ทุกวันนี้เราจะได้เห็นน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล หรือสูตรน้ำตาลน้อยกว่า จำหน่ายตามท้องตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากกรมสรรพสามิตเริ่มเก็บภาษีน้ำตาลแบบขั้นบันไดตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา บรรดาผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ ต่างเข็นสินค้ารสชาติใหม่ที่แตกต่าง เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่กังวลเรื่องน้ำตาลและแคลอรี และดึงพรีเซ็นเตอร์แห่งยุคเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
ล่าสุด ค่ายซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เซเว่นอัพฟรี พลัสไฟเบอร์ (7UP Free Plus Fiber) เครื่องดื่มอัดลมกลิ่นไลม์และเลมอน เปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก นอกจากจะใส ซ่า ปราศจากน้ำตาลและกาเฟอีน ผสมผสานรสชาติหวานเปรี้ยวที่สดชื่นลงตัวแล้ว ยังผสมไฟเบอร์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
วางจำหน่าย 3 ขนาด ได้แก่ แบบกระป๋อง ขนาด 325 มิลลิลิตร มีไฟเบอร์ 4,000 มิลลิกรัมต่อกระป๋อง, แบบขวดเพ็ต (PET) ขนาด 430 มิลลิลิตร มีไฟเบอร์ 5,500 มิลลิกรัมต่อขวด และ 440 มิลลิลิตร มีไฟเบอร์ 5,600 มิลลิกรัมต่อขวด ทยอยวางจำหน่ายแล้วในร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก-ส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นมา
Ibusiness review ซื้อจากร้านสะดวกซื้อดังมา 2 แบบ ได้แก่ แบบกระป๋อง ขนาด 325 มิลลิลิตร ราคา 18 บาท (แบบแพ็ค 6 กระป๋อง ราคา 95 บาท) ถือว่าสูงกว่าน้ำอัดลมกระป๋องรายอื่นๆ ที่ปกติขายกระป๋องละ 15 บาท อีกแบบหนึ่งคือ แบบขวดเพ็ต ขนาด 440 มิลลิลิตร ราคา 18 บาทเท่ากัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางผู้ผลิตยังไม่มีขนาดตั้งแต่ 1 ลิตรขึ้นไปจำหน่ายแต่อย่างใด
ในแต่ละกระป๋องจะมีไฟเบอร์ ที่ทางผู้ผลิตระบุว่าว่าเทียบเท่าปริมาณไฟเบอร์ในแอปเปิล 1 ผล ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีใยอาหาร 3,000 มิลลิกรัม คุณสมบัติเพิ่มกากในระบบทางเดินอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย เมื่อพิจารณาจากส่วนผสมพบว่าทั้งแบบกระป๋องและแบบขวดเพ็ท มี รีซิสแทนท์ มอลโทเด็กซ์ทริน ไฟเบอร์ (Resistant Maltodextrin Fiber) อยู่ 15% เหมือนกัน
จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า รีซิสแทนท์ มอลโทเด็กซ์ทริน ไฟเบอร์ เป็นเส้นใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำ ผลิตจากแป้งข้าวโพด ซึ่งร่างกายย่อยสลายและดูดซึมได้น้อย ขณะที่วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล ประกอบด้วย แอสปาแตม, อะซีซัลเฟม โพแทสเซียม และ ซูคราโลส ได้รับตราสัญลักษณ์ "เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ" ที่แสดงว่าน้ำตาล ไขมัน โซเดียมผ่านเกณฑ์
เมื่อดูข้อมูลโภชนาการพบว่า แบบกระป๋องจะให้พลังงาน 20 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 5 กรัม (2%) แบ่งเป็นใยอาหาร 4 กรัม (16%) น้ำตาล 0 กรัม โซเดียม 70 มิลลิกรัม (4%) ส่วนแบบขวด ควรแบ่งกิน 2 ครั้ง จะให้พลังงาน 10 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 3 กรัม (1%) แบ่งเป็นใยอาหาร 3 กรัม (12%) น้ำตาล 0 กรัม โซเดียม 40 มิลลิกรัม (2%)
หากพิจารณาจากรสชาติพบว่า ไม่ต่างกับเครื่องดื่มเซเว่นอัพฟรี รสเลม่อนไลม์ ที่ขายตามท้องตลาดมากนัก เพียงแต่ว่าจะไปเพิ่มไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหาร อาจจะมีบางคนรู้สึกว่าทานแล้วขับถ่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เหมือนกับยุคหนึ่งที่เคยมีคนพูดถึงชากุหลาบยี่ห้อดัง ถูกกล่าวถึงว่าทานแล้วขับถ่ายไม่หยุด แต่ก็มีบางคนทานแล้วไม่รู้สึกแต่อย่างใด
และหากพิจารณาจากราคาพบว่า เมื่อแบบกระป๋องจำหน่ายในราคา 18 บาท สูงกว่าน้ำอัดลมทั้งน้ำดำและน้ำสี ราคาปกติอยู่ที่ 15 บาท คาดว่าการที่เซเว่นอัพออกผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมผสมไฟเบอร์ จะไม่ได้แข่งกับเครื่องดื่มอัดลมธรรมดา แต่แข่งกับน้ำอัดลมสายสุขภาพ ที่คู่แข่งค่ายหนึ่งระบุว่ามีวิตามินซีสูง ขายกระป๋องละ 16 บาท และถูกจัดให้เป็นน้ำอัดลมระดับพรีเมียมในเวลานี้
ปัจจุบัน ตลาดเครื่องดื่มรวม (Liquid Refreshing Beverage : LRB) ในประเทศไทยมีมูลค่ามากกว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยพบว่าน้ำอัดลมมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด เมื่อแยกย่อยจะพบว่าแบ่งออกเป็นน้ำดำ (โคล่า) น้ำสี และกลุ่มเลมอนเนด ที่ไม่ได้มีแค่สองค่ายใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีอีกค่ายจากผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ขอลงสนามเครื่องดื่มประเภทสปาร์คกิ้งเข้ามาด้วย
เซเว่นอัพฟรี พลัสไฟเบอร์ จึงเป็นการเข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการน้ำอัดลม ที่ยุคนี้ไม่ใช่แค่ให้ความซ่า สดชื่น แบบไม่มีน้ำตาล แต่ต้องเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้า เช่น สารอาหาร เพื่อฉีกตลาดออกไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ทดแทนกลุ่มเป้าหมายเดิม ที่การทำการตลาดในขณะนี้ มีข้อจำกัดจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
