สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมย่านพัทยา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 ของสวนที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ ใน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อตั้งโดย คุณพิสิฐและคุณนงนุช ตันสัจจา เมื่อปี พ.ศ. 2497 โดยเริ่มจากสวนผลไม้ กระทั่งพัฒนาให้เป็นสวนสวยสำหรับท่องเที่ยวและพักผ่อน เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นมา
แม้ว่าสวนนงนุชจะเดินทางด้วยรถยนต์อย่างสะดวกสบาย โดยใช้เส้นทาง มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-พัทยา-มาบตาพุด ลงที่ด่านห้วยใหญ่ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง แต่ก็มีอีกทางเลือกหนึ่ง คือ รถไฟปรับอากาศขบวนพิเศษ 997 กรุงเทพ-บ้านพลูตาหลวง และ 998 บ้านพลูตาหลวง-กรุงเทพ มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ มีรถรับ-ส่งจากป้ายหยุดรถสวนนงนุช
รถไฟปรับอากาศขบวนพิเศษ 997 และ 998 ค่าโดยสารเพียง 170 บาทต่อเที่ยว ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 06.45 น. ถึงป้ายหยุดรถสวนนงนุช เวลาประมาณ 09.45 น. ขากลับมีรถรับ-ส่งจากจุดจำหน่ายบัตร เวลา 15.30 น. เพื่อรอรถไฟเข้าป้ายหยุดรถสวนนงนุชเวลาประมาณ 16.00 น. ผ่านพัทยา ศรีราชา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ถึงสถานีกรุงเทพ เวลาประมาณ 19.00 น.
ขณะที่สวนนงนุช สนับสนุนโครงการพัทยามูฟออน จัดโปรโมชันสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ซื้อบัตรผ่านประตู 1 ฟรี 1 (จากปกติคนละ 300 บาท) และบัตรเข้าชมการแสดง 1 ฟรี 1 ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก พร้อมมาตรการด้านสุขอนามัยตามมาตรฐาน SHA+ และ Safe travels
เริ่มต้นจากสถานีกรุงเทพ นับว่าเป็นข่าวดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังคงทำการเดินรถต้นทางสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ช่วงเวลาเช้ามืดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเดินรถเวลาประมาณ 06.00 น. ถ้าต้องการเผื่อเวลาเดินทาง แนะนำให้นั่งรถเมล์แต่เช้ามืด หรือใช้บริการรถแท็กซี่จะสะดวกกว่า เพราะวันหยุดถนนโล่ง ใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก
เนื่องจากป้ายหยุดรถสวนนงนุชไม่มีจุดจำหน่ายตั๋ว หากต้องการเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับ แนะนำให้ซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวกลับที่สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือสามารถจองล่วงหน้าผ่านอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชัน D-Ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทย แล้วพิมพ์ตั๋วโดยสารที่จะส่งมาให้ทางอีเมล เพื่อใช้เป็นหลักฐานได้เช่นกัน สนนราคาค่าโดยสารไป-กลับ 340 บาท
รถไฟปรับอากาศขบวนพิเศษ 997 จะเข้าสู่สถานีก่อนเวลาเดินทางเล็กน้อย คนละขบวนกับรถธรรมดาที่ 283 กรุงเทพ-บ้านพลูตาหลวง ซึ่งเป็นรถพัดลม ออกจากสถานีเวลา 06.55 น. ใช้เวลาเดินทางนานกว่า เพราะจอดแทบทุกป้าย จึงควรฟังประกาศเสียงตามสายที่สถานี ว่าขบวนรถที่ 997 จะเข้าสู่สถานีที่ชานชาลาใด ซึ่งวันที่ไปเที่ยวนั้นจอดที่ชานชาลาหมายเลข 10
นอกจากนี้ ใครที่ไม่สะดวกขึ้นรถที่สถานีกรุงเทพ ยังสามารถซื้อตั๋วรถไฟและขึ้นรถได้ที่ สถานีมักกะสัน สถานีคลองตัน สถานีหัวหมาก สถานีลาดกระบัง และสถานีหัวตะเข้ เมื่อพ้นเขตกรุงเทพฯ รถจะหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชุมทางศรีราชา พัทยา ป้ายหยุดรถตลาดน้ำสี่ภาค ญาณสังวราราม และสวนนงนุช ก่อนหมดระยะที่สถานีบ้านพลูตาหลวง
รถไฟขบวนนี้เป็นขบวนรถปรับอากาศ มีทั้งหมด 3 คัน เมื่อพ้นเขตกรุงเทพฯ จะได้เห็นทุ่งนาเขียวขจีของจังหวัดฉะเชิงเทรา สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำบางปะกง ยาวที่สุดบนเส้นทางสายตะวันออก เมื่อเลยสถานีชลบุรีไปแล้ว จะได้เห็นวิวแบบคลาดสายตากันไม่ได้ ทั้ง แกรนด์แคนยอนชลบุรี ที่ตื่นตาตื่นใจ สนามบินบางพระ ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา รวมทั้งวิวมุมสูงของ ตัวอำเภอศรีราชา
