xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ผนึกฟ็อกซ์คอนน์ตั้ง รง.ผลิตรถอีวี ทุ่ม 1-2 พันล้านดอลล์ดันไทยเป็นฮับอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ปตท.ร่วมทุนฟ็อกซ์คอนน์ตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่อีอีซี วางระบบการผลิต การบริหาร Supply chain พร้อมตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทางวิศวกรรม คาดใช้เงินลงทุน 1-2 พันล้านเหรียญสหรัฐรองรับการเปลี่ยนแปลงทิศทางพลังงานในอนาคต ขานรับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือด้านการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด (Hon Hai Precision Industry Co., Ltd.) หรือฟ็อกซ์คอนน์  (Foxconn) ในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual JVA Signing Ceremony) วันนี้ (14 ก.ย.) จัดขึ้น ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย และกรุงไทเป ไต้หวัน เพื่อสร้างฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยมี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายยัง ลวือ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟ็อกซ์คอนน์ ร่วมลงนาม พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารระดับสูง ปตท.และ ฟ็อกซ์คอนน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน 

ความร่วมมือตั้งโรงงานผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยครั้งนี้จะใช้ความเชี่ยวชาญของฟ็อกซ์คอนน์ทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิตและพัฒนาแพลตฟอร์มยานยนต์ไฟฟ้า ผสานกับองค์ความรู้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของกลุ่ม  ปตท. ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสากลมากยิ่งขึ้น

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.โดย บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) เดินหน้าพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV Value Chain ทั้งหมด โดยอาศัยความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพลังงานของ ปตท.และ กลุ่มบริษัทในเครือ ซึ่งภายหลังการลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการในประเทศไทย ด้วยบริการครบวงจร ทั้งการออกแบบ ผลิต EV ตลอดจนผลิตชิ้นส่วนสำคัญ เช่น Battery Platform  Drivetrain หรือ Motor

สำหรับแผนลงทุนในช่วง 5-6 ปี จะเริ่มจากการสร้างโรงงานใหม่ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในพื้นที่ EEC ภาคตะวันออก วางระบบการผลิต การบริหาร Supply chain พร้อมตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทางวิศวกรรม ด้วยเงินลงทุน 1-2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะสามารถผลิต EVทั้งคันด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ ฟ็อกซ์คอนน์ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่มีทั้ง Hardware และ Software ที่จะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการพัฒนารถ EV ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในตลาด EV

นับเป็นการพลิกโฉมภาคการพัฒนาและผลิตยานยนต์ไฟฟ้าโดยรวมได้ เบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีในการเตรียมพร้อมและเริ่มผลิตออกสู่ตลาด โดยมีเป้าหมายการผลิตในระยะแรก 50,000 คัน/ปี และขยายเป็น 150,000 คัน/ปีในอนาคต

“การร่วมทุนในครั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ เสริมสร้างทักษะและอาชีพให้แก่ประชาชน โดยหากประสบผลสำเร็จในระยะแรกจะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในระยะต่อไป ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจสู่เวทีโลกในอนาคตแล้ว ยังเป็นการตอบสนองนโยบายและทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย” นายอรรถพลกล่าว

นายยัง ลวือ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟ็อกซ์คอนน์ กล่าวว่า การรังสรรค์นวัตกรรมเป็นค่านิยมหลักที่ฟ็อกซ์คอนน์ยึดถือเสมอมา เช่นเดียวกันกับ ปตท.ที่ขับเคลื่อนและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สะท้อนถึงการมีกลยุทธ์และวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในทิศทางเดียวกัน โดยตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียนที่เริ่มมีการปรับตัวและเติบโตแบบก้าวกระโดด การผนึกความร่วมมือกับ ปตท.ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะสามารถนำเอาประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ของทั้งสององค์กรมาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศไทยมุ่งสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ได้อย่างแท้จริง 

อนึ่ง การร่วมทุนในครั้งนี้ยังเป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตให้สมบูรณ์และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมนำพาประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ได้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น