xs
xsm
sm
md
lg

ทิศทาง ‘HP-Dell’ บู๊ตลาดเกมมิ่งพีซีผ่านกลยุทธ์ซับแบรนด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กลายเป็นพื้นที่สำคัญที่สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ตลาดไอทีได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เร่งผลักดันให้เกิดดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชัน และธุรกิจหลายแห่งเริ่มปรับตัวนำไอทีมาใช้งาน จนทำให้เกิดการใช้จ่ายทางด้านไอทีที่สูงขึ้น

​ขณะที่ในฝั่งของผู้ใช้งานที่เป็นคอนซูเมอร์ ความต้องการสินค้าในกลุ่มของเกมมิ่งและพรีเมียมโน้ตบุ๊กที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บรรดาผู้ผลิตต่างต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับดีมานด์ของโน้ตบุ๊กที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนชิปเซ็ตที่เริ่มส่งผลกระทบมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19

​ประกอบกับการที่ทั้ง Intel และ AMD กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในการนำเสนอชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในกลุ่มของเกมเมอร์ และผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการโน้ตบุ๊กไปใช้ในการทำงาน จึงทำให้ในช่วงปลายปีนี้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากมายในอุตสาหกรรมพีซี โดยเฉพาะการแยกแบรนด์ทำตลาดในกลุ่มเกมมิ่งเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคให้ตรงจุด

​เหตุที่ทำให้ตลาดเกมมิ่งคึกคักส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากพฤติกรรมใหม่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วโลกเริ่มมองหาอุปกรณ์ที่มาช่วยสร้างความบันเทิงในช่วงเวลาที่ต้องกักตัว หรือเกิดเหตุการณ์ล็อกดาวน์ จึงทำให้ตลาดเกมมิ่งเติบโตเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา

​จากการสำรวจพบว่า มูลค่าตลาดเกมมิ่งในไทยปี 2563 ที่ผ่านมานั้นสูงถึง 29,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่องอยู่ราว 14% ดังนั้น ในปี 2564 นี้ มูลค่าตลาดเกมมิ่งมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นเป็น 33,000 ล้านบาท

ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทย กลายเป็นตลาดเกมที่เติบโตเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขึ้นมาเป็นตลาดเกมมิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 19 จากจำนวนเกมเมอร์กว่า 27.8 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรถึง 41%

​นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจพบว่าจากจำนวนเกมเมอร์ทั้งหมดกว่า 95% ของเกมเมอร์เล่นเกมผ่านอุปกรณ์พกพา ตามด้วย 84% เล่นผ่านคอมพิวเตอร์ที่เป็นทั้งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ก และ 69% เล่นเกมผ่านเครื่องเกมคอนโซล


​ลิม ชุน เต็ก กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า หลังสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมาพบสถิติการใช้งานพีซีเพื่อเล่นเกมและดูวิดีโอเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2 ใน 3 ของกลุ่มผู้ใช้งาน พร้อมกับระยะเวลาการใช้งานที่ 1 ใน 4 ของเกมเมอร์เล่นเกมมากขึ้น 3-4 ชั่วโมง และ 1 ใน 5 เล่นเกมนานขึ้น 6-10 ชั่วโมง

​‘จากช่วงเวลาที่ใช้พีซีเพื่อเล่นเกมต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทางเอชพีเห็นโอกาสสำคัญจากทั้งเกมเมอร์รุ่นใหม่ และเกมเมอร์มืออาชีพที่ต้องการประสบการณ์เล่นเกมที่ดีขึ้น พร้อมรองรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงที่หลากหลาย สอดคล้องไปกับความน่าสนใจของตลาดเกมประเทศไทยที่กำลังเติบโตต่อไปอย่างก้าวกระโดด’

​ผู้บริหารเอชพี ยังมองเห็นถึงโอกาสในการขยายตลาด และตอบโจทย์เกมเมอร์ทั้ง 2 กลุ่มที่มีความต้องการแตกต่างกัน ภายใต้แบรนด์ดีเอ็นเอ ‘Play to Progress’ ในการมุ่งมั่นตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ทั้งผู้เล่นทั่วไปจนถึงระดับโปรเกมเมอร์

