xs
xsm
sm
md
lg

BBGI คาดเทรดหุ้นไตรมาส 1/65 หลังยื่นไฟลิ่ง IPO 216.6 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



บีบีจีไอคาดเข้าซื้อขายหุ้นในไตรมาส 1/64 หลังยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO จำนวน 216.60 ล้านหุ้นเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา หวังนำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจและคืนเงินกู้

แหล่งข่าวบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บางจากถือหุ้นอยู่ 60% ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อปลายเดือนกันยายน 2564 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 216.60 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 5.00 บาท โดยจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค คาดว่าหุ้น BBGI จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงไตรมาส 1/2565

ทั้งนี้ มีการจัดสรรหุ้น IPO แบ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) และประชาชนทั่วไป ซึ่งรวมถึงบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ซึ่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท โดยมี บล.กรุงไทย ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO บริษัทนำมาใช้ในการลงทุนโครงการในอนาคตของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงกระบวนการพัฒนา ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้แก่สถาบันการเงิน และชำระคืนหุ้นกู้ของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

ทั้งนี้ BBGI มีโครงการในอนาคต ดังนี้ คือ ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) บริษัทมีโครงการขยายกำลังการผลิตเอทานอลของโรงงานน้ำพอง 2 ของ บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น (KGI) ลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลแห่งใหม่ กำลังการผลิตติดตั้ง 2 แสนลิตร/วัน ส่งผลให้กำลังการผลิตเอทานอลรวมเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านลิตร/วัน เป็น 1.2 ล้านลิตรต่อวัน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 1,200 ล้านบาท และจะเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1/2565

โครงการติดตั้งบ่อก๊าซชีวภาพของ บริษัท บีบีจีไอ ยูทิลิตี้ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (BUP) ที่จังหวัดกาญจนบุรี กำลังการผลิต 8.4 หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อรองรับโรงงานผลิตเอทานอลของ KGI ที่สาขาบ่อพลอย คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 150 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2564 และโครงการติดตั้งหม้อไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของ BUP ที่จังหวัดขอนแก่น ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 3 เมกะวัตต์และไอน้ำ 20 ตันต่อชั่วโมง ใช้เงินลงทุน 180 ล้านบาท เปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/2565

ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ (Health and Well-Being Products) บริษัทมีแผนลงทุนโครงการผลิตสารให้ความหวานและผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อเป็นฐานการผลิตและจัดจำหน่ายในภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2566

นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนโรงงานผลิตภัณฑ์ชีวภาพประเภทเอนไซม์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง เพื่อการผลิตและจัดจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะใช้เงินลงทุนรวม 600 ล้านบาท คาดเปิดดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2566 และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพให้เป็น Biorefinery Complex ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

BBGI มีทุนจดทะเบียนจำนวน 3,615 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 723 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท และมีทุนชำระแล้วจำนวน 2,532 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 506.40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งหมดในครั้งนี้แล้ว บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเต็มจำนวน ขณะที่โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทหลังขายหุ้น IPO ประกอบด้วย BCP ถือหุ้นลดลงจาก 60% เป็น 42%, KSL ถือหุ้นลดลงเหลือ 28% จากเดิม 40%
กำลังโหลดความคิดเห็น