xs
xsm
sm
md
lg

“คอฟฟี่ สเลนเดอร์” จับมือ “แอคทิว่า” ทุ่มกว่า 300 ล้าน เขย่าวงการเสริมอาหาร เตรียมปั้นกัญชง กัญชา บุกตลาดออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตลาดเสริมอาหารช่องทางออนไลน์ มีการเติบโตและการแข่งขันอย่างรุนแรง ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เจ้าของโรงงานผลิตปรับตัวทั้งในส่วนของผู้ผลิต และ ผู้จัดจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ ต้องปรับตัวเช่นกัน ทำให้ทางโรงงานผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ อย่าง คอฟฟี่ สเลนเดอร์ ไทยแลนด์ Coffee Slender Thailand ผู้นำด้านผลิตกาแฟ และผลิตภัณฑ์แบบชงพร้อมดื่ม ได้หันมาจับมือ กับผู้นำด้านการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ชื่อว่า แอคทิว่า เฮลล์แคร์ (Activa Health Care) โดยทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท ตั้งเป้าปูทางสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570


ผู้ผลิต จับมือ นักการตลาด ทุ่ม 300 ล้าน เขย่าวงการเสริมอาหาร


นายอุดมศักดิ์ ชื่นครุฑ Chief Executive Officer บริษัทคอฟฟี่ สเลนเดอร์ ไทยแลนด์ (Coffee Slender Thailand) ผู้ผลิตและเครื่องดื่มผงชงสำเร็จรูปพร้อมดื่ม กล่าวว่า บริษัทได้ดำเนินกิจการโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์ผงชงพร้อมดื่มสำเร็จรูปมานานกว่า 13 ปี เจาะกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กว่า 200 ราย หลังจากที่ตลาดเสริมอาหารเพื่อสุขภาพมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้สนใจหันมาเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่มของผงชงสำเร็จรูปมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มกาแฟ ชา โกโก้ ฯลฯ และเพื่อรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดออนไลน์ ทางบริษัทจึงได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับ ผู้นำด้านการตลาดออนไลน์ ในประเทศไทยอย่าง แอคทิว่า เฮลล์แคร์

สำหรับความร่วมในครั้งนี้ ได้ใช้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเปิดโรงงานผลิต 2 แห่ง พร้อมกับแผนที่จะบุกตลาดออนไลน์ แบบเต็มรูปแบบ ONE STOP SERVICE ในการขยายฐานการผลิตกัญชา กัญชง รองรับการบุกตลาดออนไลน์ และการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของทั้งสองบริษัท ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

“การร่วมมือกันในครั้งนี้ เกิดขึ้นมาจาก เดิม “แอคทิว่า” เป็นลูกค้าของบริษัท และเป็นลูกค้าที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี เราก็เลยเลือกให้ “แอคทิว่า” เข้ามาเป็นหุ้นส่วน ซึ่งทำให้การบริการลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการผลิตสินค้ากับ “คอฟฟี่สเลนเดอร์” จะได้บริการครบวงจร ทั้งสินค้าที่มีคุณภาพ และ ทีมที่ปรึกษาด้านการตลาดที่จะเข้ามาช่วยซัพพร็อตด้วย” นายอุดมศักดิ์กล่าว


ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท ปูทางสู่ตลาดหลักทรัพย์ ปี 2570

ที่ผ่านมา คอฟฟี่ สเลนเดอร์ เป็นผู้นำด้านผลิตสินค้าในกลุ่มกาแฟเพื่อสุขภาพ โดยติดหนึ่งใน 5 ของตลาด โดยมียอดขายปีละเกือบ 500 ล้าน เป็นยอดขายที่มาจาก “แอคทิว่า” ไม่ต่ำกว่า 200 กว่าล้าน ซึ่งการพันธมิตร กันในครั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40% โดยแบ่งรายได้จากส่วนของรับจ้างผลิต 70% และในส่วนของการทำแบรนด์ของตัวเองภายใต้การร่วมทุนครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 30% โดยจะได้มีการเพิ่มสินค้าในหมวดของคอลลาเจน และความงามให้มากขึ้น รวมถึงการเจาะตลาดกัญชา และกัญชง ซึ่งเป้าหมายของบริษัทยังคงยึดมั่นการผลิตสินค้าคุณภาพ นำการตลาด เพราะเชื่อว่า สินค้าที่มีคุณภาพ การตลาดก็จะมาเอง

ทั้งนี้ บริษัท ได้ตั้งเป้าการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30-40% และเตรียมนำบริษัท เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี เมื่อถึงเวลานั้น บริษัทน่าจะมีมูลค่ารวมทางธุรกิจมากกว่า 1,200 ล้านบาท


