เทคโนโลยีดิจิทัล หรือ อินเตอร์เน็ต ช่วยให้ทุกคนสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น การพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลก้าวไปอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์คนทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ “เมตาเวิร์ส” Metaverse หรือ โลกเสมือนจริงจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อต่อยอดให้ทุกคนสามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้ขีดจำกัดบนอาณาจักรใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาบนมิติของเทคโนโลยีดิจิทัล
Jakaverse อาณาจักรโลกเสมือนจริง เมต้าเวิร์ส ผลงานสตาร์ทอัปไทย
ครั้งนี้ พามารู้จัก กับ Metaverse โลกเสมือนจริง ที่พัฒนาโดยทีมสตาร์ทอัปไทย ที่มีชื่อว่า Jakaverse ของ “นางสาวจิณณ์ธิตา จันทสุวรรณสิน” สตาร์ทอัป ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกมทั่วโลก บนอินเตอร์เน็ต ภายใต้เหรียญที่มีชื่อว่า JK Coin เป็นเหรียญสกุลเงินคริปโตที่พัฒนาโดยสตาร์ทอัปไทยที่ได้เทรดอยู่บนกระดานของ คริปโต และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และการได้คลุกคลีอยู่กับพัฒนาเกม ได้เป็นที่มาของการต่อยอดสู่ อาณาจักรโลกเสมือนจริง Metaverse ของ Jakaverse ภายใต้เหรียญ JK Coin ในครั้งนี้
นางสาวจิณณ์ธิตา กล่าวว่า Jakaverse เป็นสตาร์ทอัปรายแรกของไทย ที่เข้ามาสู่อาณาจักรโลกเสมือนจริง Metaverse โดยมีทีม Co founder ร่วมพัฒนาในครั้งนี้ กว่า 10 คน ใช้ระยะเวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Jakaverse ประมาณ 3 เดือน และเริ่มเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักก่อนเมื่อกลางปี 2564 และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนหน้า (กุมภาพันธ์ 65) นี้ พร้อมกับเปิดขายที่ดิน 5,000 ไร่ (บล็อก) ภายในงาน โดยได้เปิดให้ผู้สนใจได้ลงชื่อเข้าจองที่ดิน บน Jakaverse และมีผู้สนใจ ลงชื่อจองทั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี จำนวน 2,300 ราย ในราคาไร่ละ หรือ บล็อกละ 4,000 บาท ถึง 6,000 บาท คาดว่าในวันเปิดตัวพื้นที่ทั้งหมด 5,000 ไร่ หรือ 5,000 บล็อก จะถูกซื้อขายหมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที
เปิดระดมทุน กว่า 1,000 ล้านบาท จากนักลงทุนทั่วโลก
สำหรับอาณาจักรโลกเสมือนจริงเมตาเวิร์สของ Jakaverse ผู้พัฒนาต้องการที่จะรวบรวมทุกอย่างบนโลกในปี 2022 ให้มาอยู่บนโลกเสมือนจริง เริ่มจาก เกมที่สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ เด็ก ไปจนถึงผู้สูงอายุ และผู้ป่วย ที่ต้องการผ่อนคลาย และในอนาคตอันใกล้นี้ ความบันเทิงทั้งหลายที่ทุกคนต้องการ รวมถึงแหล่งชอปปิ้ง สถานที่ท่องเที่ยว และเรื่องของสุขภาพ ก็จะถูกนำมาอยู่บนโลกเสมือนจริง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนสามารถอยู่บนโลกเสมือนจริง ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ฝุ่นพิษจาก PM2.5 หลายคนไม่ต้องการจะออกจากบ้าน Metaverse จะตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับโลกเสมือนจริง เพียงแค่สวมแว่น สามารถเดินทางไปทุกที่ ที่ต้องการจะไป ไม่ว่าจะเป็นการชอปปิ้ง บนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หรือ การไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงผับ บาร์ หรือ แม้กระทั่งการเดินทางไปสถานพยาบาล ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ยกตัวอย่าง เช่น การจำลองแหล่งท่องเที่ยวคนทั่วโลกต้องการจะไปอย่าง “ลาเวกัส” ประเทศสหรัฐอเมริกา มาไว้บนแพลตฟอร์ม Jakaverse เป็นต้น ซึ่งการสร้างโลกเสมือนจริงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ทางผู้พัฒนาแพลตฟอร์มคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเงินทุนนี้มาจากการระดมทุน กลุ่ม Venture Capital จากผู้สนใจทั่วโลก หลังจากที่ Jakaverse ได้เปิดระดมทุน มีนักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจ และได้เสนอตัวมาร่วมลงทุนกับแพลตฟอร์ม Jakaverse ผ่าน การระดมทุนในรอบแรกแล้วกว่า 400-500 ล้านบาท คาดว่า ไม่เกิน 2 ปี น่าจะระดมทุนได้ตามเป้าที่วางไว้ 1,000 ล้านบาท และแพลตฟอร์ม Jakaverse ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง สตาร์ทอัปไทย ที่ประสบความสำเร็จและกำลังก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับยูนิคอร์น ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ก้าวขึ้นสู่ยูนิคอร์น ด้วยสินทรัพย์ 10,000 ล้านบาท ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