***จาก OMEN สู่ Victus by HP


ที่ผ่านมา เอชพีได้เข้ามานำเสนอแบรนด์ OMEN ให้เป็นที่รู้จักในแง่ของเกมเมอร์พีซีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับบรรดาเกมเมอร์สายจริงจัง ระดับมืออาชีพ ด้วยการนำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์ และอีโคซิสเต็มเพื่อสร้างประสบการณ์เล่นเกมที่แตกต่างให้แก่ผู้ใช้งาน

จนนำไปสู่การขยายแบรนด์น้องใหม่อย่าง Victus by HP เข้ามาจับกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมที่กำลังเติบโต ด้วยการนำจุดเด่นในอีโคซิสเต็มของ OMEN ผสมผสานกับฮาร์ดแวร์ในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น

​สุธี สุวงศ์วัฒนากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ กลุ่มคอนซูเมอร์ พีซี เอชพี อิงค์ ประเทศไทย ให้ข้อมูลเสริมว่า ความแตกต่างของแบรนด์ OMEN และ Victus by HP จะอยู่ที่วัสดุ เทคโนโลยี และการเลือกใช้ชิ้นส่วนต่างๆ ภายใน รวมถึงเงื่อนไขการรับประกันที่จะให้ความครอบคลุมแตกต่างกัน


สำหรับแบรนด์ OMEN จะเปรียบเหมือนโน้ตบุ๊กสำหรับเกมเมอร์มืออาชีพที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งโน้ตบุ๊กได้บางส่วน โดยไม่ส่งผลต่อเงื่อนไขการรับประกัน อย่างเช่นการอัปเกรด RAM และ SSD ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที โดยประกันยังครอบคลุม

​ในขณะที่ VICTUS by HP จะเน้นเป็นโน้ตบุ๊กเกมเมอร์พร้อมใช้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปมากกว่า อย่างในรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง OMEN 16 และ Victus by HP 16 แม้ว่าจะมากับจอขนาด 16 นิ้วเท่ากัน แต่สัดส่วนหน้าจอแตกต่างกันเป็น 16:9 และ 16:10 OMEN มีตัวเลือกความละเอียดหน้าจอสูงสุดที่ QHD (4K) ในขณะที่ Victus จะอยู่ที่ UHD (2K) ในอัตราการแสดงผลสูงสุดที่ 165 Hz เท่ากัน

​นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของไฟคีย์บอร์ดที่แตกต่างกันอย่างในรุ่น OMEN จะเปิดให้สามารถปรับสีไฟแบบ RGB พร้อมปุ่มกดตัวเลขเพิ่มเติมในขณะที่ Victus จะเป็นไฟคีย์บอร์ดแบบ Backlit ตามปกติเท่านั้น

​สุดท้ายในส่วนของการรับประกันที่แม้ว่าทั้งคู่จะมีการรับประกันแบบซ่อมถึงที่ (Onsite Service) แต่ OMEN จะให้ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี ในขณะที่ Victus รับประกันที่ 2 ปี และพิเศษที่ทั้งคู่จะมีประกันอุบัติเหตุให้เพิ่มเติมในปีแรกด้วย

***Alienware ปลดล็อกขีดจำกัดเกมมิ่ง


เดลล์ ถือเป็นอีกแบรนด์ที่มีซับแบรนด์ในตลาดเกมมิ่งที่แข็งแรง และเป็นตำนานมาอย่างยาวนานด้วยชื่อของ Alienware ซึ่งเมื่อถูกพูดถึงจะเห็นภาพของคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่เหมาะกับการใช้งานในทุกรูปแบบ และในปีนี้ Alienware ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ระดับมืออาชีพ

​ขณะเดียวกัน เดลล์ จะมีสินค้าในกลุ่ม Dell G ซีรีส์ ไว้ใช้ในการเจาะตลาดเกมเมอร์มือใหม่ที่ต้องการเครื่องประสิทธิภาพสูงราคาเข้าถึงได้ ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นซีรีส์เกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเดลล์

