ตีตลาดออนไลน์ลูกค้าสนใจทั้งงานพิมพ์และของกิน เปิดเพจขายข้าวเกรียบผักและน้ำพริกออนไลน์ เพียงเพราะต้องการโปรโมทแบรนด์ดิ้งที่ทางโรงพิมพ์เป็นผู้ผลิต แต่กลับกลายเป็นว่าธุรกิจทั้ง 2 อย่างเติบโตไปได้ด้วยดี พร้อมทั้งมีลูกค้าสนใจงานโรงพิมพ์แบบดิจิทัล 100% เพิ่มมากยิ่งขึ้น บวกกับลูกค้าชื่นชอบผลิตภัณฑ์ที่เป็นของกินอีกด้วย ทำให้ต้องดูแลทั้ง 2 ธุรกิจควบคู่กันไปพร้อมตีตลาดออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ
นางสาวโปรดปราณ โคนทรงแสน เจ้าของธุรกิจข้าวเกรียบผักและน้ำพริก แบรนด์ Fa Cai – ฟาไฉ เล่าว่า จุดเริ่มต้นการสร้างแบรนด์นั้นเริ่มมาจากการที่ตนมีธุรกิจของครอบครัวมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี นั่นก็คือโรงพิมพ์ ซึ่งเป็นโรงพิมพ์ที่สามารถผลิตชิ้นงานเหมือนร้านอื่นๆ ทั่วไป โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งพิมพ์หรือแบรนด์ดิ้งต่างๆ หลังจากนั้นตนจึงคิดที่จะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้ดูทันสมัยและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการเปิดแบรนด์ขายข้าวเกรียบผักออร์แกนิค น้ำพริกต่างๆ เช่น น้ำพริกเผาไข่เค็ม น้ำพริกนรกแซลมอน น้ำพริกเผาหมูสับคีโต ซอสก๋วยเตี๋ยวแห้งพร้อมทาน ผักผลไม้อบกรอบ และสเปรย์แอลกอฮอลล์กลิ่นวานิลา เริ่มต้นที่ราคา 59 บาท ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อนำเสนอและโปรโมทแบรนด์ดิ้งที่ทางโรงพิมพ์เป็นผู้ออกแบบ แต่กลับได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก
โดยจุดเด่นและความพิเศษของผลิตภัณฑ์นั้น ทางร้านให้ข้อมูลว่าเป็นความร่วมมือระหว่างทางร้านและโรงงานกลุ่มแม่บ้านขนาดเล็ก เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือโรงงานในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในส่วนของผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบผักออร์แกนิคนั้นมีทั้งหมด 6 รสชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาให้ตอบโจทย์กลุ่มแม่และเด็ก เพราะไม่เพียงแค่เป็นขนมขบเคี้ยวสำหรับให้เด็กทานเล่น แต่ยังแฝงไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่ได้จากพืชผักนานาชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยังตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีเพราะการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพของทางร้านนั่นเอง ปัจจุบันทางร้านดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 4 เดือน นอกจากนี้ ในส่วนของฟีดแบกหรือผลตอบรับนั้นดีเกินคาด ทั้งฟีดแบกลูกค้าจากการขายผลิตภัณฑ์และลูกค้าจากโรงพิมพ์
เนื่องจากเริ่มต้นด้วยการขายออนไลน์ ธุรกิจจึงไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากนัก แต่ผลกระทบจะไปตกอยู่ที่โรงงาน เพราะทางโรงงานจะมีกำลังการผลิตที่ลดน้อยลงส่งผลให้รายได้พนักงานลดน้อยลงไปด้วย จึงเป็นที่มาสำหรับความร่วมมือระหว่างทางร้านและโรงงาน นอกจากนี้ทางร้านยังมีโปรเจ็กต์โปรโมทช่วยเหลือมูลนิธิสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากในช่วงนี้ โดยทางร้านจะนำกำไรจากการขายสินค้าที่กำลังจะออกใหม่ไปสนับสนุนให้แก่มูลนิธิสัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง สุนัขและแมว และเป็นกระบอกเสียงให้กับมูลนิธิเหล่านี้อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางร้านได้มีการวางขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ช็อปปี้ ลาซาด้า ไลน์มายช็อป ทำให้กลุ่มลูกค้ารู้จักสินค้าผ่านช่องทางเหล่านี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางร้านได้มีการสต็อคสินค้าเพื่อรองรับให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าเอาไว้ ส่วนสินค้าที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. กลุ่มแม่และลูก สินค้าที่เป็นซิกเนเจอร์ได้แก่ ข้าวเกรียบผักออร์แกนิค และ 2. กลุ่มน้ำพริก เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ได้แก่ น้ำพริกนรกแซลมอนที่ลูกค้าชื่นชอบและนิยมมากที่สุด โดยลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีจำนวนมากกว่าลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็จะมีลูกค้าสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น Line Man ทำให้ทางร้านได้เข้าร่วมธุรกิจกับแอปพลิเคชั่นดังกล่าว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของโรงพิมพ์นั้น ตนเริ่มพัฒนาและปรับปรุงจากโรงพิมพ์เดิมให้กลายเป็นโรงพิมพ์ที่ทันสมัย โดยเริ่มจากการปรับปรุงระบบการจัดการต่างๆ เครื่องจักรและพนักงาน ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วเจ้าของร้านก็ได้มีการปรับเปลี่ยนโรงพิมพ์ให้กลายเป็นแบบดิจิทัลที่ทันสมัย โดยการซื้อเครื่องดิจิทัลปริ๊นติ้งที่มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการทำงานผลิต ฉลาก โบรชัวร์ และการทำหนังสือจำนวน 1-2 เล่ม ได้เป็นอย่างดี และทางร้านก็เริ่มตีตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ในอดีตนั้นทางร้านจะมีพนักงานหางานที่เป็นออฟไลน์ตลอด แต่พอเจอกับสถานการณ์ในปัจจุบันก็เริ่มรู้สึกว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ทำให้เปิดเพจเป็น “Fa Cai- ฟาไฉ ของอร่อย กินแล้วรวย” โดยจะเน้นนำเสนอผลงานฉลากจากการออกแบบและโบรชัวร์ต่างๆ ผ่านการโปรโมทสินค้าที่ทางร้านขาย ทำให้มีลูกค้าที่สนใจในงานพิมพ์ งานออกแบบต่างๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่องและติดต่อซื้อขายกันแบบออนไลน์ 100% โดยที่ไม่ต้องเจอหน้ากัน เพียงแค่พูดคุยผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ก็สามารถได้ผลงานที่ถูกใจและตรงความต้องการอีกด้วย
ความยากง่ายระหว่างการทำงานโรงพิมพ์กับทำงานขายสินค้านั้น เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยาก เพราะต้องดูทั้ง 2 งาน แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจที่สามารถทำผลงานออกมาแล้วลูกค้าพึงพอใจ กลายเป็นว่าความเหนื่อยเปลี่ยนมาเป็นความสุขแทน ซึ่งความยากง่ายนั้นจะอยู่ในส่วนของกระบวนการระหว่างทำงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สำหรับการทำการตลาดนั้น ทางร้านมองว่าการใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ มองกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและลงมือทำอย่างตั้งใจก็จะได้ผลตอบรับกลับมาให้สามารถภาคภูมิใจได้ ซึ่งทางร้านทำการตลาดออนไลน์ 100% ทำให้ต้องมีการโปรโมทสินค้า นำเสนอสินค้าที่สวย น่าสนใจและดึงดูดลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเทคนิคและกลยุทธ์ที่ร้านขายของออนไลน์จำเป็นต้องมี เพราะลูกค้าไม่สามารถเห็นสินค้าจริงได้ จึงจำเป็นต้องมีการสื่อสารให้เข้าใจ ลูกค้าจะได้ไว้วางใจและสนับสนุนสินค้าของทางร้าน
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติที่ทุกคนสามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้อย่างปลอดภัยแล้วนั้น ทางร้านวางแผนต่อยอดธุรกิจในเรื่องของการขยายสินค้าสู่ต่างประเทศ โดยจะเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว รวมถึงแตกไลน์การผลิตเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Fa Cai – ฟาไฉ ของอร่อย กินแล้วรวย
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
