xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯ ไทยยังเนื้อหอมต่างชาติใส่เงินร่วมทุน ญี่ปุ่น JV มากสุดพุ่ง 4 แสนล้าน "จีน-ฮ่องกง" ตามติด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



"คอลลิเออร์สฯ" ประเมินต่างชาติยังสนร่วมทุนผู้ประกอบการอสังหาฯ ไทย ทั้งในตลาดคอนโดฯ และโครงการแนวราบ เผยญี่ปุ่น โยกทุนข้ามเข้ามาลงทุนในไทยมูลค่าไปกว่า 400,000 ล้านบาท

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างชาติในปี 2565 ว่า ถึงแม้หลายฝ่ายมองว่าในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงขาลงของภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย แต่ฝ่ายวิจัยฯ พบว่า อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังคงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติ ทั้งผู้ประกอบการที่เคยเข้ามาร่วมทุน และผู้ประกอบการรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการญี่ปุ่น ยังคงให้ความสนใจร่วมทุน หรือ Joint Venture กับผู้ประกอบการไทย ทั้งในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียม ตลาดแนวราบ อาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเราจะยังคงเห็นภาพของการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการญี่ปุ่นอย่างคึกคักในปี พ.ศ.2565

ฝ่ายวิจัยฯ พบว่า หากพิจารณาจากมูลค่าการรวมทุน หรือ Joint Venture ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ.2564 ผู้ประกอบการญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดที่ประมาณ 68.2% ด้วยมูลค่าการร่วมทุนรวมกว่า 400,000 ล้านบาท ตามมาด้วยผู้ประกอบการจากประเทศจีนและฮ่องกง ด้วยสัดส่วนประมาณ 25.5% และ 13.6% มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท

แนะเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยซื้อห้องชุด

นายภัทรชัย กล่าวถึงทิศทางของลูกค้าต่างชาติว่า ในปี 2565 อาจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่กลับไปเหมือนหรือใกล้เคียงกับในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิ-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำลายระบบทางเศรษฐกิจไทยเท่านั้น แต่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ในปี พ.ศ.2565 จากปัจจัยบวกมาตรการเปิดประเทศจากทางภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ที่ยังคงอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญให้กำลังซื้อต่างชาติที่ยังคงมองเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทยสามารถเดินทางเข้ามาซื้อ ทำสัญญา และโอนกรรมสิทธิ์ได้สะดวกมากขึ้นในปีหน้า

"มองว่าผู้พัฒนาควรเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยให้มากขึ้นในปี พ.ศ.2565 และสำหรับกำลังซื้อต่างชาติควรเพิ่มช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มเอเยนท์ต่างๆ หรือช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสการขายอีกช่องทางในภาวะที่กำลังซื้อต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้อย่างปกติ"

ก่อนหน้านี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ภาพรวมในไตรมาส 3 ปี 64 การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีหน่วยทั้งหมด 1,755 หน่วย ลดลง -13.1% จากไตรมาสก่อนหน้าและลดลง-6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

กลุ่มสัญชาติคนต่างชาติที่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดคือ ชาวจีน มากที่สุดทั่วประเทศ มีการโอนทั้งหมด 3,760 หน่วย คิดเป็น 61.4%
กำลังโหลดความคิดเห็น