xs
xsm
sm
md
lg

ผจก. ดารา ทุ่มเงิน 50,000 บาทสุดท้าย เปิดแบรนด์ “แผ่นหอมติดแมส Happy Breath” เจาะกลุ่มวัยทำงาน ดันสินค้าขึ้นห้างฯ มีตัวแทนขายกว่า 100 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:





เมื่อต้องหยุดพักงานประจำอย่างผู้จัดงานคอนเสิร์ต งานอีเว้นท์ต่างๆ รวมถึงการเป็นผู้จัดการดาราชื่อดังของประเทศไทยนั้น ตัดสินใจนำเงิน 50,000 บาทสุดท้ายในชีวิตมาเปิดแบรนด์ “แผ่นหอมติดแมส Happy Breath” สร้างอาชีพให้กับตนเองและคนรอบข้างเพื่อให้เกิดรายได้ในช่วงโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างต่อเนื่อง เปิดได้ 6 เดือนยอดขายดีเกินคาด มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 100 ราย พร้อมดันสินค้าขึ้นห้างสรรพสินค้าและเตรียมตัวบินไกลต่างประเทศ

นางสาววิปัศยา สุวรรณเรือง เจ้าของธุรกิจแผ่นหอมติดแมส แบรนด์ Happy Breath
นางสาววิปัศยา สุวรรณเรือง เจ้าของธุรกิจแผ่นหอมติดแมส แบรนด์ Happy Breath เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์นั้นเริ่มจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ต้องหยุดพักจากงานที่ทำประจำคือเป็นออร์แกไนเซอร์จัดงานคอนเสิร์ต จัดงานอีเว้นท์และเป็นผู้จัดการดารา นักแสดงชื่อดัง ซึ่งตนมีพี่สาวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแผ่นหอม แผ่นกันยุง แผ่นกันหวัด ในลักษณะของสินค้าโอทอปหรือวิสาหกิจชุมชน ซึ่งในตอนนั้นพี่สาวของตนก็ได้มาแนะนำให้ทำแผ่นหอมติดแมสขาย โดยในช่วงนั้นตนยังไม่สนใจ แต่ในที่สุดเมื่องานหลักต้องหยุดพักก็เริ่มหันมาสนใจที่จะทำขาย ซึ่งก่อนผลิตขายนั้นได้มีการทดลองกับเพื่อนทั้งในวงการบันเทิง เพื่อนในวงการกีฬาว่าสินค้าที่ตนกำลังจะขายนั้นเป็นอย่างไร ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากทดลองนั้นมีฟีดแบกที่ดีกลับมา 99%


ทั้งนี้ตัดสินใจเอาเงินก้อนสุดท้าย 50,000 บาทในตอนนั้นมาลงทุนสร้างแบรนด์ โดยเริ่มทำเป็นแบรนด์ตัวเองแทนที่จะเอาของพี่สาวมาขายจนเกิดเป็นแบรนด์ Happy Breath แผ่นหอมติดแมส ปัจจุบันขายมาได้ประมาณ 6 เดือน ซึ่งแผ่นหอมติดแมสของทางแบรนด์นั้นผลิตจากกลุ่มวิสาหกิจชุนชนประตูป่าโชคดี โดยมีการสนับสนุนให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้สู่ชุมชนในชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย พร้อมทั้งใช้วัตถุดิบจากน้ำมันหอมแดง ซึ่งเป็นผลผลิตจากท้องถิ่นในจังหวัดลำพูนและได้รับการรับรองจากหน่วยงานโอทอปเจ้าเดียวในประเทศไทย


นอกจากนี้แผ่นหอมติดแมสของทางแบรนด์นั้นจะมีจุดเด่นเรื่องการมีลวดลายค่อนข้างมากและผู้ชายก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่เคอะเขิน ซึ่งทางแบรนด์เจาะกลุ่มลูกค้าคนทำงาน เช่น กลุ่มข้าราชการ โรงงาน โรงพยาบาล ที่ต้องพบเจอคนจำนวนมากในแต่ละวันและมีกำลังทรัพย์ในการจับจ่าย และอีกหนึ่งจุดเด่นในช่วงแรกคือทางแบรนด์จะแพ็คแยกชิ้นต่อชิ้น ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการผลิตและใช้กำลังคนเพียงอย่างเดียว ทำให้ในปัจจุบันมี 2 คอลเล็กชั่น คือ 1.แพ็คแยกชิ้นต่อชิ้นใน 1 กล่อง และ 2.แพ็คแบบซองซิปล็อค การเก็บรักษาก่อนเปิดซองมีอายุได้ 2 ปี แต่ถ้าเปิดซองแล้วทางร้านแนะนำให้ใช้ให้หมดภายใน 1-2 สัปดาห์


“สิ่งที่ภูมิใจสำหรับการสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาคือ ตัวแทน ทางร้านจะคัดเลือกตัวแทนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาหรือกลุ่มแฟนคลับดารานักแสดงที่เราดูแลอยู่และไม่มีอาชีพในช่วงนี้ แล้วมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเราจะบอกกับตัวแทนเสมอว่าจะไม่ให้ขายตัดราคากัน และตัวเราเองก็จะไม่ขายในราคาส่งให้กับลูกค้าทั่วไปเพราะจะมาตัดราคาในส่วนของตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าที่เค้าไลฟ์สดขายของแล้วมาสั่งสินค้ากับเราในจำนวนมากๆ แต่เราก็ไม่ได้ขายให้เพราะเดี๋ยวจะกระทบกับตัวแทนจำหน่ายของเรา ซึ่งเรามีตัวแทนจำหน่ายกว่า 100 รายในตอนนี้”


ทั้งนี้เจ้าของแบรนด์ยังดันสินค้าตนเองเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการให้กลุ่มลูกค้าได้ทราบว่าแผ่นหอมจริงๆ นั้นผลิตมาจากอะไร ซึ่งแผ่นหอมของทางร้านเป็นแผ่นหอมที่ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติและเป็นออร์แกนิคไม่เป็นอันตรายต่อโพรงจมูก โดยทางร้านแนะนำว่าสินค้าสามารถใช้งานได้กับลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่อายุ 2 ขวบขึ้นไป ซึ่งในลูกค้าเด็กแนะนำให้ติดบริเวณเสื้อหรือตรงหน้าอก ไม่แนะนำให้ติดบริเวณใกล้จมูกจนเกินไป รวมถึงกลุ่มคนที่เป็นโรคภูมิแพ้และหญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไปก็สามารถใช้ได้ ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคหอบหืดทางร้านแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะเป็นการดีกว่า


ผลตอบรับจากลูกค้าตั้งแต่เริ่มเปิดแบรนด์มานั้นดีเกินคาด ซึ่งเป็นผลมาจากการโปรโมทผ่านช่องทางของตัวเอง รวมถึงมีเพื่อนดารา นักแสดงในวงการและเพื่อนนักกีฬาวอลเล่บอลทีมชาติช่วยสนับสนุน ทดลองใช้สินค้าและโปรโมทให้ทางร้าน ทำให้มีลูกค้าเห็นมากขึ้น ส่งผลให้คนรู้จักเร็วและเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางร้านมีเทคนิคและกลยุทธ์ในการทำการตลาดคือการโพสต์โปรโมทสินค้าค่อนข้างบ่อย และลักษณะการโพสต์ก็จะนำเสนอให้ลูกค้าทราบว่ามีการใช้งานจริงทั้งกับตนเองและคนรอบข้าง


แผ่นหอมติดแมส Happy Breath นั้น จะใช้ผ้าชนิดพิเศษที่ไม่มีการกัดสี ไม่ใส่สารเคมีลงในเนื้อผ้าและผลิตเป็นแผ่นสติกเกอร์ ซึ่งเมื่อผลิตออกมาสำเร็จสมบูรณ์แล้วนั้นจะมีรูปร่างเป็นรูปหัวใจ ดอกไม้ รูปหมี แต่ไม่มีหน้าตา เพราะการมีลวดลายหรือหน้าตา รูปยิ้มต่างๆ พิมพ์ลงไปบนเนื้อผ้าก็จะกลายเป็นว่าเพิ่มสารเคมีลงไปด้วยทางแบรนด์จึงไม่มีการผลิตในลักษณะดังกล่าว เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภคมากที่สุด รวมถึงแผ่นกาวที่เลือกใช้นั้นเป็นแผ่นกาวชนิดน้ำ สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 5-10 ปีและไม่ก่อให้เกิดอันตรายเมื่อสัมผัส และน้ำมันหอมระเหยที่ใช้นั้นมีปริมาณที่เหมาะสมต่อการสูดดม ซึ่งจะไม่เกิน 1%


ทั้งนี้แผ่นหอมติดแมสของทางแบรนด์มีทั้งหมด 3 กลิ่น ได้แก่ 1. Peppermint 2. Lavender และ 3. Orange ซึ่งตัว Peppermint จะเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์และลูกค้าชื่นชอบมากที่สุด นอกจากนี้ กลิ่นแผ่นหอมติดแมสเมื่อนำมาใช้งานจะสามารถอยู่ได้นานถึง 8 ชั่วโมง เมื่ออยู่ในลักษณะการทำงานที่ไม่โดนแสงแดดและความร้อนมากจนเกินไป เพราะตัวแผ่นหอมติดแมสนั้นมีส่วนผสมจากน้ำมันหอมระเหย เมื่อถูกความร้อนมากๆ จะระเหยไวกว่าปกติ


“ต้องบอกตรงๆ เลยว่าแบรนด์นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพราะโควิด-19 เพราะคนต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอด เราก็คิดว่าเราจะทำยังไงให้สินค้ามันตอบโจทย์กับสถานการณ์ดังกล่าวได้ เราก็เลยนึกถึงสติกเกอร์ติดแมสนี่แหละ เริ่มจากตัวเองเลย เวลาเราออกไปข้างนอกเราก็ระแวงและไม่กล้าที่จะดึงแมสออกในที่สาธารณะ ซึ่งถามว่าโควิด-19 กระทบอะไรกับแบรนด์ไหมนั้นคำตอบคือไม่มีผลกระทบค่ะ”


ทั้งนี้ในส่วนของราคาสินค้านั้นจะมีทั้งหมด 2 ราคา 2 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 คือรุ่นพี่ V1 ราคา 159 บาท ใน 1 กล่องมีทั้งหมด 24 ชิ้น เป็นซิกเนเจอร์โดยการแพ็คแยกทุกชิ้น มีทั้งหมด 6 สี ได้แก่ ขาว ฟ้า น้ำเงิน แดง เหลืองและดำ ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ รุ่นน้อง V2 ราคา 189 บาท 1 กล่องมีทั้งหมด 35 ชิ้น บรรจุแบบซองซิป เพิ่มลายดาว คละสีไม่จำกัด ซึ่งรุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานต่อเนื่องทุกวัน นอกจากนี้มีวางขายในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง เพจเฟซบุ๊ค ไลน์ออฟฟิเชียล ช็อปปี้ อินสตาแกรม ส่วนในลาซาด้าจะเป็นของตัวแทนจำหน่าย


“ความยากง่ายในการทำงานระหว่างการเป็นออร์แกไนเซอร์จัดงานอีเว้นท์ งานคอนเสิร์ต หรือการเป็นผู้จัดการดารา นักแสดง แล้วต้องมาเป็นแม่ค้าขายของนั้นมันแตกต่างกันเลยค่ะ แต่ก็มีความใกล้เคียงกันอยู่ในเรื่องของการสื่อสารกับลูกค้ายังไงให้ลูกค้าเลือกแบรนด์เรา สื่อสารยังไงให้ดารา หรือนักแสดงที่ดูแลได้รับเลือกในงานชิ้นนั้นๆ แต่วิธีการสื่อสารก็จะต่างกันเพราะคนกับสินค้าก็มีการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปแต่ต้องมีความถูกต้อง ชัดเจนเหมือนกัน”


หลังจากที่ตนเองผันตัวมาเป็นคนค้าขายนั้น นอกจากจะทำให้มีอาชีพเพิ่ม สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังได้มีการชักชวนรุ่นน้องหรือสตาฟจากงานอีเว้นท์หรืองานคอนเสิร์ตเข้ามาร่วมงานด้วย และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้กับรุ่นน้องของเจ้าของแบรนด์ได้สร้างอาชีพและมีรายได้จากส่วนนี้ ในยุคที่สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียดนี้อีกด้วย


อย่างไรก็ตาม ในอนาคตนั้นทางแบรนด์ได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีตัวแทนจำหน่ายอยู่ต่างประเทศ เช่น ลาว 3 คน สิงคโปร์ 1 คน และเพิ่มโปรดักส์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาโปรดักส์แผ่นหอมติดแมสให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากที่สุด

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : แผ่นหอมติดแมส Happy Breath Natural – เพจหลัก
Line Official : @happybreath
Instagram : @happy_breath_natural
Shopee : happybreathnatural










* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *

กำลังโหลดความคิดเห็น