xs
xsm
sm
md
lg

“เครื่องแกงตายาย” ของดีสงขลา ภูมิปัญญาท้องถิ่นสูตรคุณยาย คุณภาพ รสชาติ เท่ากันทุกซอง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“เครื่องแกงตายาย” จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเครื่องแกงตายาย จังหวัดสงขลา รวมตัวกันเพื่อหารายได้ สร้างอาชีพเสริม จากการกรีดยาง แต่ได้รับผลตอบรับที่ดีจึงอยู่มานานเกือบ 10ปี จากสูตรของคุณยาย ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน


ณัฐธัญรดี คงชนะ ประธานวิสาหกิจชุมชนเครื่องแกงตายาย จังหวัดสงขลา เล่าว่า วิสาหกิจชุมชนเครื่องแกงตายายเริ่มจัดตั้งขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.2555 เกิดจากการรวมกลุ่มของแม่บ้าน เนื่องจากในช่วงปีนั้นเกิดปัญหา กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร มีรายได้หลักจากการกรีดยางพาราน้อยเพราะว่าฝนตกชุก จึงคิดว่าจะต้องมีอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่ม จึงจัดตั้งกลุ่มเครื่องแกงขึ้นมา สมาชิกของกลุ่มเริ่มต้นทั้งหมด 5 คน โดยที่คุณยายของผู้จัดตั้งกลุ่มเป็นแม่ครัวตามงานต่างๆ


หลังจากที่จัดตั้งกลุ่มขึ้นมาแล้วก็ร่วมกันลงทุนด้วยตัวเอง รายละ 20,000 บาท ก่อตั้งเองไม่ได้จัดตั้งแต่อย่างใด ไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใดในช่วงที่จัดตั้ง ช่วงนั้นก็ดูแลเองทั้งหมดทุกขั้นตอน ทั้งในเรื่องของการผลิต การหาตลาด และช่องการการขายต่างๆ ช่วงนั้นได้วางขายที่ตลาดในพื้นที่รวมทั้งส่งสินค้าตามร้านค้าปลีกหลายๆ ร้าน


จนกระทั่งปี พ.ศ.2557 ได้ไปขอขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน และจดทะเบียนเป็นสินค้าโอทอป หลังจากนั้นก็มี สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เข้ามาให้ความรู้ และในช่วงปลายปีก็ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานของราชการ โดนหน่วยงาน กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) เป็นผู้ประสานงานให้มีการคัดเลือก 1โครงการ 1อำเภอ และได้รับการผ่านคัดเลือกจึงเลือกของบประมาณในการต่อเติมโรงเรือน หลังจากที่โรงเรือนเสร็จสมบูรณ์ก็ยื่นขอเครื่องหมาย GMP, ฮาลาล และ อย. เรียบร้อย

ทั้งนี้เครื่องแกงตายาย ใช้สูตรคุณยายเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยปรับมาจากสมัยก่อนที่เป็นเครื่องตำครก เนื่องจากต้องใช้ปริมาณที่มากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องจักร เครื่องบดเครื่องแกง ซึ่งเครื่องบดนี้เป็นในลักษณะของโม่หิน



“สมัยก่อนเวลามีงานพวกกลุ่มแม่บ้าน แม่ครัว จะต้องพกครกไปด้วยเพื่อไปตำเครื่องแกง ต่างคน ต่างเอาไปช่วยกันตำลำบากไปหมด แต่พอถึงเวลาที่เรามาทำเองเราก็ประยุกต์ให้มีเครื่องจักรเข้ามาช่วยผ่อนแรงคือโม่หิน เหมือนกับว่าเราตำเครื่องแกงในครก เวลาที่ทำในปริมาณมากๆ ก็จะสะดวกขึ้น”



ในการสร้างความแตกต่างที่เป็นความเฉพาะของ เครื่องแกงตายาย จะอยู่ที่คุณภาพเป็นอันดับแรก ซึ่งเครื่องแกงตายายจะเริ่มต้นตั้งแต่การคัดคุณภาพของวัตถุดิบ รวมไปถึงการทำความสะอาด การล้างวัตถุดิบ และจะต้องนำมาตากจนแห้ง พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการชั่งน้ำหนัก การบดครื่องแกง เพราะฉะนั้นเครื่องแกงไม่ว่าจะทำอีกกี่ครั้งหรือกี่รอบก็จะมีรสชาติที่เหมือนเดิม และเนื่องจากเครื่องแกงของทางภาคใต้ จะมีความใกล้เคียงกันมาก อยู่ที่รสมือของแต่ละคน


สินค้าของ เครื่องแกงตายายมีวางขายอยู่ในร้านค้าเป็นส่วนมากส่งกระจายอยู่ในแต่ละพื้นที่ อีกส่วนคือช่องทางออนไลน์ที่มีขายในเพจเฟซบุ๊กที่ดูแลเอง ส่วนในช่วงโควิด-19 ที่ผู้ประกอบการต่างก็ได้รับผลกระทบ แต่เครื่องแกงตายายยังถือว่าไม่ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากเครื่องแกงเป็นส่วนประกอบของอาหารทุกคนยังกินอาหารอยู่ ยิ่งในช่วงที่มี Work from home คนอยู่บ้านทำกับข้าวกินเองมากขึ้น ยังถือว่าเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่


สำหรับเครื่องแกงตายาย จะมีเครื่องแกงของทางภาคใต้คือเครื่องแกงส้ม หรือแกงเหลือง และเครื่องแกงเผ็ดที่นำมาคั่วกลิ้ง แกงไตปลาเผ็ด เป็นต้น และมีอีกเครื่องแกงคือเครื่องแกงกะทิ จะคล้ายๆ กับแกงเขียวหวานภาคกลาง แต่รสชาติจะเข้มข้นกว่า เผ็ดกว่า ติดสีเหลืองมากกว่า ส่วนราคาจะอยู่ที่ 50กรัม ราคาซองละ 12บาท 500กรัม จะอยู่ที่ราคา 100บาท ทุกเครื่องแกง อีกแพคเกจคือสุญญากาศ จะสามารถเก็บไว้ได้นานกว่า 100กรัม/35บาท และ 500กรัม/120บาท การเก็บรักษาหากวางไว้ข้างนอกจะอยู่ได้ประมาณ 2เดือน เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาจะอยู่ได้นาน 6เดือน เก็บในช่องแช่แข็งอยู่ได้นานถึง 1ปี ไม่ใส่สารกันบูด


ในอนาคตหากมีผู้ประกอบการร้านไหนสนใจที่จะร่วม OEM ทางเครื่องแกงตายายก็พร้อมที่จะเป็นผู้ผลิตให้ แต่อาจจะรับได้จำนวนไม่มาก เนื่องจากโรงเรือนผลิตมีขนาดเล็กยังต้องพัฒนาในส่วนของการขยายออกไปอีก

สนใจติดต่อ เฟซบุ๊ก : เครื่องแกงตายาย

* * *คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด * * *
กำลังโหลดความคิดเห็น