ไทยโซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ลุ้นปิดดีล M&A โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2-3 โครงการภายใน 1-2 เดือนนี้ มั่นใจผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้เติบโตสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนจากการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำและโครงการ M&A ตั้งเป้า 5 ปีนี้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 100-200 เมกะวัตต์ทั้งใน และต่างประเทศ
นางสาวเกศรา เลิศพนาสรรค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บริษัท ไทยโซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (TSE) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนหรือซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (M&A) อีก 2-3 โครงการ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว คาดว่าจะปิดดีลได้ภายใน 1-2 เดือนนี้
ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้จากการ M&A ทันที หนุนผลประกอบการครึ่งหลังปี 2564 ของบริษัทให้เติบโตสูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โซลาร์ลอยน้ำ “สยาม ธารา โฟลทติ้ง” (Floating Solar PV Farm) ขนาดกำลังผลิต 8 เมกะวัตต์ ภายใต้อายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับลูกค้า 25 ปี (Private PPA) โดยจ่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 64
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/2564 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากโรงไฟฟ้าบางแห่งรับรู้รายได้เป็นไปตามฤดูกาล เช่น บางโครงการในประเทศญี่ปุ่นที่มีหิมะตกหนักส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่หากเทียบผลการดำเนินงานกับปีก่อนยังต้องรอดูปริมาณฝนด้วย ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มว่าฝนจะตกมากกว่าปีที่ผ่านมา
ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้ยังมีโครงการโซลาร์ฟาร์ม โอนิโกเบ (ONIKOUBE) ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้งรวม 147 เมกะวัตต์ และเสนอขายไฟที่ 133 เมกะวัตต์ คาดจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4 ปี 65
นางสาวเกศรากล่าวว่า ส่วนแผนลงทุน 5 ปีข้างหน้า บริษัทศึกษาโอกาสการลงทุนพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ทั้งพลังน้ำ ลม และ Waste to Energy โดยจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทั้งในไทย และต่างประเทศ โดยการลงทุนในประเทศไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 50 เมกะวัตต์ ส่วนต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนทั้งพลังงานลม และโซลาร์ฯ ในเวียดนาม และประเทศอื่นๆ คาดหวังจะมีกำลังผลิตใหม่เพิ่มขึ้น 50-100 เมกะวัตต์ ทำให้ในช่วง 5 ปีข้างหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 100-200 เมกะวัตต์