xs
xsm
sm
md
lg

Klook รีแบรนด์ รับท่องเที่ยวฟื้นแต่เปลี่ยนแปลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



การตลาด - คลูก (Klook) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำ ประกาศรีแบรนด์ เปิดตัวอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนแปลง โดยตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำที่จะขับเคลื่อนอนาคตใหม่ของการท่องเที่ยวในปี 2565 และปีต่อๆ ไป

อัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ของ Klook (คลูก) นี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ Superunion เอเยนซีด้านแบรนด์ระดับโลก โดยนำเสนอแบรนด์ในคอนเซ็ปต์การชักชวนผู้คนให้ไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ที่มีพลังบวก มีความสดใสสนุกสนานและมีความกระตือรือร้น ซึ่งแก่นของการปรับอัตลักษณ์แบรนด์ในครั้งนี้คือจุดประสงค์ที่เปลี่ยนไปของบริษัทฯ นั่นคือ “สร้างแรงบันดาลใจและเพิ่มพูนช่วงเวลาแห่งความสุข” ตอกย้ำอย่างหนักแน่นที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว


นายมาร์คัส ยง รองประธานด้านการตลาด บริษัท Klook กล่าวว่า การปรับอัตลักษณ์แบรนด์ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการสานสัมพันธ์กับลูกค้าซึ่งหมายถึงการผลักดันการพัฒนาใหม่ๆ และนำเสนอหนทางใหม่ที่จะส่งต่อประสบการณ์แห่งความสุขผ่านแบรนด์ ทั้งนี้ ในขณะที่การท่องเที่ยวกำลังฟื้นฟู ไม่มีเวลาไหนที่จะดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วที่จะนำเสนอ Klook ในรูปแบบใหม่ และส่งเสริมให้ลูกค้าของเราสนุกสนานไปกับการท่องเที่ยวอีกครั้ง

นายแอมบริช ชอว์ดรีย์ กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ บริษัทซุปเปอร์ยูเนียน (Superunion) ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางการรีแบรนด์ของ Klook วันนี้ผู้คนตระหนักแล้วว่าช่วงเวลาที่ได้เดินทางไปต่างประเทศและได้สัมผัสเรียนรู้ประสบการณ์อันแปลกใหม่ส่งผลดีอย่างไรต่อจิตวิญญาณของพวกเขา แบรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้นับเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขดังกล่าวนั่นเอง

Klook ได้ขยายการบริการไปในต่างประเทศมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกแล้ว เช่น จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง ไทย เป็นต้น Klook คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านการเดินทางท่องเที่ยวชั้นนำที่รวมบริการต่างๆ ไว้ในที่เดียว ช่วยให้นักเดินทางเข้าถึงกิจกรรมและบริการการท่องเที่ยวได้ทุกที่ทุกเวลา เราเสาะหาประสบการณ์และกิจกรรมที่ให้ความสุขที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางผจญภัยอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ ด้วยเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของเรา ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับโลกที่สนุกสนาน ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยว โปรแกรมทัวร์ ไปจนถึงบริการการเดินทางและที่พัก เราก่อตั้งขึ้นในปี 2014 จุดมุ่งหมายของเราคือต้องการสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านข้อเสนอกิจกรรมกว่า 490,000 รายการ และครอบคลุมจุดหมายปลายทางกว่า 1,000 แห่ง


นายวิลเฟร็ด ฟาน ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ บริษัท คลูก เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การรีแบรนด์ใหม่นี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับ Klook เราได้เอาชนะอุปสรรคในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อมายืนที่จุดนี้ และไม่มีเวลาไหนที่จะดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วที่จะนำเสนอ Klook ในรูปแบบใหม่ให้ทุกคนได้เห็น ในขณะนี้เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของการท่องเที่ยว การรีแบรนด์ครั้งนี้เป็นความมุ่งมั่นของเราที่จะนำความสุขกลับคืนมาสู่ลูกค้าของเราที่คิดถึงความมหัศจรรย์ของการท่องเที่ยว และเราจะเป็นแอปพลิเคชันคู่ใจสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ

