xs
xsm
sm
md
lg

สนข.จัดเวิร์กชอป 49 หน่วยงาน ร่วมบูรณาการแผน/งบโลจิสติกส์สู่การปฏิบัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สนข.จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) รับฟังความคิดเห็น 49 หน่วยงาน เพื่อศึกษาการแปลงนโยบายด้านคมนาคมและโลจิสติกส์สู่การปฏิบัติแบบบูรณาการในระดับภูมิภาคและประเทศให้เป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

วันนี้ (14 ก.ย.) นางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) รับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติแบบบูรณาการด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาคและประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Webinar โดยมีหน่วยในสังกัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน 49 หน่วยงาน ที่ได้รับงบประมาณบูรณาการภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์เข้าร่วม

นางวิไลรัตน์กล่าวว่า การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ครั้งนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เพื่อแจ้งให้ทราบหลักเกณฑ์และแนวทางการประเมินผลการดําเนินงานภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2560-2564 อีกทั้งยังเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ประสบการณ์ และความรู้ใหม่ๆ รวมทั้งผลการพัฒนาที่ผ่านมา ตลอดจนปัญหา อุปสรรค และข้อจํากัดต่างๆ ซึ่ง สนข.จะนําความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับเพิ่มเติมจากการสัมมนาฯ ไปประยุกต์ใช้เพื่อประกอบการจัดทํานโยบายสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป 

ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทยเป็นไปอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จึงได้ดําเนินการศึกษาการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติแบบบูรณาการด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาคและประเทศ เพื่อให้เป็นกรอบทิศทางการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ และเป็นกรอบแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนําไปจัดทําแผนงาน/โครงการในการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ เพื่อพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ

สนข.ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลักแผนงานบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2560-2564 และได้รายงานผลให้สํานักงบประมาณทราบมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทํารายงานการประเมินผลการดําเนินงานภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ในภาพรวม ระหว่างปี พ.ศ. 2560-2564 ซึ่งเป็นผลผลิตที่สําคัญในการสะท้อนผลการดําเนินงานของแต่ละหน่วยรับงบประมาณทั้งหน่วยงานภายในกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน รัฐบาลจําเป็นต้องวางรากฐานการพัฒนาประเทศให้มีเป้าหมายและทิศทางการพัฒนาที่ชัดเจน โดยกําหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในแต่ละด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมซึ่งเป็นภาคส่วนที่สําคัญในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ 

ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน กําหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความครอบคลุมและเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ เพื่ออํานวยความสะดวกและลดต้นทุนในการเดินทางและการขนส่ง เชื่อมโยงประเทศไทยกับประชาคมโลก 

ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงจําเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ เพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศรองรับความต้องการในการเดินทางและการขนส่งในอนาคตให้เกิดการเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตาม การกําหนดทิศทางและขับเคลื่อนการพัฒนาระบบคมนาคมของประเทศให้มีประสิทธิภาพและนําไปสู่การลดต้นทุนด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์อย่างแท้จริงนั้น จําเป็นจะต้องพิจารณาและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงกันในหลายบริบทอย่างรอบด้าน เช่น รูปแบบการคมนาคมและโลจิสติกส์ (Mode) ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ วัตถุประสงค์ในการคมนาคมขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางหรือการขนส่งสินค้า มิติของการพัฒนาระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ เช่น มิติเศรษฐกิจ มิติสังคม มิติสิ่งแวดล้อม และมิติความมั่นคง เป็นต้น รวมทั้งศักยภาพของพื้นที่และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในด้านต่างๆ ของประเทศ เช่น ด้านการค้าการลงทุน ด้านการท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม และด้านเกษตรกรรม เป็นต้น

นางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)
กำลังโหลดความคิดเห็น