​ในปีนี้ นอกเหนือจากการทำตลาด Alienware ในประเทศไทย และสิงคโปร์ เดลล์ได้เริ่มขยายตลาดไปยังตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคนี้อย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา บรูไน พม่า และมองโกเลียเพิ่มเติม จนทำให้ทั้งภูมิภาคนี้ของเดลล์ถูกจับตามองมากขึ้น


อโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร ตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชียและกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ภูมิภาคเอเชียใต้ ระบุว่า การขยายแบรนด์ Alienware เข้าสู่ตลาดเกิดใหม่จะเข้าไปช่วยขยายขีดจำกัดของพีซีเกมมิ่งให้กว้างมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อนำเสนอประสบการณ์เล่นเกมที่ไร้ขีดจำกัด

​ที่ผ่านมา Alienware ได้ทำตลาดในฐานะแบรนด์เกมมิ่งมากว่า 25 ปี ทำให้ในปีนี้มีความพิเศษเพิ่มเติมด้วยการนำเสนอ Alienware X-Series ออกสู่ตลาด ด้วยการนำ X-Factor ที่ได้รับความนิยมมาเป็นทางเลือกให้เกมเมอร์มืออาชีพ

​จุดเด่นของ Alienware X15 คือการเป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊กขนาด 15 นิ้วเครื่องแรกที่ปรับปรุงดีไซน์ใหม่ในลักษณะของ Alienware Legend 2.0 ด้วยการนำเอกลักษณ์ในตำนานของ Alienware มาปรับปรุงให้มีสีสันมากขึ้น พร้อมปรับปรุงเทคโนโลยีใหม่ใส่เข้าไปทั้งการระบายความร้อน เพิ่มระบบหมุนเวียนอากาศภายในเครื่อง เพื่อช่วยให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

​นอกเหนือจาก Alienware X15 แล้ว เดลล์ยังนำเสนอโน้ตบุ๊กเกมมิ่งสำหรับพกพายอดนิยมในตระกูล Alienware m15 R6 และ m15 Ryzen Edition R5 มาเป็นทางเลือกสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์เล่นเกมระดับมืออาชีพด้วยหน้าจอแสดงผล QHD 240 Hz พร้อมกับพัฒนา Dell G15 และ G15 Ryzen Edition ให้เข้าถึงอีโคซิสเต็มของเดลล์อย่าง ฟีเจอร์ Game Ready ด้วยการปรับปรุงตัวเครื่องให้รองรับการเล่นเกมระดับ AAA สู่ผู้ใช้งานทุกคน

***Windows 11 - การ์ดจอราคาแพง 2 ปัจจัยส่งผลโน้ตบุ๊กเกมมิ่งได้รับความนิยม


นอกเหนือจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซ็ตที่ทำให้การอัปเกรดซีพียูรุ่นใหม่ของทั้ง Intel 11 GenและAMD Ryzen 5 รุ่นที่เน้นพลังการประมวลผลระดับสูงบนโน้ตบุ๊ก กว่าจะทยอยเข้ามาทำตลาดในไทยก็ล่าช้ามาถึงช่วงปลายปีนี้ ยังมีกำลังซื้อของกลุ่มเกมเมอร์ที่เผชิญปัญหาการ์ดจอ หรือกราฟิกการ์ด ราคาพุ่งขึ้นสูงจากความต้องการนำไปใช้งานในการขุดเหรียญดิจิทัลต่างๆ ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้งานจริงไม่สามารถเข้าถึงได้ จากทั้งราคา และปริมาณสินค้าที่ขาดแคลน

​ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนหันมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กเกมมิ่งที่ได้ทั้งซีพียูประสิทธิภาพสูงในการประมวลผลและยังมากับการ์ดจอระดับสูงโดยเฉพาะในกลุ่ม NVIDIA RTX30 ซีรีส์มาใช้งานแทน

​ขณะเดียวกัน การที่ไมโครซอฟท์เริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานอัปเกรดระบบปฏิบัติการจาก Windows 10 ให้เป็นรุ่นใหม่ได้อย่าง Windows 11 ก็มาช่วยเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ใช้งานในช่วงปลายปีนี้เช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น