“พรีราน่า (PRERANA) เป็นภาษาอินเดียแปลว่าแรงบันดาลใจ แปลว่ากล่องของเราคนได้เห็นได้จับภายนอกก็รู้สึก มีแรงบันดาลใจ ยกใจของคนใช้ให้รู้สึกร่ำรวยรู้สึกถึงความสวยงาม”
เบลล์-ปาเจรา เอียสกุล ปัจจุบันอายุ 34 ปีเจ้าของแบรนด์ PRERANA เผยถึงที่มาของชื่อ “พรีราน่า” กล่องใส่เครื่องประดับ กล่องพรีเมียม ซึ่งเจ้าตัวริเริ่มธุรกิจนี้มาได้กว่า 6 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นเบลล์บอกว่าตนเองเรียนจบมาทางด้านวิศวกรรมปิโตรเคมี เคยทำงานประจำในตำแหน่ง “วิศวกร” อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมานานถึง 9 ปีเต็ม โดยทำเกี่ยวกับการผลิตเม็ดพลาสติก จากนั้นจึงตัดสินใจลาออกมาเพื่อทำตามความฝัน อยากจะเป็นเจ้าของกิจการมีธุรกิจที่เป็นของตนเอง
“น้องชายมาชวนว่าสนใจทำกล่องไหม? เพราะน้องชายมีประสบการณ์ในการทำกล่องมาก่อน ตอนนั้นเบลล์แค่ใฝ่ฝันว่าอยากมีธุรกิจเป็นของตนเองก็เลยได้ลองไปดูสินค้า แล้วเบลล์ก็เกิดความรู้สึกว่า เฮ้ยสวยดี! ทำเลย ไม่ได้คิดอะไรเยอะ ด้วยเพราะว่าอยากมีธุรกิจก็เลยเริ่มเลย”
จากจุดเริ่มในการผลิตโดยทำ “กล่องใส่พระ” ส่งที่ตลาดสำเพ็งก่อน จากเล็ก ๆ แล้วพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมีความรู้สึกว่า สินค้าที่ผลิตอยู่มันสามารถใส่ของอะไรที่ดูแพงหรือมีราคาได้ พัฒนาได้หลายฟังก์ชันอีก ทำให้เกิดไอเดียต่อยอดธุรกิจแตกไลน์สินค้าออกมาในรูปแบบใหม่ ๆ มีความหลากหลายด้านการใช้งานมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน
“เราอยากจะฉีกแนวตลาดที่ ทำไมไปสำเพ็งต้องเจอแต่กล่องกำมะหยี่โหล ๆ มันทำได้สวยกว่านี้นะ หรือไปซื้อร้านทองร้านเพชรก็จะเจอแต่กล่องคล้าย ๆ กัน ก็จะเป็นลักษณะเป็นกล่องกำมะหยี่พ่น มีแค่สีแดง สีน้ำเงิน แต่เราพอมาศึกษาเรื่องวัตถุดิบด้วยประสบการณ์ที่เคยอยู่โรงงานมา ทำให้เรารู้สึกว่าทำยังไงให้ผลิตได้เร็วผลิตได้ต้นทุนที่ถูก แล้วก็พัฒนาสินค้ายังไงให้เร็วกระชับขายได้ ทำให้เราพัฒนาสินค้าของเราขึ้นมาแนวไม่เหมือนคนอื่น เลยเป็นจุดต่างที่ลูกค้าชอบ แล้วเราเปิดรับในการ customize ให้ลูกค้า ให้ตรงการใช้งานและความต้องการมากขึ้น”