ความมุ่งมั่นของ Klook ที่จะสร้างและมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานหลากหลายให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้จำนวนผลิตภัณฑ์และบริการของ Klook เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยจากเพียง 100,000 รายการในช่วงปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 490,000 กว่ารายการในปี 2564 นอกจากนี้ จำนวนจุดหมายปลายทางยังเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 1,000 แห่งในปี 2564 เพื่อปูทางให้กับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ทุกคนคาดหวัง


แพลตฟอร์ม คลูก ได้เข้ามาเปิดตัวรุกตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2561 และมีการเติบโตต่อเนื่องมาตลอด ด้วยจุดแข็งที่ใช้กันทั่วโลก คือ

1. การชูเรื่องของเทคโนโลยี ในโลกยุคดิจิทัลไลเซชัน ไม่ว่าจะเป็นระบบการติดต่อ การจองห้องพัก การจองสิ่งอำนวยความสะดวกหรือโปรแกรมท่องเที่ยวต่างๆ

2. ระบบการชำระเงิน ที่มีความสะดวกมากมายมากกว่า 35 ช่องทางในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้บริโภคต้องการระบบไร้สัมผัสอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19

3. การพัฒนาและการบริการ โปรแกรมใหม่ต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างตลอดเวลา

การเข้ามารุกตลาดเมืองไทย ในช่วงแรกมีลูกค้าคนไทยเข้าใช้บริการแพลตฟอร์มคลูกเพิ่มถึง 468% และยังมีจำนวนการจองผ่านคลูกเมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด มากถึง 1 ล้าน 6 หมื่นการจอง


ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะเห็นได้ว่า Klook ได้ปรับแนวทางการดำเนินงานและเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นหลัก โดยมีกิจกรรมใหม่ๆ เช่น การทำเวิร์กชอป กิจกรรมเที่ยวชุมชน สเตย์เคชัน ล่องเรือและรถเช่า แม้ว่าตลาดส่วนใหญ่ในเอเชียจะมีข้อกำหนดด้านการป้องกันโควิด-19 แต่แนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จว่ามูลค่ารายได้ของบริษัทฯ ในปี 2564 เอาชนะปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากการท่องเที่ยวภายในประเทศเท่านั้น รวมถึงจำนวนผู้ใช้งานจริงต่อเดือนก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าในช่วงก่อนการแพร่ระบาด และเนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว และมีการผ่อนปรนข้อกำหนดในการเดินทาง

ดังนั้น กลยุทธ์ทั้งสองข้อนี้จะช่วยให้ Klook สามารถรักษาจุดยืนในการเป็นบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไว้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ สถิติที่สำคัญของ Klook คือ
1. มีกิจกรรมและบริการการท่องเที่ยวมากกว่า 280,000 รายการ
2. มีจุดหมายปลายทางทั่วโลกมากกว่า 500 แห่ง
3. คะแนนรีวิวยอดเฉลี่ย 4.7 /5.0
4. มีสื่อการท่องเที่ยวต่างๆ ในรูปแบบของคู่มือ วิดีโอ และรูปภาพ มากกว่า 100,000 รายการ
5. มีพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 15,000 ราย
6. มีสกุลเงินรองรับมากกว่า 41 สกุลเงิน และภาษารองรับมากกว่า 14 ภาษา
7. มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 7 ล้านรีวิว
8. มีการจองผ่านโทรศัพท์มือถือมากกว่า 75% โดยมีคนเข้าชมแพลตฟอร์มมากกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน
ด้วยความเป็นซูเปอร์แอปฯ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ลูกค้าสามารถค้นหาและจองบริการที่ดีที่สุดในแต่ละจุดหมายปลายทางได้ โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Play, Stay และ Move นอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับข้อเสนอใหม่ๆ เช่น โรงแรมที่พักและสเตย์เคชัน รถเช่า บัตรเข้าชมและบริการอื่นๆ เช่น บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และประกันการเดินทาง โดยตัวอย่างบริการการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น

1. Stay+ การพักผ่อนอันน่าทึ่ง: ต่อยอดผลิตภัณฑ์สเตย์เคชันสู่ Stay+ ข้อเสนอ
แพกเกจรวมที่พักและกิจกรรม โดย Stay+ ทำให้ลูกค้าสามารถจองห้องพักในราคาพิเศษที่รวมกิจกรรมต่างๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยว ทัวร์ท้องถิ่น บริการในโรงแรมและอีกมากมาย
2. รถเช่าพาคุณไปได้ทุกที่: ศูนย์รวมตัวเลือกรถเช่าที่มากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียแปซิฟิก เติบโตมากกว่า 350% ในปี 2564 เทียบกับปีก่อน โดยจะยังคงเติบโตมากขึ้นอีกในปี 2565
3. Klook Pass ความสนุกระดับซูเปอร์: รวมแพกเกจที่ดีที่สุดจากกิจกรรมและบริการที่หลากหลาย โดย Klook Pass จะเป็นบัตรกำนัลพิเศษ All-in-one ในรูปแบบดิจิทัล มอบความประหยัด ความสะดวกสบายและประสบการณ์แบบ All-in-one ครบจบในหนึ่งเดียวให้แก่ลูกค้า
4. ประกันเพื่อความสบายใจไร้กังวล: Klook ร่วมกับบริษัท ZA Tech เป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวประกันที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางที่ครบครันในหลายตลาดและมุ่งเน้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก โดย AXA และ Chubb เป็นบริษัทประกันสองรายแรกที่ร่วมมือกับ Klook ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ


Klook มุ่งมั่นเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในยุคใหม่ของการท่องเที่ยว และจะทุ่มเทมากขึ้นให้กับการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อให้พร้อมต่อการท่องเที่ยวในอนาคต

บริษัทฯ ได้เปิดตัว Flickket ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล โดยจะมอบโซลูชันทางเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวสู่โลกดิจิทัลได้เร็วขึ้นและขยายธุรกิจไปได้ทั่วโลก โดยตั้งแต่ปี 2563 จำนวนผู้ประกอบการที่มาเข้าร่วมการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ระบบดิจิทัลมีมากขึ้นถึง 8 เท่า

ทั้งนี้ Flickket จะส่งเสริมผู้ประกอบการในด้านต่างๆ ดังนี้

1. เตรียมความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ : ด้วย Flickket ผู้ประกอบการจะสามารถใช้งาน “Express Go!” ระบบออฟไลน์เช็กเอาต์แบบไร้สัมผัส ลูกค้ารุ่นใหม่ต้องการประสบการณ์ที่ไร้การสัมผัสตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด แต่ผู้ประกอบการหลายคนไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะสามารถใช้งานโซลูชันเหล่านี้ แต่ด้วยบริการ Flickket ของ Klook จะช่วยสนับสนุนดูแลเรื่องโลจิสติกส์และมอบประสบการณ์การซื้อตั๋วแบบไร้รอยต่อ ไร้สัมผัสและไร้เงินสด ให้กับลูกค้า ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวกว่า 20 แห่งทั่วเอเชียใช้งาน “Express Go!” แล้ว
2. เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อให้ได้ประโยชน์เต็มที่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ: ระบบของเราที่ผสานเข้ากับ Things-to-Do ของกูเกิลและแอปพลิเคชัน Grab ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงลูกค้าประเภทต่างๆ ได้มากขึ้น ผู้ประกอบการยังสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกผ่านเครือข่ายพาร์ตเนอร์ของเรา เช่น OTA สายการบิน และอื่นๆ

นายวิลเฟร็ด ฟาน กล่าวว่า วันที่ยิ่งใหญ่กว่า สดใสกว่าและดีกว่าสำหรับพวกเราและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังจะมาถึงแล้ว รอคอยพบกับ Klook รูปแบบใหม่ที่จะตอบโจทย์การท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันนี้ได้เลย 


กำลังโหลดความคิดเห็น