เอลซัลวาดอร์จ่อเป็นชาติแรกในโลก ยอมรับบิตคอยน์เป็นสกุลเงินทางการ

ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล เผยเตรียมเสนอกฎหมายที่จะทำให้เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกในโลกที่ยอมรับบิตคอยน์เป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ชี้แค่มีบิตคอยน์ 1% ไปลงทุนในเอลซัลวาดอร์จะทำให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นถึง 25% ในทางกลับกัน บิตคอยน์จะมีว่าที่ผู้ใช้ใหม่ 10 ล้านคน คาดระยะสั้นแผนการนี้จะช่วยสร้างงานและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับประชาชนจำนวนมากที่อยู่นอกระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ และนำเสนอวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการโอนเงินกลับประเทศปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์

ในวิดีโอที่เผยแพร่กลางงานบิตคอยน์ 2021 ที่จัดขึ้นที่ไมอามีเมื่อวันอาทิตย์ (6) และว่ากันว่า เป็นงานประชุมเกี่ยวกับบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บูเคเล ผู้นำเอลซัลวาดอร์ ประกาศว่า ภายในสัปดาห์นี้จะส่งร่างกฎหมายที่ทำให้บิตคอยน์เป็นเงินตราที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของเอลซัลวาดอร์ในปัจจุบัน

ผู้นำเอลซัลวาดอร์บอกว่า ในระยะสั้นแผนการนี้จะช่วยสร้างงานและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับประชาชนจำนวนมากที่อยู่นอกระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นความจำเป็นทางจริยธรรม ขณะเดียวกัน การนำเสนอการเข้าถึงสินเชื่อ การฝากเงิน การลงทุน และการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย ยังช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต

นอกจากนั้น บูเคเลยังทวิตว่า ด้วยมูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์ที่ 680,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้น ถ้ามีบิตคอยน์ 1% ไปลงทุนในเอลซัลวาดอร์จะทำให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นถึง 25% ในทางกลับกัน บิตคอยน์จะมีว่าที่ผู้ใช้ใหม่ 10 ล้านคน และนำเสนอวิธีการที่รวดเร็วที่สุดในการโอนเงินกลับประเทศปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์จะร่วมมือกับสไตร๊ค์ บริษัทดิจิตอลวอลเล็ต สร้างโครงสร้างพื้นฐานการเงินสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีบิตคอยน์

แจ็ค มอลเลอร์ส ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) สไตร๊ค์ กล่าวว่า การตัดสินใจของผู้นำเอลซัลวาดอร์จะเป็นสิ่งที่ “ลือลั่นไปทั่วโลก” และว่า การยอมรับเงินดิจิตอลเป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายทำให้เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศที่มีเครือข่ายการชำระเงินแบบเปิดที่สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยที่สุดในโลก

ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงสำคัญนี้จะช่วยยกระดับบิตคอยน์ให้เป็นทั้งทรัพย์สินสำรองที่มีมูลค่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาและเครือข่ายทางการเงินที่เหนือชั้น การถือครองบิตคอยน์ยังเป็นวิธีปกป้องประเทศกำลังพัฒนาจากแนวโน้มผลกระทบจากความผันผวนของเงินเฟียต

มอลเลอร์ที่กล่าวจากเวทีหลักของงานยังบอกอีกว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยปลดปล่อยพลังและศักยภาพของบิตคอยน์ในการใช้จ่ายประจำวันบนเครือข่ายแบบเปิดซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คน ธุรกิจ และบริการสาธารณะ

เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใช้เงินสดขนาดใหญ่ ที่ประชากร 70% ไม่มีบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต แต่ละปีมีการโอนเงินกลับประเทศมูลค่าถึง 6,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โดยผู้ให้บริการอาจคิดค่าธรรมเนียมอย่างน้อย 10% แถมใช้เวลาในการโอนเป็นวันๆ และบางครั้งผู้รับต้องเดินทางไปรับเงินเอง

แต่ถ้าใช้บิตคอยน์ ครอบครัวรายได้ต่ำกว่า 1 ล้านครอบครัวจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นปีละหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความเป็นอยู่และอนาคตของคนเหล่านั้น

แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับกลไกของแผนการนี้ แต่ซีเอ็นบีซีรายงานว่า เอลซัลวาดอร์ได้ตั้งทีมผู้นำบิตคอยน์เพื่อช่วยสร้างระบบนิเวศทางการเงินใหม่ที่มีบิตคอยน์เป็นพื้นฐาน

ความที่พรรคนิวไอเดียส์ของบูเคเลควบคุมสภานิติบัญญัติอยู่ การผ่านร่างกฎหมายใหม่นี้จึงไม่น่ามีปัญหาใดๆ

อดัม แบล็ก ซีอีโอบล็อกสตรีม บอกว่า เอลซัลวาดอร์กำลังจะเป็นประเทศแรกที่ใช้บิตคอยน์ชำระหนี้ตามกฎหมาย โดยบล็อกสตรีมมีแผนให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านดาวเทียม เพื่อช่วยให้เอลซัลวาดอร์เป็นต้นแบบของโลกในการยอมรับมาตรฐานบิตคอยน์

นี่ไม่ใช่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบิตคอยน์ครั้งแรกในเอลซัลวาดอร์ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สไตร๊ค์ได้เปิดตัวแอปบริการชำระเงินบนมือถือที่กลายเป็นแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในประเทศนี้

บิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ไม่มีสินทรัพย์หรือรัฐบาลค้ำประกัน แต่มูลค่าของเหรียญส่วนหนึ่งมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า มีการจำกัดจำนวนบิตคอยน์ไว้ที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ช่วงหลายปีมานี้ราคาบิตคอยน์ที่ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงกับเศรษฐกิจจริงผันผวนอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางของประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเงินดิจิตอลของตัวเอง เช่น เดือนเมษายนที่ผ่านมา แบงก์ชาติอังกฤษประกาศว่า กำลังมองหาวิธีพัฒนาเงินดิจิตอลที่จะใช้ควบคู่กับเงินสดและบัญชีเงินฝาก