เจ้าของแบรนด์ PRERANA ยังบอกด้วย กล่องที่ลูกค้าสั่งไปส่วนใหญ่จะใส่เครื่องประดับ ทองคำแท่ง(ซึ่งปัจจุบันฮิตมากการเก็บทองคำ) ใช้ในงานแต่งงานก็ได้ หรือบางคนใช้เก็บสมบัติส่วนตัว แล้วก็ยังมีกล่องใส่นาฬิกาที่หลาย ๆ คนสะสมนาฬิกา หรือใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ผู้หญิงที่ไม่มีนาฬิกาเพียงเรือนเดียวแน่นอน ใส่จิลเวอรี่หลาย ๆ ชิ้น เช่นมี สร้อย แหวน กำไล ไม่ต้องระเกะระกะที่เก๊ะ กล่องนี้จะช่วยประหยัดเวลาและไม่หายด้วย แล้วก็ยังมีกล่องใส่เงินสด(ตอนนี้ฮิตมาก) คนจะเก็บเงินสดไว้ที่บ้าน บางทีใส่ตู้เซฟแต่ข้างในมีใส่ไว้หลายอย่างซึ่งกล่องนี้ก็จะช่วยเก็บเงินสดให้ ใส่ของมีค่าต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มของลูกค้าองค์กรก็สั่งกล่องซึ่งสามารถผลิตได้ตั้งแต่ไซส์ เล็ก ๆ ใส่แหวน ต่างหู จนเป็นไซส์ใหญ่ ใส่เครื่องประดับหรือไซส์ใหญ่มาก ๆ
เช่นเอาไปใส่กระเป๋า ใส่มงกุฎก็มี เป็นงานประกวดประจำจังหวัด(ใส่มงกุฎ) หรือทำกระทั่งเป็น “ถาดจัดระเบียบ” ที่อยู่ในห้องแต่งตัว สามารถ customize ตามแบบที่ลูกค้าต้องการได้ เป็นการใช้พื้นที่บ้านให้คุ้มค่า ซึ่งก็มีบริการ “ออกแบบฟรี” ตรงนี้ให้ด้วย
รูปแบบการตลาดเบลล์บอกว่า ตอนเริ่มธุรกิจ 100% ใช้การตลาดผ่านออนไลน์ เริ่มมีร้านค้าออนไลน์ เริ่มยิงแอดโฆษณาในเฟซบุ้กกับกูเกิ้ลด้วย จนปัจจุบันก็จะมีลูกค้าในส่วนของ “กลุ่มเก่า” ที่มาใช้ซ้ำและการบอกต่อมากขึ้น ก็จะเป็นประมาณสัก 20% แต่หลัก ๆ ก็ยังเป็นออนไลน์อยู่ ลูกค้าที่เป็นองค์กรหรือกลุ่มใหญ่ก็มาทางออนไลน์ จะทักมาที่หน้าร้านก่อนแล้วค่อยมีการนัดเข้าไปพบ การตลาดหลัก ๆ ก็ยังเป็นออนไลน์มากกว่า 80%
“ลูกค้าของเราก็จะมีทั้งในส่วนที่เป็น เอาไปใช้เองหรือที่เรียกว่า B2C และก็ในรูปแบบของที่เป็น B2B คือเป็นลูกค้าที่สั่งไปขายต่อ เช่น กล่องใส่พระ กล่องใส่นาฬิกา ลูกค้าก็จะรับไปขายต่อในลาซาด้า ช๊อปปี้อีกที เราก็จะขายราคาส่งให้เขา แล้วก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นแบรนด์สินค้าของตนเอง เช่นเป็นร้านเพชร ร้านขายเครื่องประดับ ก็จะมาสั่งกล่องตีแบรนด์ของเขาเอง หรือเป็นกล่องใส่น้ำหอม กล่องใส่ไวน์ กล่องใส่เสื้อผ้าเราก็ทำ ด้วยรูปแบบของกล่องของเราทำให้ลูกค้าสามารถ สร้างเอกลักษณ์ ในสินค้าของลูกค้าเอง ขายของได้ดีขึ้นแพงขึ้น ด้วยจากแพ็คเกจจิ้งที่สวยงามของเรา แล้วก็จะมีกลุ่มลูกค้าที่ “แต่งงาน” โดยเฉพาะที่ฮิตของเรา ถ้าไปดูรีวิวในเฟซบุ้กจะรีวิวแน่นมากก็คือจะเป็นกล่องแต่งงานก็เป็นเซ็ตสินสอดเลยค่ะ ในกล่องสามารถใส่ทองคำ เครื่องประดับ นาฬิกา พร้อมปักชื่อของลูกค้า ไม่ต้องสั่งจำนวนเยอะก็ได้ สั่งใบเดียวเราก็ทำ หรือจะสั่งเป็นจำนวนเยอะเราก็มีราคาส่งให้”
สำหรับราคาของกล่องเนื่องจากจะมีทั้ง สต็อกสินค้า และก็ราคาสั่งทำ ถ้าสินค้าในสต็อกส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราคา 1,000-3,000 บาท ถ้าเป็นงานสั่งทำก็จะอยู่ที่ราคา 2,000-10,000 บาท/ชิ้น(อันนี้ชิ้นเดียวก็ทำได้) แต่กรณีที่เป็นลูกค้าขายส่งก็มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ไม่ถึง 100 บาท มีหลายทางเลือกแต่ว่าสั่งที่จำนวนเยอะ และจากการเป็น “โรงงานผลิตเอง” งานส่วนใหญ่กว่า90% เป็นงานฝีมือโดยคนไทย กำลังการผลิตเนื่องจากงานมีหลากหลายรูปแบบถ้าเป็น งานวอลุ่ม ก็จะอยู่ที่ 1,000-5,000 ใบ/เดือน หรือบางครั้งก็จะมากกว่าขึ้นกับจำนวนชิ้นงานเนื่องจากจะมีงานที่เป็น custom made อยู่ด้วย
“เมื่อปีที่แล้วเบลล์ก็เริ่มช่วงโควิด หาตลาดใหม่ เราก็คิดว่าจริง ๆ สินค้าเราเวลาไปดูต่างประเทศ เขานิยมกันมากเลย พวกถาดจัดระเบียน กล่องใส่เครื่องประดับ เมืองนอกโดยเฉพาะตลาดยุโรป อเมริกา แคนาดา ทำให้เบลล์ลองไปขายในแพลตฟอร์ม
เอซซี่ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มขายงานฝีมือของเมืองนอก ก็มีลูกค้ามาสั่ง ลูกค้าที่แคนาดากับอเมริกา เบลล์เลยมองว่าจริง ๆ มันเป็น Potential มาก ๆ ตอนนี้เป้าหมายปีนี้เลยต้องการที่จะส่งออกค่ะ ส่งออกในรูปแบบของไป support แบรนด์ในการเป็นแพ็คเกจจิ้งพรีเมียม กล่องพรีเมียมให้เขา หรือเป็นลูกค้าที่เป็นอิมพอร์ตเตอร์ รับสินค้าเราไปขายที่เมืองนอก อยากให้คนทั่วโลกได้ใช้ “งานฝีมือ” คนไทยที่สวยงามไม่แพ้ใครค่ะ”
ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เจ้าของแบรนด์ PRERANA บอกว่าก็มีปัญหาเรื่องลูกค้าเลื่อนออร์เดอ แต่เนื่องจากโชคดีที่มีลูกค้าหลายแบบ ลูกค้าที่เป็น B2C สั่งไปใช้จะลดลงเยอะ แต่ลูกค้าที่เป็นกลุ่มองค์กรซื้อไปขายต่อ เขาก็ยังสั่งอยู่ แต่ว่ายอดลดลงกว่าช่วงปกติแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ต้องจัดการก็คือ “ความเชื่อมั่น” ว่ายังไงตลาดก็ต้องกลับมา แล้วก็ไม่หยุดนิ่ง คือถึงแม้มีวิกฤตการณ์ยังเชื่อว่า “ในทุกวิกฤตมีโอกาส” แล้วก็พยายามหาตลาดเพิ่ม อย่างเช่นไปขายเมืองนอกเพิ่ม แล้วก็หาตลาดหาช่องทางการขายเพิ่มขึ้นมาทั้งในประเทศเอง ก็จะมีการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ สินค้านวัตกรรมขึ้นมาเพื่อรองรับ รวมถึงคนงานก็มีปัญหาเรื่อง “โควิด” เหมือนกับที่อื่น ๆ ด้วย แต่เพราะความเชื่อว่าทุกอย่างจัดการได้ ทำให้กลายเป็นว่าจากวิกฤตทำให้ได้เจอซับพลายเออร์ดี ๆพร้อมผลิตเหมือนเป็นคู่ค้าที่ทำให้ มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและโตขึ้นในช่วงวิกฤติด้วย
สอบถามเพิ่มเติมโทร.086-966-2694
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager