หุ้นพลังงานยังคงเป็นที่นิยมของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากว่า 20 หลักทรัพย์ โดยปี 2564 ที่ผ่านมา มีหลายหลักทรัพย์ที่ทำผลงานโดดเด่นตั้งแต่ต้นปีลากยาวไปถึงสิ้นปี ขณะที่บางหลักทรัพย์อย่างเช่น EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) ที่มาแรงช่วงท้ายปี ทำให้ติดเข้ามาอยู่ในกลุ่ม TOP 10 ด้วย
1.MDX (บมจ.เอ็ม ดี เอ็กซ์) มาร์เกตแคป 3,234.03 ล้านบาท ผลตอบแทนราคา YTD +172.00% สิ้นปี 63 ปิดที่ 2.50 บาท วิ่งมาถึง 6.80 บาท เพิ่ม 4.30 บาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 8.10 บาท ต่ำสุด 2.46 บาท ค่าเฉลี่ย 5.45 บาท และเคยทำราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ 20.24% ณ วันที่ 9 มี.ค.64 และลบมากสุด -14.06% ณ วันที่ 25 พ.ค.64
บริษัทฯ และบริษัทย่อยลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าหลายแห่งและขายไฟฟ้าในประเทศไทยและใน สปป.ลาว บริษัทย่อยประกอบด้วย MDX BVI Limited บริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ วอเตอร์ จำกัด และบริษัท เอ็ม ดี เอ็กซ์ กรุ๊ป จำกัด มีบริษัท จี เอ็ม เอส เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 12.36% นายประชา เหตระกูล ถือ 2.64%
2.GUNKUL (บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) ผลตอบแทนราคา YTD +122.22% สิ้นปี 63 ปิดที่ 2.52 บาท วิ่งมาถึง 5.60 บาท เพิ่ม 3.08 บาท มาร์เกตแคป 49,742.17 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 5.85 บาท ต่ำสุด 2.48 บาท ค่าเฉลี่ย 4.21 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +14.55% ณ วันที่ 18 มิ.ย.64 และลบมากสุด -12.22% ณ วันที่ 8 พ.ย.64
GUNKUL ประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่มีธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 2.98% และนายสุระ คณิตทวีกุล เจ้าของอาณาจักรไอที COM7 ถือ 1.01% และล่าสุด GUNKUL ลุยแผนแลกหุ้นกลุ่ม JMART ต่อยอดธุรกิจกัญชง-ไฟฟ้า เบื้องต้นจะมีการออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดเป็นอย่างแรกคือ โซลาร์เซลล์
3.EA (บมจ.พลังงานบริสุทธิ์) ผลตอบแทนราคา YTD +94.92% สิ้นปี 63 ปิดที่ 49.25 บาท วิ่งมาถึง 96.00 บาท เพิ่ม 46.75 บาท มาร์เกตแคป 358,080.00 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 105.50 บาท ต่ำสุด 48.25 บาท ค่าเฉลี่ย 64.99 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +19.63% ณ วันที่ 5 ม.ค.64 และลบมากสุด -6.96% ณ วันที่ 28 ม.ค.64
EA ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ผ่านกลุ่มบริษัทย่อย) มีนายสมโภชน์ อาหุนัย ถือหุ้นใหญ่สุดถือ 23.21% และมี น.ส.พลอยส่องแสง นพรัมภา ลูกสาวนายธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ถือ 1.72% ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุ EA น่าสนใจลงทุนที่สุดแม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นเกินมูลค่าพื้นฐาน ระยะยาวได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจรถ EV ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคต
4.SCG (บมจ.สหโคเจน (ชลบุรี)) ผลตอบแทนราคา YTD +75.71% สิ้นปี 63 ปิดที่ 3.50 บาท วิ่งมาถึง 6.15 บาท เพิ่ม 2.65 บาท มาร์เกตแคป 7,156.73 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 7.80 บาท ต่ำสุด 3.40 บาท ค่าเฉลี่ย 4.48 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +29.25% ณ วันที่ 28 ต.ค.64 และลบมากสุด -11.11% ณ วันที่ 2 พ.ย.64
SCG ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำเป็นหลัก บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ซึ่งใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเขตสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 22.74% และล่าสุด RATCH เข้าถือหุ้น SCG สัดส่วน 51% จำนวน 593.48 ล้านหุ้น
5.ETC (บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์) ผลตอบแทนราคา YTD +58.29% สิ้นปี 63 ปิดที่ 1.87 บาท วิ่งมาถึง 2.96 บาท เพิ่ม 1.09 บาท มาร์เกตแคป 6,630.40 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 3.84 บาท ต่ำสุด 1.80 บาท ค่าเฉลี่ย 2.81 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +21.52% ณ วันที่ 27 เม.ย.64 และลบมากสุด -11.46% ณ วันที่ 28 เม.ย.64
ETC ประกอบธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมทั้งธุรกิจให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรมโรงไฟฟ้า การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์โรงไฟฟ้า และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบครบวงจร ตัวนี้มีคนดังร่วมถือหุ้นใหญ่ คือ เสี่ยยักษ์ - วิชัย วชิรพงศ์ 1.45% น.ส.หลุยส์ เตชะอุบล 0.89% นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ 0.57% นายสิปปกร ขาวสอาด 0.56%
