xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ชงตั้งคณะอนุกรรมการดูแลน้ำมันปาล์ม ผลิต-ขายให้สมดุล ป้องกันขาดแคลน-กระทบผู้บริโภค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“จุรินทร์” ชงตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ฝ่ายกำกับดูแลสถานการณ์น้ำมันปาล์ม การผลิต การตลาด ราคา ปริมาณสต๊อก ให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุล ไม่เกิดปัญหาขาดแคลน ราคาเหมะสม และไม่กระทบผู้บริโภค เตรียมเสนอ กนป.ต่อไป เผยปัจจุบันต้นทุนน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอยู่ที่ 76 บาท แต่ดูแลราคาปลายทางได้ที่ 65-68 บาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดครั้งที่ 1/2565 ว่า ได้ตั้งคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย 3 ฝ่าย คือ 1. หน่วยงานภาครัฐ 2. ตัวแทนเกษตรกร และ 3. ตัวแทนผู้ประกอบการ โดยตัวแทนภาครัฐมี 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1. กรมการค้าภายใน 2. กรมการค้าต่างประเทศ 3. กรมศุลกากร 4. สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 5. กรมพัฒนาพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน ตัวแทนเกษตรกรและผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 1. สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม 2. สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม 3. สมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย และ 4. ผู้แทนคลังรับฝากน้ำมันปาล์ม เพื่อให้การบริหารจัดการผลปาล์มดิบของเกษตรกร การผลิตน้ำมันปาล์มดิบของโรงสกัด และโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มรีไฟน์ เข้าสู่ภาวะสมดุล ไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนสำหรับบริโภค และมีเสถียรภาพด้านราคาเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งเกษตรกร และผู้ประกอบการโรงสกัด

คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่สำคัญ คือ  1. วิเคราะห์สถานการณ์การผลิต การตลาด ราคาและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์ม 2. ให้กำหนดปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่เหมาะสมกับสถานการณ์และให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ เพื่อป้องกันน้ำมันปาล์มขาดแคลน 3. ให้มีหน้าที่กำหนดมาตรการแนวทางเงื่อนไขหลักเกณฑ์วิธีการและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการให้เกิดความสมดุลของน้ำมันปาล์มให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติ และภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ต่อไปด้วย

นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้มีมติให้รับทราบข้อสั่งการของกรมการค้าภายในที่อธิบดีได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศตรวจสต๊อก และรายงานสต๊อกให้คณะอนุกรรมการชุดนี้รับทราบทุก 7 วัน นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด ให้มีน้ำมันปาล์มบริโภคเพียงพอ และดูแลราคาให้มีเสถียรภาพเหมาะสมต่อไป เพื่อเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายทั้งเกษตรกร โรงสกัด ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค

“ขณะนี้มีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบอยู่ประมาณ 1.8-2 แสนตัน ต้องยอมรับว่าราคาผลปาล์มสูงขึ้นมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาล ทำให้ผลปาล์มมีราคาสูง เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกร ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาผลปาล์มตกกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาทกว่า ผมเข้ามาบริหารจัดการ ทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้นเป็น 8-12 บาท/กก. แต่อาจจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค จึงต้องมีคณะอนุกรรมการชุดนี้ช่วยดูแลสร้างสมดุล ให้ทุกฝ่ายวิน-วิน ตามนโยบายวิน-วินโมเดล ให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ และกระทรวงพาณิชย์กำกับราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคที่แม้ต้นทุนจะสูงมาก แต่อย่าให้แพงจนเกินควร” นายจุรินทร์กล่าว

ปี 2565 คาดว่าปริมาณผลปาล์มในประเทศจะมีประมาณ 17.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5% ขณะนี้ราคาผลปาล์มในประเทศราคาดีขึ้นมาก เช่นเดียวกับราคาพืชผลการเกษตรอื่นๆ เช่น ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ข้าวหรือผลไม้ ราคาผลปาล์มวันที่ 11 พ.ค. 2565 กิโลกรัมละ 9.80-11.20 บาท เพิ่มขึ้น 52% จากราคาเฉลี่ยปีที่แล้วทั้งปี และเมื่อราคาในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคเพิ่มสูงขึ้นด้วย เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันปาล์มขวด ถ้าคิดตามโครงสร้างต้นทุน จะต้องตกประมาณขวดละ 76 บาท แต่จากการบริหารจัดการของกรมการค้าภายในและกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถปรับราคาลงจาก 76 บาทเหลือประมาณ 65-68 บาทต่อขวด

ทั้งนี้ กรมการค้าภายในระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2565 มีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดแล้ว 5.75 ล้านตัน มากที่สุดในเดือน มี.ค. 2565 จำนวน 1.82 ล้านตัน สำหรับผลผลิตปาล์มน้ำมันในระยะต่อไป มีแนวโน้มลดลง ในเดือน พ.ค. 2565 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวน 1.70 ล้านตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น