xs
xsm
sm
md
lg

รพ.ขนาดกลางกำไร Q3 พุ่ง อานิสงส์รายได้โควิด-วัคซีนหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



โบรกฯ ประเมินผลประกอบการของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง 5 แห่ง รายได้และกำไรทำนิวไฮตามคาด ผลดีจากรายได้ผู้ป่วยโควิด-19 และวัคซีนหนุน ส่งผลยาวถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 65 เพราะรายได้จากคนไข้ที่ไม่เกี่ยวกับโควิด, รายได้จาก IPD สูงขึ้น และรายได้จากการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาที่เริ่มเข้ามาเดือนพ.ย.64 ขณะEKH และ BCH กำไรทะยาน ส่วน CHG - RJH และ RPH ทำนิวไฮ

หุ้นโรงพยาบาลกลับมามีสีสันอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้าซบเซาเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้แทบทุกประเทศมีมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้น และเมื่อพบวิธีการรักษาและวัคซีนป้องกัน ทำให้ธุรกิจโรงพยาบาลน่าสนใจมากขึ้น เพราะการกระจายวัคซีนสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก กลายเป็นข่าวที่ทำให้หลายธุรกิจกลับมาสดใส เพราะโรงพยาบาลกลายเป็นเป้าหมายเพราะคือแหล่งกระจายวัคซีน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งผันตัวเองเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายวัคซีนเต็มตัว อันหมายถึงรายได้ที่จะเข้ามาเพิ่ม อีกทั้งการเปิดประเทศของหลายประเทศมีมากขึ้น รวมถึงไทยที่เปิดรับท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเป็นทางการเมื่อ 1 พ.ย. เป็นต้นมา และยังเป็นเทศกาลประกาศงบการเงินไตรมาส 3 ซึ่งโรงพยาบาลคืออีกหนึ่งธุรกิจที่โบรกเกอร์มองว่าจะคึกคัก

และเป็นไปตามคาด เพราะราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลคึกคักมาก ในที่นี้จะกล่าวถึงหุ้นโรงพยาบาลขนาดกลาง ที่โบรกเกอร์ประเมินไว้อย่าง บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) CHG และ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) RJH รวม ถึง บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เป็นต้น

ทั้งนี้ ในเดือน พ.ย.นี้พบว่า ราคาหุ้น EKH คึกคักขึ้นมาเทรดที่7-8 บาท จากก่อนหน้าเทรดที่ 6-7 บาท และอาจขยับเหนือ 8 บาท บ้าง ส่วน BCH เทรดเหนือ 20 บาท ขณะที่ CHG เทรดในระดับ 3 บาทปลายๆ แตะ 4 บาทบ้างในบางวัน และRJH เทรดที่ 32-33 บาทปลายๆ ส่วนRPH ราคาเทรดระดับ 6-7 บาท ขึ้นลงในแต่ละวัน ซึ่งจะเห็นว่าราคาหุ้นส่วนใหญ่คึกคักกันอย่างชัดเจน

ดีบีเอส ฯ มองหุ้น รพ.ไซด์กลางสดใส

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DBSV  เปิดเผยถึงผลประกอบการ 7 โรงพยาบาลชั้นนำของไทย ในไตรมาส 3 ปีนี้64 ว่า กำไรสุทธิ Q3 จะยังคงแข็งแกร่ง นำโดยโรงพยาบาลขนาดกลาง บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) CHG และ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) RJH รวมถึง บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH

โดยคาดว่า EKHจะมีกำไรสุทธิ เติบโตมากที่สุด รวมทั้งประเมินว่า EKH - BCH - CHG -RJH และRPH น่าจะทำกำไรเป็นสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาสนี้ ปัจจัยหนุนคือ รายได้เกี่ยวกับโควิด-19 ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิ Q4 ยังเติบโตดีจากปีก่อน ทั้งนี้แม้ว่ารายได้ที่เกี่ยวกับโควิด-19 จะลดลงจากไตรมาส 3 ปีนี้แต่มีรายได้ส่วนอื่นที่เพิ่มเข้ามาชดเชย เช่น รายได้จากคนไข้ที่ไม่เกี่ยวกับโควิด, รายได้จาก IPD สูงขึ้น และรายได้จากการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาที่จะเริ่มเข้ามาในเดือนพ.ย.64

ทั้งนี้  DBSV คาดการณ์ว่า  EKH จะมีกำไร Q3/64 ที่ 112 ล้านบาท เติบโต 607.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 70.44% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ปี 64 มีกำไร 246 ล้านบาท เติบโต 241.33% และปี 65 มีกำไร 171 ล้านบาท เติบโต 30.52%

