xs
xsm
sm
md
lg

แสงเริ่มสว่างกลางอุโมงค์ งบโฆษณา มิ.ย.พุ่ง 14% ดันตลาดรวมครึ่งแรกสู่ 5.3 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



การตลาด - ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งปี 2564 วงการโฆษณาเริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อนีลเส็นเปิดเผยผลล่าสุด งบโฆษณารวมเดือนมิถุนายน ปี 64 สดใสเพราะเติบโตถึง 14% ด้วยมูลค่ารวม 8,674 ล้านบาท ส่วนช่วง 6 เดือนแรกของปีก็โต 8% ทะลุ 53,640 ล้านบาท

ปี 2564 ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งปี ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ยังหนักหน่วงต่อเนื่อง โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจก็ยังคงทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากมาตรการที่เข้มงวดต่างๆ ของภาครัฐที่ส่งผลต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การประกอบธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า รวมไปถึงการใช้จ่ายงบประมาณทางด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบรรดาสินค้าและบริการต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแม้ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบ แต่ในแง่ของการสื่อสารโฆษณาก็ยังคงต้องมีบ้าง โดยเฉพาะกับแบรนด์ใหญ่ที่ต้องกันงบประมาณส่วนนี้ไว้เหมือนเดิม แต่อาจจะน้อยลงบ้างเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากตัวเลขงบโฆษณาในภาพรวมของเดือนมิถุนายนปีนี้กระเตื้องขึ้นมาอย่างมาก มีการเติบโตมากถึง 14% แล้ว
 
ขณะที่ภาพรวมครึ่งปีแรกปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายนตัวเลขก็เพิ่มขึ้นประมาณ 8% แม้จะไม่มากก็ตาม


ทั้งนี้ บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณาล่าสุดของเดือนมิถุนายน ปี 2564 ที่เปรียบเทียบกับมิถุนายนปีที่แล้ว (2563) พบว่ามิถุนายนปีนี้มีมูลค่ารวมประมาณ 8,674 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 14% หรือจากมูลค่าเดิม 7,593 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมช่วง 6 เดือนแรก คือ มกราคม-มิถุนายน ของปี 2564 พบว่ามีมูลค่ารวมประมาณ 53,640 ล้านบาท เติบโต 8% จากเดิมมีมูลค่า 49,582 ล้านบาท

ปรากฏการณ์นี้ค่อนข้างที่จะทำให้คนในวงการโฆษณาใจชื้นขึ้นมาไม่มากก็น้อย

เมื่อพิจารณาสื่อแต่ละสื่อของเดือนมิถุนายนปีนี้เทียบกับมิถุนายนปีที่แล้ว พบว่าสื่อทีวีมีมูลค่า 5,308
ล้านบาท จากเดิมที่มี 4,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 20%, สื่ออินเทอร์เน็ต มีมูลค่า 1,900 ล้านบาท จากเดิมที่มี 1,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%, สื่อกลางแจ้งและสื่อเคลื่อนที่ มีมูลค่า 750 ล้านบาท จากเดิมที่มี 741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%, สื่อโรงหนัง มีมูลค่าเหลือ 111 ล้านบาท จากเดิมที่มี 250 ล้านบาท หรือตกลงมากที่สุดถึง 56%, สื่อวิทยุ มีมูลค่า 277 ล้านบาท จากเดิมที่มี 267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4%, สื่อสิ่งพิมพ์ มีมูลค่าเหลือ 271 ล้านบาท จากเดิมที่มี 284 ล้านบาท หรือตกลง 5% และสื่ออินสโตร์ มีมูลค่า 47
ล้านบาท จากเดิมที่มี 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากสุดที่ 68%

ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรก คือ มกราคม-มิถุนายน ปี 2564 มีมูลค่ารวม 53,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากเดิมมี 49,582 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสื่อที่มีการเติบโตมากที่สุด คือ สื่ออินเทอร์เน็ต เพิ่มขึ้น 20% เป็น 11,400 ล้านบาท จากเดิมมี 9,498 ล้านบาท, ขณะที่สื่อทีวีเติบโตรองลงมาที่ 10% เป็น 32,097 ล้านบาท จากเดิมมี 29,201 ล้านบาท, สื่ออินสโตร์ มีมูลค่า 333 ล้านบาท จากเดิมมี 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% และสื่อโรงหนัง มีมูลค่า 1,771 ล้านบาท จากเดิมมี 1,672 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6%

ส่วนสื่อที่ตกลงมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้เทียบปีที่แล้ว คือ สื่อสิ่งพิมพ์ตกลงมากถึง 13% เหลือ 1,528 ล้านบาท จากเดิมมี 1,751 ล้านบาท, สื่อวิทยุ เหลือมูลค่า 1,576 ล้านบาท จากเดิมมี 1,766 ล้านบาท ตกลง 11% และสื่อกลางแจ้งหรือสื่อเคลื่อนที่ มีมูลค่า 4,935 ล้านบาท จากเดิมมี 5,382 ล้านบาท
หรือตกลง 8%

