรือกองทุนก็เป็นได้ ซึ่ง (ปลาวาฬ) ในตลาดเงินดิจิทัลหมายถึงนักลงทุนที่มีเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ไว้ในครอบครองเป็นจำนวนมาก

การโจมตีครั้งนี้เกิดจากจุดอ่อนของระบบ Luna Foundation Guard หรือสกุลเงิน LFG ที่มีไว้ป้องกันแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และจึงเกิดการช็อตบิตคอยน์เพื่อโจมตีจุดอ่อนนี้ วิธีการคือ ซื้อ UST มาเป็นจำนวนมากและเมื่อแผนการช็อตเริ่มก็กดลดราคาลงใส่ตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้ UST ไม่สามารถเติบโตได้ต่อไป และทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนสูญเสียไป และทำให้คนกังวลและเทขายเพื่อจะให้ขาดทุนน้อยที่สุด ซึ่งกลไกนี้ทำให้เกิดช่องโหว่ของ LUNA เพราะหากสกุลเงิน UST และ LUNA ไม่สามารถสลับกันเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ LFG จะต้องทำการขายบิตคอยน์ เพื่อนำเงินมาซื้อ UST กลับทำให้สกุลเงินทั้งหมดถูกโจมตีอย่างสมบูรณ์ ทั้งบิตคอยน์ LUNA และ UST ราคาร่วง

ขณะที่นายกานต์นิธิ ทองธนากุล เจ้าของเพจ Kim Defi Daddy ได้ให้มุมมองต่อเหรียญ LUNA ผ่านทางเพจ Kim Defi Daddy ว่า "ด้วยกลไกของ UST และการพยายามที่จะกลับมา $1 ต้องมีการ Mint Luna ออกมามหาศาล จนตอนนี้ Total Supply ทะลุ 3,100 ล้าน Luna เข้าไปแล้ว ใครที่อวยหรือกาว Luna ตอนนี้วางถุงกาวกันก่อนนะครับ ผมเตือนด้วยความหวังดี เพราะตอนนี้ผมก็ยังจินตนาการไม่ออกเลยว่า Luna จะลงไปได้ขนาดไหน ยังไม่นับเหล่า Validator Node ของ Terra Chain ที่มีการ Unstake Luna ออกมารอขายอีก"

นั่นหมายความว่า LUNA ซึ่งทำหน้าที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อรักษาค่าเงินดอลลาร์ของ UST ตามนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นของ Terra ดังนั้น เมื่อค่า UST สูงกว่า $1.00 โปรโตคอล Terra จะกระตุ้นให้ผู้ใช้เบิร์น LUNA และ mint UST และ ฝในทางกลับกัน เมื่อราคาของ UST ลดลงต่ำกว่า $1.00 โปรโตคอลจะให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการเผา UST และ mint LUNA ดังนั้น ระหว่างการลดอุปทานของ UST การประเมินมูลค่าของ LUNA ควรลดลง ในทำนองเดียวกัน เมื่ออุปทานของ UST ขยายตัว การประเมินมูลค่าของ LUNA จะเพิ่มขึ้น แต่จากปัญหาการ mint LUNA ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่สมดุลต่ออุปสงค์และอุปทาน โดยยึดโปรโมชันการออมดอกเบี้ยสูงมากระตุ้นเพื่อดึงดูดใจนักลงทุน (แม้ว่าทาง LUNA พยายามที่จะกลับลำด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยการออมที่ให้กับนักลงทุน) และทาง LUNA ประกาศที่จะเผา UST ทั้งหมด 1,388,233,195 UST คิดเป็น 11% Supply ที่มีเพื่อปรับสมดุล แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันการณ์เสียแล้วเพราะปัญหาเงินเฟ้อในระบบของตัว LUNA เองที่กดสวิตช์ทำลายตัวเอง

LUNA ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเหรียญ TOP Loser ของวันนี้ -100% มูลค่าเหลือ 0.00 บาท
ล่าสุด หลายกระดานเทรด โดยเฉพาะกระดานเทรดขวัญใจวัยรุ่นคริปโตฯ อย่าง Bitkub ก็ได้ประกาศหยุดการซื้อขายเหรียญ LUNA เป็นการชั่วคราว ในช่วงเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ของวันนี้ (13 พ.ค.) ซึ่งราคาเหรียญ LUNA ในกระดานเทรด Bitkub ก็ติด -100% ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเหรียญ TOP Loser ของวันนี้ และได้มีการเพิ่มจุดทศนิยมของเหรียญ LUNA ขึ้นมาอีก 10 หลักก่อนที่จะมีการหยุดการซื้อขาย และแนวโน้มอาจมีการ Delist ออกจากกระดานตามลำดับต่อไป ซึ่งกระดานเทรดต่างประเทศ เช่น Binance ก็ได้ประกาศในการเพิกถอนเหรียญ LUNA ออกจากระบบแล้ว โดยจะทยอยเพิกถอนออกไปจากระบบคู่เหรียญและประเภทการเทรดตามลำดับ