ขณะที่ BCH มีกำไร Q3/64 ที่ 2.19 พันล้านบาท เติบโต 431.35% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 91.71% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนทั้งปี64 มีกำไร 4.13 พันล้านบาท เติบโต 236.65% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และปี65 มีกำไร 1.7 พันล้านบาท ลดลง 58.93% ตามด้วย CHG มีกำไร Q3/64 ที่ 832 ล้านบาท เติบโต 195.39% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 44.45% เมื่อเทียบไตรมาสก่อน ส่วนทั้งปี 64 มีกำไร 2.14 พันล้านบาท เติบโต 145.01% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และปี65 มีกำไร 1.33 พันล้านบาท ลดลง 37.67%

และ RJH มีกำไร Q3/64 ที่ 355 ล้านบาท เติบโต 195.06% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 158.02% ส่วนทั้งปี 64 มีกำไร 784 ล้านบาท เติบโต 111.27% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และปี65 มีกำไร 523 ล้านบาท ลดลง 33.39% ปิดท้ายด้วย RPH มีกำไร Q3/64ที่ 47 ล้านบาท เติบโต 128.36% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 233.55% ส่วนทั้งปี 64 มีกำไร 115 ล้านบาท เติบโต 22.04% และปี 65 มีกำไร 130 ล้านบาท เติบโต 13.26%

สำหรับโรงพยาบาลพรีเมียมเติบโตได้ในปี 65 ประมาณการว่ากำไรสุทธิของ BH จะเติบโต 107% จากปีก่อน และ BDMS 30% ในปี 65 ซึ่งคิดเป็น 49% และ 91% ของกำไรสุทธิปี 62 (ก่อนโควิดระบาด) หนุนโดยคนไข้ในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงแนะนำ BDMS - EKH เป็นหุ้น Top Pick โดยชอบ BDMS ที่จะได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศ และการฟื้นตัวของMedical Tourism ในปี 65 รวมถึงมีคนไข้จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามารักษามากขึ้นด้วย ให้ราคาพื้นฐาน 28 บาท ส่วน EKH โดดเด่นเรื่องการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้ามารับบริการด้านนี้มากขึ้นตั้งแต่ปี 65 โดยเฉพาะจากจีน ให้ราคาพื้นฐาน 9.30 บาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย)  กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลางปรับตัวลงกันเป็นส่วนใหญ่ นำโดยหุ้น บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) และหุ้นบมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) เนื่องจากเผชิญกับแรงขายทำกำไรหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีทิศทางที่จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มองกันว่าทิศทางกำไรในระยะถัดไปจะค่อย ๆ ย่อตัวลง หลังจากที่ไตรมาส 3 กำไรคาดว่าจะเติบโตโดดเด่น รับผลบวกจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะ 3-4 ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3จนต้องมีการล็อกดาวน์

ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนก็มีโอกาสที่จะขายทำกำไรด้วย แล้วย้ายเข้าหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่างหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ที่จะได้รับประโยชน์จากการเปิดเประเทศ ทำให้ผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ BDMS สามารถเดินทางเข้ามารับการักษาได้ อีกทั้งคาดว่าผลประกอบการของ BDMS ในไตรมาส 3/64 ก็ไม่ได้แย่ ยังคงมีการเติบโตทั้งเทียบไตรมาสก่อน และเทียบปีก่อน

หากมองราคาหุ้น CHG และ BCH ที่เป็นหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลาง ที่มีรายได้จากโรคโควิด-19 ระดับราคาหุ้นทั้งสองตัวได้ปรับตัวลงมามากพอควรแล้ว ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่มีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ

งบออกมาโตตามโบรกเกอร์ประเมิน

ล่าสุด ผลประกอบการของโรงพยาบาลที่กล่าวมาข้างต้น แจ้งออกมาพบว่าไตรมาส 3 ปีนี้ ที่เป็นไปตามคาด กล่าวคือ EKH มีกำไรงวดนี้ 155.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 15.89 ล้านบาท ส่วน BCH งวดนี้ทะยานแตะ 2,896.23 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 413.36 ล้านบาท ขณะที่ CHG ทำกำไร 1,563.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 281.71 ล้านบาท ตามด้วย RJH กำไรงวดนี้ 484.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 120.40 ล้านบาท และ RPH มีกำไร 145.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 20,512 ล้านบาท (ดูตารางประกอบ)

