xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีเชื่อมั่นภาคอสังหาฯ 6 เดือนข้างหน้าเริ่มฟื้น รับแรงบวกเร่งฉีดวัคซีน-ลุ้นแพกเกจกระตุ้นต่างชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในไตรมาส 3 ปี 64 ดัชนีเท่ากับ 45.8 ลดลงเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าค่ากลาง สะท้อนยังคงขาดความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจรวมติดต่อกันมาถึง 10 ไตรมาสแล้ว ขณะที่มุมมองไปข้างหน้า 6 เดือน ผู้ประกอบการเริ่มมีความเชื่อมั่น เหตุปัจจัยภาครัฐให้บริการบูสเข็ม 3 เตรียมศึกษาให้สิทธิต่างชาติซื้ออสังหาฯ มากขึ้น พร้อมเริ่มคลายล็อกในหลายกิจกรรมทางธุรกิจ

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ปี 2564 สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น และมีการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของประเทศที่มีการล็อกดาวน์อีกครั้งตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายน 2564 ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง และยังคงทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมีความวิตกกังวลต่อผลกระทบของสถานการณ์ดังกล่าวในภาวะปัจจุบันเป็นอย่างมาก

และเมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการพบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ในไตรมาส 3 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 48.6 ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 และต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนี 51.1 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ยอดขายลดลงไปมาก และการเปิดตัวโครงการใหม่ หรือเฟสใหม่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า


ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies ในไตรมาส 3 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 41.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนความเชื่อมั่นจะดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า แต่ถึงอย่างไรค่าดัชนียังคงต่ำกว่าค่ากลาง แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันในระดับที่ต่ำ และยังคงต่ำกว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies อย่างมีนัยสำคัญ


สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า อาจเป็นเหตุผลจากการที่รัฐบาลประกาศให้บริการวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็มที่ 3 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผนวกกับการที่ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐฯ โดยเร่งฉีดให้บุคลากรด่านหน้า กลุ่มเปราะบาง และนักเรียนที่มีอายุอยู่ในช่วง 12 -18 ปี โดยรัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครบ 2,เข็มให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศภายในสิ้นปี 2564 นี้

และ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ได้มีการเสนอต่อ ครม. ออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยเสนอให้พิจารณาเห็นชอบร่างแก้ไขกฎหมาย ขยายเพดานให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย โดยขยายเพดานให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้เกิน 49% ตลอดจนให้สิทธิเพิ่มที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว เพื่อให้สิทธินักลงทุนต่างชาติเข้าซื้ออสังหาฯ ไทยและนำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น โดยผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ความสนใจต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

"ปัจจัยบวกที่สำคัญที่เพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีต่อเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลเริ่มมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ อนุญาตให้ผู้ประกอบการกลับมาเปิดให้บริการบางส่วน ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ เพิ่มขึ้นเท่ากับ 57.2 จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.5 และมีการเพิ่มขึ้นในทุกปัจจัย สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies และผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies เริ่มมีความมั่นใจต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ในอีก 6 เดือนข้างหน้าในเชิงบวกเพิ่มขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้า"


กำลังโหลดความคิดเห็น