วันศุกร์ที่ 13 พ.ค. เป็นศุกร์สยองของนักลงทุนหลายคน เพราะหลายคนที่เข้าเก็บเหรียญ LUNA ตั้งแต่ราคาหลักพันต้นๆ ไหลลงมาหลักร้อย และหลักสิบ จนถึงหลักหน่วยและหมดสิ้นมูลค่า ซึ่งมีทั้งคัตลอสตัดขายขาดทุนทัน และปล่อยเก็บเป็นเหรียญโปรยทานดิจิทัลไว้เป็นที่ระลึกขวัญถุง หรือติดไว้ใน hardware wallet เพื่อรอวันฟื้นคืนชีพกลับมายืนเหนือ 3,000 บาท/เหรียญ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะถึงวันนั้นเมื่อไหร่

นักลงทุนชาวภารตะโพสต์จดหมายตอบทวิตของ Do Kwon ถึงความเลวร้ายที่เกิดจากการลงทุนจนถึงขั้นลาตาย
การปรับตัวลงอย่างรวดเร็วของเหรียญ LUNA นอกจากจะต้องจารึกเป็นประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมคริปโตฯ แล้ว ยังกลายเป็นโศกนาฏกรรมของนักลงทุนทั่วโลกด้วย โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักลงทุนชาวภารตะซึ่งสูญเงินในการลงทุนไปกว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 41.67 ล้านบาท โดยพยายามฆ่าตัวตาย โดย @Akassh03 ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ ได้โพสต์เรื่องราวของเพื่อนใต้ทวีตของ Do Kwon ผู้ก่อตั้ง Terraform Labs ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญ LUNA ว่า “เพื่อนผมคนหนึ่งพยายามฆ่าตัวตาย แต่พวกเราช่วยเขาไว้ได้ทัน ตอนนี้เขาอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งเขาเสียเงินไปกับ $LUNA 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ $LUNA คุณทำอะไรลงไปเนี่ย” พร้อมกับโพสต์ภาพซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจดหมายสั่งเสียก่อนลาตาย

ขณะเดียวกัน ทางฟากของ Do Kwon ผู้ก่อตั้ง Terraform Labs ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญ LUNA ก็ดูเหมือนจะตกที่นั่งลำบากไม่น้อย เพราะหลังเหตุการณ์ล่มสลายของเหรียญ LUNA ก็กลายเป็นเป้านิ่งของนักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย ถึงขั้นที่ Do Kwon ต้องร้องขอให้ทางตำรวจเข้ามาคุ้มกันความปลอดภัย เมื่อ news.mt ช่องข่าวที่เป็นสื่อท้องถิ่นของเกาหลี รายงานเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ว่า มีชายลึกลับได้บุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของ CEO Do Kwon และกดกริ่งเมื่อเวลาประมาณ 18.23 น.ของเมื่อวานนี้ โดยในรายงานระบุว่านาย A ซึ่งเป็นบุคคลไม่ทราบชื่อได้มาถึงหน้าที่พักของ Do Kwon โดยนาย A ซึ่งเป็นบุคคลไม่ทราบชื่อได้มาถึงหน้าที่พักของ Do Kwon โดยใช้ลิฟต์และบันได หลังจากเดินผ่านช่องว่างระหว่างผู้ที่อยู่อาศัยจากประตูทางเข้าส่วนกลางของอพาร์ตเมนต์ที่ผู้เคราะห์ร้ายอาศัยอยู่ ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งหลังจากนั้น Do Kwon ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความต่อสถานีตำรวจซองดง ในกรุงโซล เพื่อขอรับความคุ้มครองเป็นกรณีฉุกเฉินและถูกกำหนดให้เป็นเหยื่ออาชญากรรมตามมาตรการด้านความปลอดภัย (การคุ้มครองส่วนบุคคล) ของเกาหลีใต้ ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลที่อาจตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม อาจต้องมีเข้าสู่มาตรการคุ้มกันและคุ้มครองยังเซฟเฮาส์ ตามที่ตำรวจกำหนด พร้อมทั้งสืบหาผู้ต้องสงสัยนั้นเพิ่มเติมด้วย