จากร้านขายโทรศัพท์ สู่ ตลาดเสริมอาหารออนไลน์ ยอดขายกว่า 200 ล้านบาท/ปี

นายกิตติพันธ์ เตชะจิรวัฒน์ Chief Executive Officer บริษัท แอคทิว่า เฮลท์แคร์ จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ครั้งนี้ว่า ด้วยบริษัทมีความเชี่ยวชาญทางด้านการทำตลาดออนไลน์ และเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าที่ผลิตจากคอฟฟี่สเลนเดอร์ เพราะที่ผ่านมา เลือกใช้สินค้าที่ผลิตจากโรงงานของ คอฟฟี่สเลนเดอร์ อยู่แล้ว ส่วนการแข่งขันทางด้านการตลาดเสริมอาหารในช่องทางออนไลน์ “แอคทิว่า” เน้นการขายปลีกให้กับลูกค้า และการใช้พรีเซนเตอร์ ส่วนลูกทีมที่เป็นตัวเทนจำหน่ายเป็นส่วนที่สอง ซึ่งไม่ได้มีมาก เหมือนกับผู้ขายออนไลน์คนอื่นๆ ส่วนผลตอบแทนของตัวแทนจำหน่ายอยู่ที่ 40 % ปัจจุบัน ตัวแทนจำหน่ายจะหันไปผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง การทำตลาดออนไลน์ จึงหันมาใช้พรีเซนเตอร์ แทน ซึ่ง พรีเซนเตอร์ ที่เราเลือกใช้จะมีทั้ง ดารานักแสดง คนที่มีชื่อเสียง เซเลป คนดัง ฯลฯ แต่ยังเชื่อว่า สิ่งสำคัญ ยังเป็นคุณภาพของสินค้ามาก่อน และพรีเซนเตอร์ที่มีชื่อเสียง จะรับเฉพาะสินค้าที่มีคุณภาพเท่านั้น

ในส่วนของ ประวัติ “แอคทิว่า” ที่ผ่านมา “แอคทิว่า” การทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หลังจากนั้น ได้มารู้จักกับกาแฟ คอฟฟี่สเลนเดอร์ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น แบบก้าวกระโดด โดยเริ่มจากยอดขายวันละ หลักแสน เพิ่มเป็นวันละ หลักล้าน โดยเคยมียอดขายถึงวันละ 3ล้านบาท รายได้มาจากการขายปลีก ส่วนรายได้จากตัวแทน 20 คน ตัวแทนมีรายได้เป็นหลักร้อยล้านบาท เช่นกัน โดย แอคทิว่า เปิดทำธุรกิจอาหารเสริมทางออนไลน์ มากว่า 7 ปี ภายใต้แบรนด์ของตนเอง


“กิตติพันธ์” เล่าว่า เดิมทำอาชีพขายโทรศัพท์มือถือ แต่พอเห็นตลาดเสริมอาหารทางออนไลน์ มันโต ประกอบกับช่วงนั้น แฟนอ้วนมากหลังจากคลอด และแฟนได้กินอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง และน้ำหนักลดได้จริง ก็เลยชวนแฟนมาขาย แรกขายวันละไม่กี่บาท ตอนหลังพอเริ่มซื้อโฆษณาเฟสบุ๊ก รายได้เพิ่มวันละหลักแสน บาท ไปจนถึงหลักล้านบาท ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่บริษัททำการตลาดและประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้กับเราในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ โชว่า มีเช่ วาร์ตี้ และ บลาๆๆๆ เป็นต้น

“โดยในส่วนของแผนการตลาด เพื่อสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทได้ดำเนินการออกมาใน 2 รูปแบบ ในส่วนของ OEM ทางคอฟฟี่สเลนเดอร์ มอบหมายทาง แอคทิว่า เป็น ศูนย์กลาง (HUB) ให้กับ คอฟฟี่สเลนเดอร์ ที่ จังหวัดพิษณุโลก และส่วนรูปแบบที่ 2 ในส่วนของการ ผลิตสินค้าเพื่อขายภายใต้แบรนด์ของเราร่วมกัน มีแผนที่บุกตลาดทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ โดยในส่วนของแผนการประชาสัมพันธ์ จากความร่วมมือในครั้งนี้ คาดว่าจะใช้งบไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทผ่านพรีเซนเตอร์”


ตลาดเสริมอาหาร มาถึงจุดหันมาสร้างแบรนด์ โดยใช้พรีเซนเตอร์ ในขณะที่ตัวแทนที่มียอดขายเยอะ หันไปทำแบรนด์ของตัวเอง ส่งให้ผู้ผลิตยังคงได้เปรียบทางการตลาด เพราะได้กลุ่มลูกค้า ที่เคยเป็นตัวแทน หันมาสร้างแบรนด์ และต้องใช้โรงงานผลิต เหล่านั้น เป็นเหตุผลที่ทำให้ปัจจุบัน จะได้เห็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หันมาเปิดโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกันมากขึ้น และสร้างรายได้หลักหลายร้อยล้าน ไปจนถึง พันล้าน


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager

กำลังโหลดความคิดเห็น