ทั้งนี้ สื่อทีวียังคงเป็นสื่อหลักที่มีสัดส่วนของการใช้งบโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 60%


หากพิจารณาในแง่ของกลุ่มอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่ใช้งบโฆษณาแล้ว สำหรับภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณาปี 2564 ช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายน อุตสาหกรรมหลักที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด คือ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food&Beverage) มีมูลค่า 9,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31%, กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและเครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 7,871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%, กลุ่มสื่อและการตลาด มีมูลค่า 6,281 ล้านบาท ขึ้นเท่ากับคราวที่แล้ว, กลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 3,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%

ส่วนกลุ่มที่ใช้งบโฆษณาตกลงมากที่สุด คือ กลุ่มบันเทิง มีแค่ 91 ล้านบาท ตกลงมากถึง 68%, กลุ่มท่องเที่ยว มีมูลค่า 629 ล้านบาท ตกลง 59%, กลุ่มเกษตรกรรม มีมูลค่า 306 ล้านบาท ตกลง 35%

ในขณะที่กลุ่มเครือข่ายการสื่อสาร (Telecommunication) มูลค่า 1,975 ล้านบาท ตกลง 10% และกลุ่มการเงินการลงทุน (Finance) มูลค่า 1,889 ล้านบาท ตกลง 15%


สำหรับ 3 บริษัทที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ก็ยังคงเป็นสามรายเดิมที่ครองอันดับมายาวนานต่อเนื่องตลอด คือ

1. บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. ใช้งบมูลค่า 2,734 ล้านบาท โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาคือ ทุกทุกตัว U ทำสิ่งดีดี ทางสื่อทีวี มูลค่า 40 ล้านบาท รองลงมาคือ คอมฟอร์ท อัลตร้าแคร์ ปกป้องสีและใยผ้าจากการซัก ทางสื่อทีวี มูลค่า 38 ล้านบาท

2. บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 1,538 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 49% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาคือ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู กลมกล่อม หอม ครบ ทางสื่อทีวี มูลค่า 43 ล้านบาท รองลงมาคือ ไมโล ประโยชน์เต็มกล่อง ทางสื่อทีวี มูลค่า 26 ล้านบาท

3. บริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +26% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คือ ออรัลบี ทรีดีไวท์ ยาสีฟันสูตรฟันขาว ทางสื่อทีวี มูลค่า 19 ล้านบาท รองลงมาคือ เฮดแอนด์โชว์เดอร์ เหนือกว่า 5 เท่า ทางสื่อทีวี มูลค่า 18 ล้านบาท




ส่วนอันดับที่ 4 คือ บริษัท แมส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ใช้งบ 888 ล้านบาท, 5. บริษัท โมโน ช้อปปิ้ง จำกัด ใช้งบ 811 ล้านบาท, 6. บริษัท โคคา โคลา ประเทศไทย จำกัด ใช้งบ 810 ล้านบาท, 7. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ใช้งบ 627 ล้านบาท, 8. บริษัท คอลเกตุ ปาล์มโอลีฟ ประเทศไทย จำกัด ใช้งบ 623 ล้านบาท, 9. บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ใช้งบ 616 ล้านบาท และ 10. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด ใช้งบ 603 ล้านบาท โดยในภาพใหญ่ของตลาดงบโฆษณาตั้งแต่ปี 2558 ตลาดงบโฆษณารวมอยู่ที่ 115,669 ล้านบาท ตกลง 10% จากปี 2557

ส่วนปี 2559 ตลาดงบโฆษณารวมมีมูลค่าอยู่ที่ 112, 370 ล้านบาท ตกลง 3% ขณะที่ปี 2560 งบโฆษณารวมกระเตื้องขึ้นมาเป็นมูลค่า 120,886 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% สำหรับปี 2561 ตลาดงบโฆษณาโดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 123,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% แต่กลับมาตกลงอีกเมื่อปี 2562 ที่มีประมาณ 107,721 ล้านบาท ซึ่งตกลงไปมากถึง 13% ส่วนช่วงครึ่งปีแรกปีที่แล้ว (2563) มีมูลค่าประมาณ 49,582 ล้านบาท

ล่าสุดครึ่งแรกปีนี้ 2564 มีมูลค่า 53,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปี 2563

คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ในเดือนกรกฎาคม 2564 เดือนนี้ ซึ่งตัวเลขยังไม่ออกมา แนวโน้มตลาดภาพรวมจะเป็นอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น