Do Kwon หรือโดควอน ถือเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวง Cryptocurrency จากการเป็น CEO และผู้ก่อตั้งของ Terraform Labs เครือข่ายบล็อกเชน Terra และเจ้าของเหรียญ LUNA รวมถึง Stable Coin UST ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสกุลเงินในการเทรดคริปโตฯ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยปัจจุบัน Do Kwon มีอายุ 31 ปี โดยเกิดและเติบโตที่ประเทศเกาหลีใต้ ในครอบครัวเภสัชกรและนักขายเครื่องมือทางการแพทย์ ขณะเดียวกัน จากปมการถูกเพื่อนล้อในวัยเด็กว่าเป็นเด็กเนิร์ด ที่ยึดติดกับทฤษฎีต่างๆ เกือบทุกเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความเข้มงวดของครอบครัวก็ผลักดันให้ Do Kwon ได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford) ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งหลังจากที่เรียนจบ Do Kwon ได้ตัดสินใจเข้าทำงานกับ Microsoft ก่อนจะแยกตัวออกมาก่อตั้ง Anyfi บริษัทเครือข่ายในการถ่ายทอดแบนด์วิธ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทางรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เขารู้จักกับคริปโตฯ และเบนเข็มชีวิตเข้าสู่อุตสาหกรรมคริปโตฯ อย่างเต็มตัวจนก่อร่างสร้าง Terra เครือข่ายบล็อกเชน 1 ใน 10 ของโลก

ซึ่งจุดเด่นของ Terra นั้นครอบคลุมในการใช้งานของคริปโตฯ เกือบทั้งหมด โดยมีเหรียญ LUNA เป็นเรือธงซึ่งก็คือ Governance Token ของ DeFi Protocol รวมถึง Anchor, Mirror และ Stable Coin UST, และ Terra Blockchain ซึ่งเป็นสายโซ่ของตัวเองในการเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการรายอื่น

แม้ทั่วโลกจะให้การยอมรับ Do Kwon ในความเป็นอัจฉริยะอายุน้อย เป็นช้างเผือกของวงการคริปโตฯ และความภาคภูมิใจของชาวเกาหลีใต้ แต่ปกติของคน ย่อมเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ในอีกด้านมืดของ Do Kwon ที่กลายเป็นวีรกรรมและพฤติกรรมน่ารังเกียจของเขากลายเป็นสิ่งที่สร้างรอยมลทินให้ชีวิต และความทรงจำด้านลบของผู้ก่อตั้ง LUNA Coin ในโลกคริปโตฯ จากการทวีตของเขาว่า “I don’t debate the poor on Twitter, and sorry I don’t have any change on me for her at the moment.” (ผมไม่เถียงกับพวกคนจนในทวิตเตอร์หรอกนะ และโทษที ตอนนี้ผมไม่มีเศษเงินทอนจะให้ใคร)

นอกจากนี้ ยังมีการเหยียดหยามเชิงดูหมิ่นด้วยการโพสต์ทวีตถึงเหรียญคู่แข่งอีกว่า “By my hand $DAI will die.”(เหรียญ DAI จะตายด้วยมือของฉัน) อีกด้วย

แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะสร้างการจดจำให้สำหรับนักลงทุนไทย และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างดี คือ การที่เขาประกาศเชิงท้าทายต่อธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ว่าจะสร้างบาทดิจิทัล "ไทยบาทดิจิทัล หรือ THT" ซึ่ง Do Kwon กล่าวในทวิตเตอร์อย่างทระนงว่า “จะมีการสร้าง THR และนำไปใช้งาน ไม่ว่า ธปท. จะชอบหรือไม่ก็ตาม” ซึ่งจะถือเป็นการโยนหินถามทางหรือท้าทายหน่วยงานกำกับดูแลการเงินไทยก็ตามที แต่วันนี้สิ่งที่พิสูจน์แล้วถึงความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรมคริปโตฯ ที่ต้องจารึก Do Kwon และเหรียญ LUNA ไว้ในประวัติศาสตร์ 5 วัน -100% เราอาจจะได้เห็น LUNA กลับมาในเร็วๆ นี้ หรือไปแล้วไปลับไม่กลับมาก็ได้ ซึ่งยังไม่มีคาดการณ์อนาคตหลังจากนี้ได้




กำลังโหลดความคิดเห็น