“จิณณ์ธิตา” บอกว่า ที่ Jakaverse ประสบความสำเร็จขึ้นสู่ระดับยูนิคอร์นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากการที่เราได้ลงมาพัฒนา Metaverse ก่อนคนอื่นๆ และที่สามารถเริ่มก่อนคนอื่นๆ ได้ เพราะ Jakaverse เป็นผู้พัฒนาเกม ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกอยู่แล้ว การสร้างโลกเสมือนจริง Metaverse ของเรา เป็นการทำงานที่ต่อยอดและเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการเกม จึงเป็นข้อได้เปรียบที่เราสามารถเข้ามาสู่โลกเสมือนจริง Metaverse และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี คิดว่าในอนาคตก็คงจะมีผู้สนใจ สร้างโลกเสมือนจริง Metaverse เช่นเดียวกับเรา เกิดขึ้นมาอีกเป็นจำนวนมาก เพราะในแง่ของนักลงทุน Metaverse เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ในแง่ของผู้ใช้บริการเป็นการพักผ่อน ที่มีโอกาสที่จะสามารถสร้างรายได้ไปด้วย
โดย จุดแข็ง ที่ทำให้หลายคนหันมาสนใจลงทุนสร้างอาณาจักร Metaverse ในแพลตฟอร์ม Jakaverse “คุณเปิ้ล” อธิบายว่า เพราะเราได้วาง Jakaverse ไว้เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมแพล็กซ์ เมืองท่องเที่ยวที่ครบวงจร โดยมีจุดแข็งเป็นเกมที่มีให้เลือกเป็น 100 เกม และตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งเกมของเรายังได้แบ่งออกได้มากถึง 22 ประเภท ครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา สุขภาพ ท่องเที่ยว ผู้สูงอายุ ฯลฯ ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเกมเพื่อผ่อนคลาย หรือ ต้องการเล่นเกมเพื่อสร้างรายได้ก็สามารถทำได้ หรือ คนที่ลงทุนซื้อทีดินกับเรา เขาก็ยังสามารถเปลี่ยนมือ หรือ สร้างกำไรจากที่ดินที่ลงทุนซื้อไปได้ และสามารถนำมาขายต่อในอนาคต ซึ่งผู้พัฒนาแพลตฟอร์มมั่นใจว่า ที่ดินที่ซื้อขายบน Jakaverse จะมีราคาสูงขึ้นในอนาคต
สานฝันวัยเด็ก ต้องการนำเกมไว้บนมือถือ จนได้ขึ้นแท่น “ยูนิคอร์น” จากปท.ไทย
สำหรับ ประวัติ ของ “ จิณณ์ธิตา” (เปิ้ล) ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท จาก้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของแพลตฟอร์ม Jakaverse เดิมเป็นบริษัทที่จำหน่ายเกมคอนโซล ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ปัจจุบันคุณเปิ้ลอายุ 34 ปี เธอ เรียนจบด้าน Computer Science-Multimedia จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี และโดยส่วนตัวชอบเล่นเกมคอนโซลมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นได้มาพัฒนา และเป็นผู้จำหน่ายเกมคอนโซล และความฝันในวัยเด็ก คือ ต้องการนำเกมมาอยู่บนมือถือ เธอได้เดินตามความฝัน โดยตั้งใจเรียนทางด้านนี้โดยตรง
หลังจากเรียนจบ เธอได้พัฒนาเกมให้สามารถเล่นบนมือถือ และเล่นบนอินเตอร์เน็ตออนไลน์ได้เป็นผลสำเร็จ และเมื่อปีที่ผ่านมา ปี 2564 จุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อเธอได้เริ่มพัฒนาเหรียญบิทคอยท์ ร่วมกับทีม US ที่สหรัฐอเมริกา จนได้เหรียญ ชื่อว่า JK Coin ขึ้นมา เพื่อใช้ในเกม และเป็นเหรียญที่พัฒนาโดยคนไทยที่สามารถเทรดบนกระดาน คริปโตได้เป็นผลสำเร็จ และด้วยโลกในยุค 2022 เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การถือกำเนิดของ Metaverse อาณาจักรโลกเสมือนจริงมันยิ่งใหญ่มากสำหรับเธอ และคนทั่วโลก “คุณเปิ้ล” และทีมงาน ได้ร่วมกันคิดโปรเจค สร้าง Metaverse โลกเสมือนจริงขึ้นมา เพราะMetaverse กำลังเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกกำลังพูดถึงกันมาก เธอต้องการให้คนทั่วโลกเวลานึกถึง Metaverse อยากจะให้นึกถึง Jakaverse ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของสตาร์ทอัปไทย เพื่อแสดงให้คนทั่วโลกให้รู้ว่าสตาร์ทอัปคนไทยก็มีศักยภาพ ไม่แพ้ชาติใดในโลก
สำหรับ หลายคนที่ไม่รู้จัก Metaverse เมตาเวิร์ส นั้น เป็นคำที่คิดขึ้นมาโดย นีล สตีเวนสัน (Neal Stevenson) ในนวนิยายเรื่องสโนว์ แครช (Snow Crash) เมื่อปี 1992 ซึ่งกล่าวถึงเมตาเวิร์สว่า เป็นการพัฒนาอินเทอร์เน็ตขั้นตอนต่อไป (3.0) เป็นโลกดิจิทัลที่รวมโลกกายภาพเข้ากับเทคโนโลยีเสมือนจริง ทั้ง augmented reality (AR) และ virtual reality (VR) ซึ่งหลังจากที่เฟซบุ๊ก (Facebook) ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นเมต้า (Meta) ทั่วโลกจึงพร้อมใจพูดถึงเมตาเวิร์ส จุดกระแสให้แบรนด์ทั้งในและต่างประเทศต่างวางแผนเปิดสำนักงานและดำเนินโครงการในโลกเสมือนจริง จนในช่วงปีที่ผ่านมา คำว่าเมตาเวิร์สได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีการกล่าวโยงถึงในเกมและบริษัทชั้นนำอย่าง Fortnite, Microsoft, Roblox, Minecraft, Balenciaga และ Nike ด้วย
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager
