xs
xsm
sm
md
lg

SPRC จ่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันรั่วไหล ตั้งเป้าปีนี้กลั่นน้ำมัน 1.65แสนบาร์เรล/วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



SPRC ตั้งเป้าปีนี้กลั่นน้ำมัน 1.6-1.65 แสนบาร์เรล/วัน ชี้เป็นจุดที่กลั่นได้กำไรสูงสุด โดยค่าการกลั่น (GRM)ที่พุ่งแตะ 5-7 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล พร้อมเร่งหามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเล เพื่อบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายภายในไตรมาส1นี้

นายศักดิ์ชัย ธรรมสุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและวางแผนธุรกิจ SPRC กล่าวถึงกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุนผูกเรือน้ำลึกแบบทุนเดี่ยวกลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ซึ่งตั้งอยู่ห่างชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการกลั่นของบริษัทฯ โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำลังการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 160,000-165,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นจุดที่กลั่นได้กำไรสูงสุด

เนื่องจากช่วงนี้มาร์จินน้ำมันเบนซินและดีเซลอยู่ในอัตราที่สูงโดยมีค่าการกลั่น(GRM)อยู่ที่ 5-7ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นระดับที่สูงต่อเนื่องไปถึงไตรมาส2/2565 ก่อนจะอ่อนค่าลง ส่วนแผนการตลาด บริษัทมุ่งเน้นจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศให้มากที่สุดเนื่องจากมีมาร์จินสูงกว่าการส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศ


จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วดังกล่าว บริษัทไม่สามารถขนส่งน้ำมันดิบที่จุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)ได้ จึงต้องใช้เรือขนาดเล็กในการขนส่งน้ำมันดิบเข้าสู่โรงกลั่น ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้นราว 70-80เซ็นต์ต่อบาร์เรล

ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลนั้น บริษัทได้ทำงานประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและชุมชนต่างๆอย่างโปร่งใส เพื่อแก้ปัญหาและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเร่งดำเนินการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วและเหมาะสม เบื้องต้นบริษัทบันทึกค่าใช้จ่ายในการกอบกู้น้ำมันรั่วไปแล้ว 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการเยียวยาผลกระทบจากน้ำมันรั่วให้ประชาชนและโรงแรมที่เดือดร้อนที่จะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบการเงินไตรมาส1/2565

ทั้งนี้ SPRC มีประกันที่ครอบคลุมความเสียหายหลักๆ คือ 1.ประกันคุ้มครองทรัพย์สิน และการหยุดชะงักของธุรกิจ โดยมีทุนประกันอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์แบ่งเป็นส่วนที่เป็นความรับผิดชอบส่วนแรก หรือ deductible ราว 20 ล้านดอลลาร์ 2. ประกันความรับผิดต่อบุคคลที่ 3 (Third Party Liability) จะมีทุนประกันอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์

ในปี2565 บริษัทได้ตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 30ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 990 ล้านบาท เป็นงบการใช้จ่ายเพื่อดูแลระบบความปลอดภัยและการลงทุนใหม่เพื่อเสริมกำไร เนื่องจากปี2566 บริษัทมีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นน้ำมัน จึงมองหาโอกาสลงทุนใหม่เพื่อดำเนินการติดตั้งในช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น

นางนุสรา สมเกียรติวีระ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและการคลัง บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวสูงมากโดยราคาน้ำมันดิบดูไบขยับขึ้นมาอยู่ที่ 95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องความกังวลต่อความตึงเครียดชายแดนยูเครนและรัสเซีย ทำให้สหรัฐและยุโรปเตรียมคว่ำบาตรรัสเซีย จะมีผลให้ตลาดน้ำมันตึงตัวดันราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นได้ เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก

ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี2565 คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งอากาศที่หนาวเย็นยาวนานปกติ ราคาก๊าซฯที่สูง ทำให้มีการใช้น้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นคาดว่าปี2565ความต้องการใช้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 4ล้านบาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่ระดับ101ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การผลิตน้ำมันโลกจะอยู่ที่ 102ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเพิ่มขึ้น 5ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะเห็นการใช้และการผลิตน้ำมันสมดุลในช่วงปลายไตรมาส2/2565

สำหรับผลประกอบการบริษัทในปี 2564 มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4,746 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งขาดทุนรวม 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขาดทุน6,005 ล้านบาท เป็นผลจากค่าการกลั่นของ SPRC ปี2564เฉลี่ยอยู่ที่ 3.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มจากปี 2563 ที่อยู่ระดับ2.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลมาจากส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นและความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่กำลังฟื้นตัวหลังการระบาดของเชื้อโควิด-19 และกำไรจากสต๊อกน้ำมัน และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตลอดปีที่ผ่าน

ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติเสนอให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิปี 2564 ที่หุ้นละ 0.1785 บาท โดยจะนำยื่นต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีให้พิจารณาอนุมัติในวันที่ 8 เมษายน 2565
กำลังโหลดความคิดเห็น