6.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) ผลตอบแทนราคา YTD +33.58% สิ้นปี 63 ปิดที่ 34.25 บาท วิ่งมาถึง 45.75 บาท เพิ่ม 11.50 บาท มาร์เกตแคป 536,791.61 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 46.25 บาท ต่ำสุด 31.00 บาท ค่าเฉลี่ย 37.03 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +6.67% ณ วันที่ 4 ส.ค.64 และลบมากสุด -3.38% ณ วันที่ 14 ม.ค.64
GULF ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน โดยมีนายสารัชถ์ รัตนาวะดี ถือหุ้นใหญ่สุด 35.55% บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 1.88% ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 1.27%
7.EP (บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป) ผลตอบแทนราคา YTD +24.45% สิ้นปี 63 ปิดที่ 4.58 บาท ขยับขึ้นมาถึง 5.70 บาท เพิ่ม 1.12 บาท มาร์เกตแคป 5,315.29 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 7.55 บาท ต่ำสุด 4.50 บาท ค่าเฉลี่ย 5.73 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +17.24% ณ วันที่ 9 ก.ย.64 และลบมากสุด -10.88% ณ วันที่ 14 ก.ย. 64
EP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการลงทุนในบริษัทร่วม ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ โดยโรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วม โดยมีผู้ถือใหญ่คนสำคัญคือ นายยุทธ ชินสุภัคกุล 14.17% ซึ่งเป็นบิดาของฉาย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และล่าสุดผู้ถือหุ้น EP อนุมัติขายหุ้น "อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น" ให้ "ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี" 11,334.09 ล้านบาท หนุนผลงานไตรมาส 4/64 โต
8.SSP (บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น) ผลตอบแทนราคา YTD +20.43% สิ้นปี 63 ปิดที่ 11.60 บาท วิ่งขึ้นมาถึง 12.70 บาท เพิ่ม 1.10 บาทมาร์เกตแคป 13,355.11 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 16.73 บาท ต่ำสุด 10.27 บาท ค่าเฉลี่ย 13.19 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +8.53% ณ วันที่ 31 พ.ค.64 และลบมากสุด -11.73% ณ วันที่ 8 มี.ค.64
SSP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งอยู่ที่ จ.ลพบุรี มีปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 40 เมกะวัตต์ ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่มีคนในตระกูลไกรพิสิทธิ์กุล ถืออยู่ 3 ราย รวมสัดส่วน 13.67%
9.GPSC (บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) ผลตอบแทนราคา YTD +20.34% สิ้นปี 63 ปิดที่ 73.75 บาท วิ่งขึ้นมาถึง 88.75 บาท เพิ่ม 15.00 บาท มาร์เกตแคป 250,250.98 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 89.75 บาท ต่ำสุด 67.25 บาท ค่าเฉลี่ย 76.86 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +7.28% ณ วันที่ 5 ม.ค.64 และลบมากสุด -5.90% ณ วันที่ 6 ม.ค.64
GPSC ทำธุรกิจพลังงานไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ซึ่งมี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือ 42.53% สำนักงานประกันสังคม 2.92% และล่าสุด โบรกเชียร์ซื้อกำไรปี 65 โตแกร่ง-ราคา Laggard กลุ่มแบตเตอรี่ เคาะเป้าสูง 94.50 บาท
10.BPP (บมจ.บ้านปู เพาเวอร์) ผลตอบแทนราคา YTD +13.91% สิ้นปี 63 ปิดที่ 15.10 บาท ขยับขึ้นมา ถึง 17.20 บาท เพิ่ม 2.10 บาท มาร์เกตแคป 52,420.99 ล้านบาท ปี 64 ทำราคาสูงสุด 21.60 บาท ต่ำสุด 14.80 บาท ค่าเฉลี่ย 18.09 บาท ราคาบวกมากที่สุดต่อวัน คือ +8.23% ณ วันที่ 27 ม.ค.64 และลบมากสุด -4.17% ณ วันที่ 12 เม.ย.64
BPP ปัจจุบันมีรายได้หลักมาจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป และได้มีการขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่น่าสนใจคือ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด 1.41% บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 0.93% สำนักงานประกันสังคม 0.37% และล่าสุดทุ่ม 200 ล้านดอลลาร์ ลงทุนพลังงานหมุนเวียนที่สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม แม้หุ้นโรงไฟฟ้าจะได้ไปต่อในปี 2565 แต่ต้องระวังเสี่ยงจากราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติปรับสูงขึ้น และแนวโน้มต้องใช้การนำเข้า LNG มากขึ้นและสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกที่อาจทำให้ต้องระวังในการลงทุนมากขึ้น