ในยุคโควิดเช่นนี้จะคิดสร้างธุรกิจ ก็ต้องมีจุดเด่นและความแปลกใหม่ เช่นเดียวกันกับร้าน “อ้วนเป็นหมู” ที่นำเมนูเค้กกะเพรามาเสิร์ฟ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก พร้อมผุดเมนูใหม่มาให้ได้ลองกับเค้กชาบู!
วิภาดา เวชชประสิทธิ์ เจ้าของร้าน อ้วนเป็นหมู เล่าว่า ร้านนี้เปิดขึ้นมาได้เพียงแค่ 1-2 เดือนเท่านั้น ปัจจุบันทำงานรับราชการครูสอนคหกรรมและการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ และมีความรู้ในเรื่องของการทำเค้ก เบอเกอรี่ และอาหารเป็นทุนเดิม ประกอบกับช่วงวิกฤติโควิด-19 พี่ๆ น้องๆ ได้รับผลกระทบ ตกงาน คุณแม่ป่วย ไม่สบาย ภายในบ้านก็มีผู้สูงอายุป่วยซึมเศร้า จึงต้องการหากิจกรรมให้ทุกคนในบ้านทำ
จึงพูดคุยกันว่าลองขายอาหารออนไลน์ดูไหม เพื่อหารายได้ในช่วงนี้ จึงเริ่มจากอาหารตามสั่งก่อน นอกจากนี้แล้วยังมีสูตรซอสกะเพราโบราณ ที่ทำกินกันภายในบ้าน เมื่อลองไปให้ใครหลายคนชิมก็ได้ผลตอบรับที่ดี เลยนำมาเป็นเครื่องปรุงหลักๆ ภายในร้าน และในช่วงนี้ผู้บริโภคไม่ออกจากบ้าน จึงคิดว่าขายออนไลน์ อาจจะเหมาะสมมากกว่าการลงทุนเปิดหน้าร้าน ประกอบกับหลานสาวชื่นชอบเค้กมาก จึงคิดว่าถ้านำกระเพราสูตรอร่อยของคุณแม่มาทำเป็นเค้ก คงจะเพิ่มมูลค่า และเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันภายในครอบครัวที่สร้างสรรค์เลยทีเดียว
ทั้งนี้หลังจากที่ใช้การอัดข้าวกะเพราเป็นรูปเค้กมาขาย ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้ยอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งนอกจากเค้กกะเพราที่เป็นที่นิยมแล้ว ยังมีปลาหมึกไข่ ที่เป็นวัตถุดิบที่ได้จากเรือของครอบครัวส่งตรงจากปราณบุรีอีกด้วย
“เค้กของเราก็คือ จะใช้เมนูอาหารมาขึ้นรูปให้กลายมาเป็นเค้ก แล้วก็แต่งหน้าก็เป็นซีฟู้ดส์ต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ บางทีลูกค้าก็อาจจะเบื่อเค้กแล้ว ถ้าเรามาใช้อาหารคาวทำ อย่างเค้กกะเพราพอเป่าเค้กเสร็จเรียบร้อยก็สามารถกินต่อได้เลย ขนาดของเค้กกะเพราะจะอยู่ที่ 1ปอนด์ ซึ่งกินได้ 3-5 คนเลยทีเดียว ที่ร้านก็จะใส่เครื่องให้แน่นเลย ข้าวก็ต้องอัดแน่นจัดเต็ม”
ผลตอบรับตั้งแต่ที่เปิดร้านมา ลูกค้าก็ให้การตอบรับที่ดียอดการสั่งจองอย่างต่ำก็อยู่ที่วันละ 5-6 ปอนด์ก็ถือว่าเป็นผลตอบรับที่ดีเนื่องจากก็ตอบสนองโจทย์ของตนเอง ที่ต้องการให้มีกิจกรรมทำกันในครอบครัว ช่วงโควิด-19 ช่วยกันหาเงินเพื่อใช้จ่าย
เมนูในร้านก็จะมีเค้กกะเพราทะเล อยู่ที่ราคาปอนด์ละ 350 บาท ส่วนเค้กหมู ไก่ ไข่เยิ้ม จะอยู่ที่ราคาปอนด์ละ 250 บาท ซึ่งราคานี้จะเป็นราคาที่อยู่ในช่วงโปรโมชั่นเปิดตัวร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีก เช่น กะเพราปลาหมึกไข่ปลิ้น ไข่ยืดคอร์นชีส กะเพราหมูซูชิ เป็นต้น
สำหรับช่องทางการขายจะมีในช่องทาง Grabfood และในช่องทางของแฟนเพจเฟซบุ๊ก สำหรับหน้าร้านในตอนนี้จะยังไม่มีให้บริการ ส่วนจังหวัดอื่นนอกเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ จะมีบริการจัดส่งเพียงปลาหมึกเท่านั้น
"ที่ร้านเน้นความสดใหม่ ซื่อสัตย์กับลูกค้า ถ้าเค้กเกิดปัญหาหรือว่าไม่ดีทางร้านก็รับเคลมให้ลูกค้าทุกราย ปริมาณสมเหตุผลกับราคาที่ขาย เน้นความจริงใจ เราอยากทำให้เหมือนกับลูกค้ากินข้าวที่บ้านกับเรา ไม่ได้มองธุรกิจเป็นธุรกิจเพียงอย่างเดียว”
นอกจากนี้แล้วการสร้างจุดเด่น จุดแตกต่างก็คือตนใช้ความรู้ความสามารถจากอาชีพ และมองถึงความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบัน ที่การเลือกอาหารที่นอกเหนือจากรสชาติแล้วจะต้องเป็นอาหารที่หน้าตาน่ากิน รูปร่างสวย สามารถถ่ายรูปลงโซเชียลได้ แปลกใหม่ มีไอเดียในสินค้าชิ้นนั้นๆ ทางร้านจึงเลือกใช้สิ่งนี้มาผสมผสานให้ลงตัว สามารถหลีกหนีจากกลุ่มธุรกิจที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาดได้และไม่เคยที่จะหยุดพัฒนา สามารถทำและสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ
ในอนาคตจะเพิ่มเมนูเค้กชาบู เข้ามาเพิ่มเพื่อสร้างความหลากหลาย และมีการวางแผนว่าจะทำเป็นซอสกะเพราขวดเพื่อขายส่ง ขณะนี้ก็อยู่ในขั้นเตรียมการ และปรึกษากับเพื่อน คนรอบข้างในเรื่องของการตลาด โรงงานผลิต ต้นทุน ต่างๆ
สนใจติดต่อ เฟซบุ๊ก : อ้วนเป็นหมู
* * *คลิก Likeเพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ"รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด * * *
