คนที่ใช้บริการที่สนามบิน คงเคยรู้จักเครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ (Automated Postal Machine หรือ APM) ที่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านเครื่องบิน และมีสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ รวมถึงผู้ใช้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน โดยนำร่องติดตั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560
แต่เครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะล่าสุด ไปรษณีย์ไทยพัฒนาตู้รับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติ รุ่นใหม่ ให้สามารถส่งกล่องพัสดุได้ โดยนำร่องติดตั้ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ และเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ รวม 7 แห่ง ผู้มาใช้บริการสามารถส่งของได้สะดวก รวดเร็ว แบบเว้นระยะห่าง ด้วยอัตราค่าบริการและมาตรฐานเดียวกับการใช้บริการที่เคาน์เตอร์บริการ
สำหรับตู้รับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติ รุ่นใหม่ ให้บริการเฉพาะไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ไปรษณีย์ลงทะเบียน น้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม และพัสดุไปรษณีย์ในประเทศ น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน รองรับการชำระค่าบริการด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
ความแตกต่างก็คือ เครื่อง APM ที่สนามบินทั่วประเทศจะให้บริการเฉพาะซองกันกระแทก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน และมีสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ โดยคิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย แต่สำหรับตู้รับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติ รุ่นใหม่ จะเน้นลูกค้าที่ส่งพัสดุในรูปแบบกล่องเป็นหลัก โดยคิดค่าบริการตามจริง
สิ่งที่ประชาชนผู้ใช้บริการจะต้องเตรียมพร้อมก่อนใช้บริการก็คือ ต้องนำกล่องพัสดุไปรษณีย์ที่แพ็คเรียบร้อยแล้ว พร้อมจ่าหน้าชื่อที่้อยู่ และเบอร์โทร.ผู้รับให้ชัดเจน และนำบัตรประชาชนตัวจริงมาใช้เพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งปัจจุบันผู้ค้าออนไลน์มักจะแพ็คสิ่งของมาจากบ้านก่อนนำส่งอยู่แล้ว และกล่องไปรษณีย์มีจำหน่ายทั่วไป
วิธีการใช้งานมีทั้งหมด 6 ขั้นตอน ได้แก่ ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน ที่ช่องเสียบบัตรประชาชน จากนั้น ชั่งน้ำหนักที่จุดชั่งน้ำหนัก และเลือกประเภทจากหน้าจอ จากนั้นเครื่องจะพิมพ์สติกเกอร์รอยประทับ แล้วลอกออกมาติดบนสิ่งของ ชำระค่าบริการด้วยเงินสด หรือบัตรเครดิตและบัตรเดบิต เสร็จแล้วรับใบเสร็จรับเงิน และนำสิ่งของใส่ในตู้ Drop Box เป็นอันเสร็จสิ้น
ตู้รับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติ รุ่นใหม่ นำร่องติดตั้ง 7 แห่ง ได้แก่ ไปรษณีย์ลาดพร้าว ไปรษณีย์จตุจักร ไปรษณีย์บางขุนเทียน ไปรษณีย์ภาษีเจริญ ไปรษณีย์บางพลี ไปรษณีย์นนทบุรี และเคาน์เตอร์ไปรษณีย์แสมดำ โดยผู้ส่งที่สแกนคิวอาร์โค้ดท้ายใบเสร็จแล้วตอบแบบสอบถาม ลุ้นรับสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง มูลค่า 14,000 บาท 1 รางวัล ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 20 ตุลาคม 2564
นับเป็นการต่อยอดนวัตกรรมที่มีอยู่เดิมอย่างเครื่อง APM ให้สามารถบริการลูกค้าด้วยเป้าหมายที่กว้างมากขึ้น ช่วยให้ประชาชนสามารถทำรายการส่งพัสดุด้วยตัวเองแบบนิวนอร์มัล ในอนาคตอาจจะได้เห็นเครื่องบริการส่งพัสดุด้วยตัวเองตามสถานที่อื่นๆ มากขึ้น และสามารถทำรายการส่งพัสดุได้ทุกเวลา โดยไม่ยึดติดวันและเวลาทำการอีกต่อไป
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
