xs
xsm
sm
md
lg

โนเกียยิ้ม! ยอดขายไทยพุ่ง 40%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ครึ่งปีแรก 64 ตลาดไทยตอบรับดี ยอดขายโทรศัพท์แบรนด์โนเกียเติบโต 40%
เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เสริมแบรนด์โนเกียทั่วโลก เผยครึ่งปีแรกตลาดไทยตอบรับดี ยอดขายเติบโต 40% จากปีก่อน หลังเดินเกมการตลาดเข้มข้น เปิดตัวมือถือครอบคลุมฟีเจอร์โฟน-สมาร์ทโฟนไปแล้วรวม 8 รุ่น เจาะกลุ่มผู้บริโภคทุกเซกเมนต์

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 โนเกียได้รับการตอบรับจากตลาดประเทศไทยเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายเติบโต 40% เมื่อเทียบจากปีก่อนทั้งในแง่ของผู้บริโภครับรู้ว่าแบรนด์โนเกียกลับเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง และในแง่การตอบรับต่อตัวโปรดักต์คุณภาพและความคุ้มค่าของโทรศัพท์โนเกีย

นับตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ครอบคลุมทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนสู่ตลาดไทยไปแล้วรวม 8 รุ่น ประกอบด้วย โทรศัพท์ฟีเจอร์โฟน จำนวน 2 รุ่น คือ “Nokia 105 4G” และ “Nokia 110 4G” พร้อมจุดเด่นที่เป็นการยกระดับมาตรฐานตลาดฟีเจอร์โฟนใหม่ ด้วยระบบเสียงคมชัดถึงระดับ VoLTE HD รองรับการเชื่อมต่อ 4G ออกแบบให้สามารถใช้งานง่ายขึ้นด้วยซูมเมนู เปิดฟังวิทยุเอฟเอ็มได้ทันที โดยไม่ต้องใส่หูฟัง แบตเตอรี่อึด สแตนด์บายได้สูงสุด 18 วัน

ภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล
รุ่นเด่นของแบรนด์โนเกียคือ Nokia G10 สมาร์ทโฟนระดับกลางราคา 3,990 บาท สเปกเกินราคามาพร้อมกับ CPU และจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ ตอบโจทย์การติดต่อสื่อสารระยะไกล ใช้ติดต่อกับครอบครัว รองรับการทำงานและเรียนออนไลน์

นอกจากนี้ ยังเปิดตัวโทรศัพท์สมาร์ทโฟน จำนวน 6 รุ่น ได้แก่ สมาร์ทโฟนระดับบนรุ่น “Nokia 5.4” ที่เน้นดีไซน์ให้ทันสมัย จอ IPS LCD แบบ Dot Display ขนาด 6.39 นิ้ว ขนาดกำลังดีและงานออกแบบที่สวยงาม มีให้เลือกทั้งสี Polar Night และ Dusk สเปกเต็มขุมพลัง Snapdragon 662 พร้อม RAM 4GB หน่วยความจำ 128GB สามารถเพิ่มความจำได้ในตัวและได้แบตเตอรี่อึดอยู่ได้นานสุด 2 วัน

อีกรุ่นคือ “Nokia G20” ที่สามารถเป็นครีเอทีฟสตูดิโอเคลื่อนที่ ด้วยกล้องถ่ายภาพคมชัด 48 ล้านพิกเซล ทั้งแบบไวด์สกรีน มาโคร และวิดีโอ รวมทั้งระบบเสียง OZO Audio เพิ่มอรรถรสให้เนื้อหา พร้อมแบตเตอรี่อึด ชาร์จเพียงครั้งเดียวใช้ได้นาน 3 วัน และสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่น “Nokia 3.4” จอขนาดใหญ่ 6.39" HD+ แบบ Punch Hole Display พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว 13 ล้านพิกเซล 5 ล้านพิกเซล Ultra Wide และ 2 ล้านพิกเซล ด้วย AI อัจฉริยะ โหมดถ่ายภาพบุคคล และโหมดถ่ายภาพกลางคืน และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล

รวมถึง “Nokia 1.4” ระบบปฏิบัติการอัปเกรดได้ถึง Android 12 (Go Edition) ชิปเซ็ต Qualcomm® ประมวลผลข้อมูลแบบไม่ติดขัด พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องคู่หลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล หน้าจอ HD+ ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว และแบตเตอรี่สุดอึด ใช้งานยาว 2 วัน และ “Nokia C10” ซึ่งโดดเด่นที่ความลงตัวระหว่างแบตเตอรี่เพียงพอสำหรับใช้งานเต็มวัน และหน้าจอ HD+ ระดับคริสตัลเคลียร์ที่ใหญ่คมชัดขนาดใหญ่ 6.52 นิ้ว ฟีเจอร์วิดีโอ HDR คู่กับแฟลช LED ด้านหน้าและด้านหลัง ยกระดับการถ่ายภาพที่เหนือชั้น

หนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด “Nokia”
ขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด “Nokia G10” สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งาน โดยเฉพาะเพื่อการติดต่อสื่อสารระยะไกลกับครอบครัว การทำงานและเรียนออนไลน์ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดดเด่นในเรื่องดีไซน์ตัวเครื่องสีม่วง (Dusk) นำเทรนด์ พร้อมด้วยสีน้ำเงิน (Night) ในราคาที่จับต้องได้เพียง 3,990 บาท ด้วย CPU Mediatek G25 8x A53 2.0GHz และจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ สเปกเดียวกับ Nokia G20 โดยแต่ละรุ่นล้วนมีจุดเด่น เน้นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ โนเกีย ที่ดีไซน์สวย ฟังก์ชันครบ วัสดุคงทน คุ้มเกินราคา พร้อมแบตเตอรี่สุดอึด แถมอัปเดตระบบปฏิบัติการและระบบความปลอดภัยต่อเนื่องนาน 2 ปี

"หนึ่งในปัจจัยของการเติบโตสู่ความสำเร็จในครึ่งแรกของปี 2564 ของโนเกีย มาจากการเข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภค เพื่อค้นหาความต้องการอย่างแท้จริงในยุคปัจจุบันท่ามกลางภาวะการเปลี่ยนแปลง พบส่วนหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นคือ ผลกระทบจากช่วงมาตรการล็อกดาวน์ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เร่งให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจ และรูปแบบชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทุกช่วงวัยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ทั้งด้านการเรียน การทำงาน อีกทั้งด้านรองรับการใช้งานแอปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แอป “เป๋าตัง” “หมอพร้อม” และแอปธนาคาร สมัคร โอน เติม จ่าย ส่งผลให้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน ท่ามกลางยุคเศรษฐกิจรัดตัว” แถลงการณ์ระบุ

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังโนเกียชี้ว่ายังคงมุ่งมั่นพัฒนา และออกแบบโทรศัพท์มือถือที่เน้นความต้องการผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าเปิดตัวสมาร์ทโฟนออกสู่ตลาดให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เข้มข้นและเสนอโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกเซกเมนต์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์โทรศัพท์ในใจผู้บริโภคทุกกลุ่ม ที่มาพร้อมความชื่นชอบ ไว้วางใจ และใช้งานได้นานคุ้มค่า ในราคาที่จับต้องได้ในทุกช่วงเวลา
กำลังโหลดความคิดเห็น