นั่งรถไฟในบรรยากาศสบายๆ เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ก็มาถึงป้ายหยุดรถสวนนงนุช พนักงานเตรียมรถรางจอดรอรับผู้โดยสาร ไปยังจุดซื้อบัตรผ่านประตู ระหว่างนั้นพนักงานจะแนะนำโปรโมชั่นในช่วงนั้นๆ ปัจจุบันเป็นโปรโมชันบัตรผ่านประตู 1 ฟรี 1 บัตรเข้าชมการแสดง 1 ฟรี 1 หากต้องการนั่งรถรางชมวิว ใช้บริการได้ในราคา 150 บาทต่อเที่ยว ซึ่งจะมีพนักงานนำเที่ยวทั่วสวนนงนุช
เมื่อเข้าไปด้านในจะพบกับสวนสวยมากกว่า 50 สวน เริ่มต้นจาก "สวนตะบองเพชร 1" จัดแสดงพันธุ์ตะบองเพชรขนาดใหญ่จากประเทศสเปน หาชมได้ยากในประเทศไทย เป็นทั้งจุดเช็คอินและถ่ายภาพหมู่เมื่อเดินทางมาถึง ตามมาด้วย "สวนลอยฟ้า" บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ พร้อมทางเดินลอยฟ้าในมุมมอง 360 องศา สามารถชมได้ทุกมุมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
ที่ตื่นตาตื่นใจมากที่สุดคงจะเป็น "สวนฝรั่งเศส" จุดชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุด มีแนวคิดการจัดสวนรูปทรงเรขาคณิตจากสวนฝรั่งเศสที่ด้านหลังพระราชวังแวร์ซายน์ พร้อมประดับด้วยตุงกระด้าง เจดีย์จำลอง หอคอย 4 แบบ สร้างด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่างความงามที่อยู่ร่วมกันได้ ด้านข้างเป็นหุบเขาไดโนเสาร์ จำลองกว่า 230 ชนิด 814 ตัว พร้อมเสียงคำรามแบบสมจริง
นอกจากบรรดาสารพัดสวนสวยที่บรรยายไม่หมด ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ยังมีกิจกรรมมากมาย เช่น เดินเล่นบน สกายวอล์ก ที่เชื่อมต่อจุดต่างๆ กิจกรรมให้อาหารช้าง ให้อาหารปลาช่อนอเมซอน นั่งช้างชมสวนสวย ส่วนคอกาแฟก็มีร้านกาแฟให้บริการหลายจุด ใครที่ชื่นชอบรถยนต์ก็มีสวนรถ "ไอ้บ้านนอก" (AI BAAN NAAK) พร้อมคาเฟ่แมวน่ารักๆ ก็ยังมีอีกด้วย
ใครที่หวนคิดถึง โรงภาพยนตร์สกาลา ย่านสยามสแควร์ในอดีต แม้ในวันนี้จะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว แต่ประธานสวนนงนุชพัทยา กัมพล ตันสัจจา ก็นำของตกแต่งทั้ง "ดวงดารา" บนฝ้าเพดาน "แชนเดอเลียร์" พวงใหญ่เหนือบันได "งานแกะสลักไม้" ด้านหลังห้องขายตั๋ว และอื่นๆ รับมาชุบชีวิตที่นี่ภายใต้ชื่อ "โรงละครสกาลา นงนุชพัทยา" จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย
สวนนงนุชยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงแรมที่พัก ที่มีให้เลือกทั้งนงนุชรีสอร์ต ห้องพักสไตล์โมเดิร์นล้อมรอบด้วยสระว่ายน้ำ, การ์เด้นวิลล่า บ้านพักสไตล์รีสอร์ตท่ามกลางธรรมชาติ, ริมน้ำวิลล่า บ้านพักขนาดใหญ่ 11 ห้องนอน, เลคไซด์ วิลล่า ห้องพักวิวทะเลทราย มีสถานที่จัดเลี้ยงสัมมนา และ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา รองรับได้ 12,000 คน
อัตราค่าใช้บริการตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564 สำหรับคนไทย บัตรผ่านประตู 300 บาท ซื้อ 1 แถม 1 (ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 400 บาท), บัตรชมการแสดง 100 บาท ซื้อ 1 แถม 1 เด็กสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตรมากับครอบครัวเข้าฟรี ผู้สูงอายุเข้าฟรีทุกวันศุกร์ ที่นี่รับบัตรเครดิตขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป หากลืมกดเงินสดมา มีตู้เอทีเอ็มให้บริการด้านหน้า
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม และอัปเดตโปรโมชันใหม่ ติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก "สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya" หรือเว็บไซต์ www.nongnoochpattaya.com
แม้ว่าหลังลงจากรถไฟ จะมีเวลาเที่ยวเพียงแค่ 5-6 ชั่วโมง เพราะต้องรอรถไฟเที่ยวกลับบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งทางสวนนงนุช มีบริการรถรับ-ส่งจากจุดจำหน่ายตั๋ว ไปยังป้ายหยุดรถสวนนงนุช ฟรีแบบไม่บวกเพิ่ม แต่เชื่อว่าหลายคนที่กลับมาคงประทับใจในความสวยงาม และตื่นตาตื่นใจ
สมกับได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 สวยสวยที่สุดในโลก จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทุกเช้ามืดวันพุธ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co และเฟซบุ๊ก Ibusiness)