EKH ปรับเป้ารายได้ปี 64 โตทะลุ 60 %

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เผยถึง งวด 9 เดือนของกลุ่มบริษัท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 255.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 848.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 26.92 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 876.26 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 462.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 89.39% ขณะที่ไตรมาสมาส3/ 2564 มีกำไรสุทธิ 155.81 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 15.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 880.55% ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 412.76 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 156.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 163.32%

เนื่องจากมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ รุกขยายการเปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีผู้เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนเกือบเต็มเช่นเดียวกับผู้ป่วย IPD และผู้ป่วย OPD ขณะที่ธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาล ยังมีผู้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทจึงได้ปรับเป้ารายได้ปี 2564 เพิ่มอีกโดยตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 60% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา

 CHG ส่อแววผลงาน Q4 พีค

พญ.ชุติมา ปิ่นเจริญ กรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG  เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะเติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน จากการตรวจหาเชื้อ การให้บริการสถานกักกันโรค (ASQ) และการรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการให้บริการวัคซีนต้านไวรัสโควิด ที่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งในปัจจุบันยังสูงกว่า 5,000-7,000 รายต่อวัน และคาดรับรู้รายได้จากการรับบริหารศูนย์หัวใจครบวงจร 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์หัวใจโรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลระยอง และโรงพยาบาลสิรินธร ที่ทำรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 150 ล้านบาท, 160 ล้านบาท และ 450-460 ล้านบาท รวมถึงการรับรู้รายได้จากการบริหารโรงพยาบาลพัทยาและโรงพยาบาลเกาะล้าน เข้ามาเพิ่มเติมในไตรมาส 4/2564 ส่งผลให้คาดว่าการรับรู้รายได้เพิ่มดังกล่าวจะเข้ามาช่วยทดแทนส่วนรายได้ของโควิด-19 ที่ลดลงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ได้

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาส่งผลให้บริษัทมีความมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2564 จะทำ All Time High ได้ จากปี 2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,464.48 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 876.62 ล้านบาท โดยผลงาน 6 เดือนแรกปีนี้บริษัททำได้แล้วที่ 3,607.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 827.87 ล้านบาท

RJH ปีนี้โตตามเป้า 10%

นพ.สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH กล่าวว่า ปี 2564 บริษัทประเมินรายได้จะเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.87 พันล้านบาท หลังช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีรายได้แล้ว1.07 พันล้านบาท ประกอบกับ แนวโน้มผู้ป่วยในช่วงที่เหลือปี 2564 ในส่วนการตรวจรักษาโควิด-19 มีจำนวนเพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักหันมาใช้บริการรักษาในโรงพยาบาลของ RJH ขยายตัว ผลมาจากโรงพยาบาลมีการแยกโซนทีมแพทย์และทางเข้าออกอย่างชัดเจน จึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทั่วไปและตอบสนองความต้องการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

RPH ยันปีนี้ใกล้เคียงหรือโตกว่าปีก่อน

นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่า คาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2564 จะรับรู้รายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก โมเดอร์นา (Moderna) ที่เริ่มทยอยรับล็อกแรกมาแล้วบางส่วน จากที่จองไปกว่า 80,000 โดส คาดว่าจะเริ่มกระจายวัคซีนให้กับผู้จองได้กลางเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยทดแทนในช่วงของ โควิดที่เริ่มคลี่คลาย กอปรกับภาครัฐปลดล็อกดาวน์และมีกำหนดการเปิดประเทศที่ชัดเจน ยังส่งอานิสงส์เชิงบวกทำให้คนไข้ทั้ง OPD/IPD มีความเชื่อมั่นในการเข้ามารับการตรวจสุขภาพและรักษาสุขภาพภายในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการใช้เตียง (Utilization Rate) โดยเฉลี่ยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 60-70% และยังมีโอกาสที่ลูกค้าต่างประเทศจะกลับเข้ามารักษาสุขภาพในไทยได้มากขึ้น คาดผลการดำเนินงานรวมในปี 2564 มีแนวโน้มการเติบโตที่ใกล้เคียงหรืออาจดีกว่าเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 812.54 ล้านบาท

จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่าธุรกิจโรงพยาบาลกลับมาสดใสอีกครั้ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีการรักษาเฉพาะทาง รวมถึงโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามารักษาในสภาวะปกติก่อนที่จะใรโรคโควิด-19 ระบาด เมื่อเปิดประเทศและสถานการณ์โควิดคลี่คลาย นั่นคือแสงสว่างและความหวังอันเรืองรอง ธุรกิจจะฟื้นตัวหลังจากซึมมาแรมปี










กำลังโหลดความคิดเห็น