xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์มาตรการลดค่าครองชีพรัฐ กดเงินเฟ้อ ส.ค. 64 ขยายตัวลบ 0.02%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เงินเฟ้อ ส.ค. 64 ลด 0.02% หดตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เหตุได้อานิสงส์จากมาตรการลดค่าเล่าเรียน ไฟฟ้า ประปา อาหารสดบางชนิดลดลง ราคาพลังงานเริ่มชะลอตัว คาดเดือน ก.ย.ขยับขึ้น แต่ถ้ารัฐต่อมาตรการลดค่าครองชีพจะยังฉุดเงินเฟ้อขยับในแดนลบ พร้อมเตรียมประเมินเป้าเงินเฟ้อทั้งปีใหม่

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ส.ค. 2564 เท่ากับ 99.63 เทียบกับเดือน ก.ค. 2564 ลดลง 0.18% เทียบกับ ส.ค. 2563 ลดลง 0.02% เป็นการกลับมาหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 8 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ส.ค.) เพิ่มขึ้น 0.73% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่าดัชนีอยู่ที่ 100.43 ลดลง 0.07% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. 2564 และเพิ่มขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. 2563 และเฉลี่ย 8 เดือนเพิ่มขึ้น 0.23%

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือน ส.ค. 2564 หดตัวมาจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ โดยเฉพาะการลดค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าน้ำประปา การลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดบางชนิด โดยเฉพาะข้าว เนื้อสัตว์ ผักสด และผลไม้สด และราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานที่แม้จะเพิ่มขึ้นแต่เริ่มชะลอตัวลง ขณะที่ราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ

ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค. 2564 มีสินค้าปรับขึ้นราคา 204 รายการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ไข่ไก่ น้ำมันพืช ขิง องุ่น กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ปลาหมึกกล้วย ผงซักฟอก สินค้าไม่เปลี่ยนแปลง 71 รายการ และสินค้าลดลง 155 รายการ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ไก่ย่าง มะเขือเทศ ต้นหอม ผักชี เงาะ

นายวิชานันกล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อในเดือน ก.ย. 2564 คาดว่าจะกลับมาขยายตัวในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยมีปัจจัยสำคัญจากการสิ้นสุดมาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ซึ่งสิ้นสุดในเดือนส.ค. 2564 อีกทั้งราคาพลังงานมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยจากการเพิ่มกำลังการผลิตของผู้ผลิตโลก ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่มีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย แต่ถ้ารัฐบาลต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพ ทั้งลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ถึงสิ้นปี ก็จะทำให้เงินเฟ้อขยายตัวในแดนลบต่อไป โดยทั้งปีคาดว่าเงินเฟ้อจะขยายตัว 0.7-0.8% แต่ถ้าไม่มีมาตรการ ก็ยังบวกไม่ถึง 1% จากคาดการณ์ 0.7-1.2% มีค่ากลางอยู่ที่ 1.2%

อย่างไรก็ตาม จะมีการทบทวนประมาณการณ์เงินเฟ้ออีกครั้ง หลังจากได้ตัวเลขในเดือนก.ย.2564 โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มีการปรับประมาณการลง แต่จะยึดตัวเลขของสภาพัฒน์ที่ 0.7-1.5% จากเดิม 1.5-2.5% ราคาน้ำมันดิบดูไบ ต้องประเมินอีกครั้ง เดิมอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยน ที่จะประเมินใหม่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 30-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น