xs
xsm
sm
md
lg

โออาร์ทุ่ม 1.5 พันล้านใส่กองทุน ORZON Ventures นำร่องสิ้นปีนี้ลงทุน Start-up ราว 1-2 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



โออาร์จับมือกองทุน 500 Startups จัดตั้ง “ORZON Ventures” เพื่อส่งเสริม Start-up ไทย โดยปีนี้จะสนับสนุน Start-up ประมาณ 1-2 บริษัทก่อน ตั้งเป้าเฟสแรก ลงทุนใน Start-up 10-15 บริษัท เน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้อง Mobility & Lifestyle หวังสร้างโอกาสในธุรกิจ New S-Curve ให้โออาร์

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ และกองทุน 500 Startups หรือ 500 TukTuks ร่วมเปิดตัว ORZON Ventures ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) โดยมีวัตถุประสงค์เป็น Venture Capital เพื่อเข้าลงทุนในบริษัท Start-up ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างธุรกิจ New S-Curve ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะสร้างความแข็งแกร่งและต่อยอดธุรกิจของโออาร์

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ กล่าวในการเสวนาหัวข้อ “Beyond Partnership. Beyond Unicorns. Beyond Horizons.” วันนี้ (7 ต.ค.) ว่า ความร่วมมือระหว่าง PTTOR International Holdings (Singapore) Pte. Ltd. (SGHoldCO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่โออาร์ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 และ กองทุน 500 Startups หรือ 500 TukTuks ซึ่งเป็นกองทุนที่ Start-up ไทยรู้จักเป็นอย่างดี ในการจัดตั้งกองทุน “ออร์ซอน เวนเจอร์ส” (ORZON Ventures, L.P.) โดยโออาร์ตั้งงบลงทุน 5 ปีนี้ (2564-68) อยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาทใน ORZON Ventures มีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 25 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนเป็นไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐได้ในภายหลัง

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาและสนับสนุน Start-up ใหม่ๆ ในระดับ Series A-B ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโออาร์ และธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและสร้างความเติบโตในระยะยาว


ทั้งนี้ โออาร์ดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างความร่วมมือเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันกับทุกภาคส่วน โดยหนึ่งในแนวทางการสร้างความเติบโตทางธุรกิจของโออาร์ คือการเสาะแสวงหาธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไกลกว่าธุรกิจน้ำมันท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยโออาร์ไม่ได้มองหาการร่วมมือเฉพาะกับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือกับ ‘คนตัวเล็ก’ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบพันธมิตรทางธุรกิจ หรือการลงทุนใน SMEs หรือบริษัท Start-up โดยโออาร์มองว่าบริษัท Start-up มีจุดแข็งในด้านศักยภาพการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ขาดความพร้อมด้านกำลังคน ขาดเงินทุน ขาดการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และขาดระบบนิเวศเกื้อหนุน โออาร์เชื่อว่า ศักยภาพความพร้อมของบริษัทจะช่วยเติมเต็มและสนับสนุน Start-up ทั้งในด้านเงินทุน การเข้าถึงฐานลูกค้าและระบบนิเวศขนาดใหญ่ และความช่วยเหลือด้านพื้นฐานอื่นๆ จากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทำให้บริษัท Start-up มีสภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่เหมาะสม เปรียบเสมือน Sandbox หรือ Playground ขนาดใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัท Start-up เติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว แข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมา โออาร์ได้เริ่มมีการลงทุนและสร้างความร่วมมือกับบริษัท Start-up ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด หรือการร่วมลงทุนในกลุ่มธุรกิจแฟลช เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมธุรกิจใหม่ของโออาร์ในด้าน Mobility และ Lifestyle ในการจัดตั้งกองทุน ORZON Ventures จะทำให้โออาร์ สามารถเข้าถึง Start-up ที่อยู่ใน Early Stage ในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น ผ่านกระบวนการคัดกรองจากทีมผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks ซึ่งมีความชำนาญในการลงทุนในธุรกิจ Start-up


Start-up ที่ ORZON Ventures มองหาจะมีทั้งที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับโออาร์ และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ภายใต้กรอบ Mobility & Lifestyle หรือธุรกิจที่ตอบโจทย์คนเดินทางในอนาคต (Mobility) และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) การท่องเที่ยว (Travel) สุขภาพ (Health and Wellness) รวมไปถึง Digital Lifestyle ต่างๆ และหาก Start-up ที่ ORZON Ventures ลงทุนไปสามารถเติบโตได้ดีบน OR Ecosystem โออาร์อาจพิจารณาลงทุนตรงใน Start-up เองอีกทางด้วย นอกจากนี้ โออาร์ยังได้เตรียมวงเงินลงทุนสำหรับเข้าลงทุนธุรกิจอื่นๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของโออาร์ ให้แก่เศรษฐกิจไทย และส่งเสริมให้ธุรกิจใหม่เติบโตสู่ระดับโลกต่อไป


นายกระทิง พูนผล ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ORZON Ventures จะเริ่มลงทุนได้ โดยตั้งเป้าหมายในปีนี้ ORZON Ventures จะใส่เงินลงทุนใน Start-up 1-2 ราย โดยตั้งเป้าเฟสแรกลงทุนใน Start-up 10-15 รายเน้น Start-up คนไทยก่อน ขณะนี้มี Start-up เป้าหมายที่อยู่ในการพิจารณาประมาณ 20-30 ราย โดย ORZON Ventures จะให้เงินสนับสนุน Start-up ไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย และพร้อมใส่เงินเพิ่มอีกถ้ามีศักยภาพไปต่อได้

ทั้งนี้ ทาง 500 TukTuks ร่วมมือกับโออาร์ ในการผลักดัน Start-up ไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น และเสริมสร้าง Ecosystem ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านการลงทุนใน Start-up ที่มีศักยภาพ และโอกาสในการสร้างการเติบโตไปกับ OR Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุน Start-up ในเมืองไทยสู่ยูนิคอร์นไประดับภูมิภาคและระดับโลก

วิสัยทัศน์และพันธกิจของ ORZON Ventures ในการสร้างกองทุนนี้ขึ้นมาเป็นไปดังความฝันและความตั้งใจดั้งเดิมของผู้ก่อตั้ง 500 TukTuks คืออยากให้ประเทศไทยมี Start-up ที่พอคนพูดถึงประเทศไทยแล้วนึกถึงบริษัทเหล่านี้ 500 TukTuks เชื่อว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ทำให้ความฝันนี้ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น ทั้ง โออาร์ และ 500 TukTuks มีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้าง Ecosystem ที่พร้อมสนับสนุนและผลักดัน Start-up ไทยให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศ

การร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นการดึงเอาจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมารวมกัน ทั้งประสบการณ์ในการลงทุน Start-up กว่า 6 ปีของ 500 TukTuks ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนชั้นนำที่ได้ลงทุนใน Start-up มากที่สุดในไทย ผนวกกับ โออาร์ ที่เป็นผู้นำตลาดค้าปลีกน้ำมันและมี OR Ecosystem ที่แข็งแกร่ง มีความตั้งใจจริงที่จะทำงานร่วมกับ Start-up ดังที่เห็นได้จากตัวอย่างความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เกิด Synergy ในรูปแบบใหม่ที่จะช่วยผลักดัน Start-up ไทย ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงแบบหักศอก Continuous Disruption นี่คือความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ในยุคทองของ South East Asia นี้ ร่วมพลิกโฉมวงการ Start-up ไทย

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hello@orzon.ventures
กำลังโหลดความคิดเห็น