xs
xsm
sm
md
lg

วิเคราะห์ Facebook เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ ไม่สน Google-Snap เคยเหลวมาก่อน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ต้องยอมรับว่าแว่นตาอัจฉริยะเป็นสินค้าที่ยังไม่นิ่งเมื่อพูดถึงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ หลายบริษัททั้งยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กพยายามเนรมิตแว่นตาไฮเทคขึ้นมาแต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เห็นชัดจากกูเกิล (Google) และสแนป (Snap) ที่ยังเหลวและไม่สามารถจุดกระแสขึ้นมาได้ ล่าสุดคือเฟซบุ๊ก (Facebook Inc.) ที่ได้กระโดดเข้าร่วมวงด้วยการเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะของตัวเอง

จากข่าวลือครั้งแรกในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แว่นตาอัจฉริยะของ Facebook ได้เปิดตัวแล้วภายใต้ชื่อ “เรย์-แบนสตอรีส์” (Ray-Ban Stories) โดย Facebook นำเสนอแว่นตาอัจฉริยะนี้ว่าจะเป็นช่องทางให้ผู้ใช้มี "วิธีการที่แท้จริง" ในการถ่ายภาพและวิดีโอ การแบ่งปันการผจญภัย การฟังเพลง การรับสายโทรศัพท์ และอื่นๆ



แว่นตาอัจฉริยะชื่อยาวนี้จำหน่ายในราคา 299 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,000 บาท) กำหนดวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ อิตาลี และสหราชอาณาจักร โดยแว่นตามีให้เลือก 20 แบบ

สเปกทางเทคนิคนั้นน่าสนใจ เพราะแว่นตาอัจฉริยะของ Facebook ประกอบด้วยกล้องคู่ขนาด 5 เมกะพิกเซล จุดขายของกล้องคือผู้ใช้จะสามารถจับภาพช่วงเวลาที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติจากมุมมองของบุคคลที่ไม่เหมือนใคร

แถลงการณ์ระบุว่า ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพโลกอย่างที่เห็นได้อย่างง่ายดาย สามารถถ่ายภาพและวิดีโอสูงสุด 30 วินาทีโดยใช้ปุ่มจับภาพหรือแฮนด์ฟรีด้วยคำสั่งเสียงของเฟซบุ๊กแอสซิสแทนต์ (Facebook Assistant) ซึ่งเป็นระบบผู้ช่วยเสียงของบริษัท




Facebook ระบุว่า แว่นนี้จะไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือละเมิดความเป็นส่วนตัว เพราะจะมีไฟแอลอีดี (LED) แสดงสถานะเมื่อมีการถ่ายภาพ ไฟจะสว่างขึ้นเพื่อให้ผู้คนรู้ว่ากำลังมีการถ่ายภาพหรือวิดีโอ ถือเป็นฟีเจอร์สำคัญที่แสดงว่า Facebook ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัว

แว่นตาอัจฉริยะยังมีลำโพงแบบเปิดหูที่เพรียวบาง มีการติดตั้งไมโครโฟน 3 ตัวไว้บน Ray-Ban Stories ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้ฟังเสียงที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นสำหรับการโทร.หรือทำวิดีโอคอลล์

ยังมีเทคโนโลยี “Beamforming” ซึ่ง Google เคยอธิบายว่า เป็นเทคนิคการประมวลผลในเซ็นเซอร์สำหรับการส่งหรือรับสัญญาณตามทิศทาง ก็ถูกมาไปใช้กับแว่นตาอัจฉริยะรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังเพิ่มอัลกอริธึมการป้องกันเสียงรบกวนเบื้องหลัง เพื่อมอบประสบการณ์การโทร.ที่ดียิ่งขึ้น



การร่วมมือกันพัฒนา Ray-Ban Stories ถูกมองไปในทางบวก เพราะในช่วงที่ Google และ Snap โปรโมตแว่นตาอัจฉริยะ ชาวโลกยังไม่มีความจำเป็นในการใช้งาน จนทำให้บางคนมองแว่นตาอัจฉริยะในยุคนั้นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูไม่สมเหตุสมผล แต่สำหรับรอบนี้ Facebook เพิ่มทุกฟีเจอร์ที่ดูเหมาะสมกับการสื่อสารในยุคนิว นอร์มอลพอสมควร ทำให้แม้ชื่อ Ray-Ban Stories จะดูไม่โดดเด่นในฐานะแว่นตาเทคโนโลยี แต่ในทางทฤษฎีสามารถดึงดูดความสนใจจากคนไอทีได้

ที่ผ่านมา แว่น Ray-Ban ไม่เคยถูกเอ่ยถึงในฐานะแว่นตาราคาประหยัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากแบรนด์ระดับโลกในกลุ่มบริษัทแม่อย่าง Luxottica Group SpA ดังนั้นการทำงานร่วมกันกับ Facebook จึงมีโอกาสในการเจาะตลาดผู้ใช้ไฮเอนด์มากกว่าแว่นตาอัจฉริยะของบริษัทไอทีต่างๆ ที่พยายามทำมาก่อน และล้มเหลวไปก่อนหน้านี้




กำลังโหลดความคิดเห็น