xs
xsm
sm
md
lg

ฝีมือล้วนๆ ‘ไข่มุก-นพพรรณ พรวนสุข’ ดีไซเนอร์แห่ง Bunnyshoot ผู้ได้ร่วมงานกับฟูจิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

ดีไซเนอร์สาววัย 25 ปีผู้โปรดปรานในกล้องฟิล์ม เป็นนักออกแบบสายคล้องกล้องในนาม Bunnyshoot ที่สะท้อนถึงตัวตนของเธอเอง ทั้งรูปทรงและสีสัน กระทั่งเข้าตาแบรนด์กล้องยี่ห้อดัง “ฟูจิ” เชิญมาร่วมออกแบบสายคล้องกล้องโพลารอยด์ Instax ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ สร้างเสียงตอบรับที่ดีในหมู่คนเล่นกล้อง ที่อยากเห็น รอคอย และเฝ้าติดตามการจับคู่แบบใหม่ ๆ ระหว่างฟูจิ และ Bunnyshoot ว่าจะมีออกมาอีกหรือไม่ รวมทั้งรอติดตามคอลเลคชั่นใหม่ ๆ จาก Bunnyshoot ที่ยังคงผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อคนรักกล้อง


I Business สัมภาษณ์ ไข่มุก-นพพรรณ พรวนสุข ดีไซเนอร์สาวแห่ง Bunnyshoot ถึงความเป็นมา แรงบันดาลใจในการออกแบบรวมถึงเส้นทางก่อนจะมาเป็นนักออกแบบคนเก่ง

>>> จากนักเล่นกล้องฟิล์ม สู่การออกแบบสายคล้องกล้อง

ไข่มุกเล่าว่า เมื่อประมาณ 2ปี ที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ออกจากงานประจำคืองานออกแบบกราฟิกให้บริษัทจิวเวลรี่แห่งหนึ่ง ช่วงนั้นเธอนำเข้าฟิล์มจากประเทศสเปน

“ไข่มุกไปเจอฟิล์มยี่ห้อหนึ่งที่เราอยากเล่นมาก ๆ เห็นจากอินสตาแกรมในต่างประเทศ แล้วรู้สึกว่า ในไทยหายากมาก ๆ แล้วเราเป็นคนเล่นกล้องฟิล์มอยู่แล้ว ในไทยหายาก ก็เลยไปติดต่อที่ที่อยู่ตาม official ของเขาเลยเพราะอยากได้ ซึ่งมีค่าส่งที่แพง ก็เลยสั่งมาเยอะ เอามาลองหลาย ๆ แบบ”

ไข่มุกเล่าว่า เมื่อซื้อมาเยอะระดับหนึ่งก็ขายเพื่อนใน ไอจีส่วนตัว ซึ่งปรากฏว่าผลตอบรับค่อนข้างดี ประจวบกับ ตัดสินใจจะออกจากงานประจำพอดี จึงเปิดแอคเคาต์แยกมาเป็นของที่ร้านโดยเฉพาะ จากนนั้นก็เริ่มขายดีขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มมีคนสนใจ

“คือบางทีร้านฟิล์มปกติจะลงโฆษณาเป็นม้วนเลย เป็นหน้าม้วนของฟิล์ม แต่ไข่มุกจะใช้วิธีลงภาพที่เราถ่ายเอง ไม่ใช่ภาพจากต่างประเทศ เพราะมันเป็นความชอบ เป็นไลฟ์สไตล์ของเราอยู่แล้ว เราก็เอาภาพนั้นมาแชร์ มันทำให้คนเห็นว่าเราจะได้รูปที่สำเร็จออกมายังไง ถ้าคุณซื้อไป คุณจะได้ภาพ แบบนี้ ประมาณนี้ มันก็ทำให้คนเข้าถึงความเป็นฟิล์มได้ง่ายขึ้น”

“แต่ฟิล์มนี้ ด้วยความที่เขาผลิตมือมันก็จะมีช่วงเวลาตอนที่ลูกค้าเราอยากได้ แต่เราไม่มีอะไรจะขาย เราก็เลยคิดถึงช่องว่างของธุรกิจนี้ มันมีช่องว่างอยู่ คือส่วนตัวไข่มุกพอมีกล้องฟิล์ม เราก็จะรู้สึกว่าส่วนใหญ่ สายคล้องกล้องก็จะมีแต่ความแมน ๆ สายสีดำ สายใหญ่ๆ สานสีน้ำตาล ที่เหมาะกับการใช้งานแต่ไม่ถูกกับจริตของเรา ที่คิดว่า มันน่าจะน่ารักได้มากว่า นี้หรือสีชมพู สีฟ้าทีมีในตลาด มันก็ไม่ใช่สีชมพู หรือสีฟ้า ที่เราชอบมันคือหนึ่งใน Accessories คนเลือกหน้ากล้องที่สวย เลือกการคล้องที่สวย เราว่ามันก็น่าจะออกแบบให้สวยจริง ๆ ก็ลองทำกับตัวเองเลย พอเราหาซื้อไม่ได้ เราก็ออกแบบเองเลย ก็ให้น้องชายที่เป็นญาติ มาช่วยกันทำ Prototype เพื่อไปหาช่าง ไปคุยกับช่างว่าแบบที่เราผลิตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร”

ไข่มุกระบุถึงความเป็นมาแรกเริ่ม ที่นึกอยากออกแบบสายคล้องกล้องด้วยตนเอง สายคล้องกล้องที่เธอเริ่มผลิต ใช้หนังแท้ เริ่มจากไปซื้อเศษหนังแท้มา แล้วค่อยเอามาลองทำ ซึ่งไข่มุกบอกว่าโชคดี ได้เจอช่างที่อยากทำกับเรา แล้วเราทำจำนวนน้อย แต่ก็โชคดีที่ได้ทำมาเรื่อย ๆ


>>> ร่วมงานกับกล้อง Fuji

ถามว่ามาร่วมงานกับกล้องฟูจิได้อย่างไร
ไข่มุกตอบว่า จริง ๆ แล้วเจ้าหน้าที่ฟูจิที่ไทยติดต่อมาทางอินสตาแกรม ออฟฟิเชียล แต่ปกติ ไข่มุกไม่ค่อยได้ตอบข้อความ จึงมีการถามเข้ามาในไลน์แอด ว่าเขาอยากทำเป็น Bundle set

“คือฟูจิเขาจะเปิดตัวกล้องตัวนี้ แล้วก็จะมีแบบพิเศษเปิดตัวขึ้นมา แล้วเขาก็อยากลองทำกับเราดู ซึ่งตัวที่ลองทำกับฟูจินี่ล่ะค่ะ เป็นสายคล้องอันที่เรากำลังจะลองทำเป็นคอลเล็กชั่นใหม่อยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจที่จะทำกับเขา และคิดสีพิเศษให้เขา ตัวกล้องคือ mini 40 Instax ส่วนบันนี่ชู้ต คือ แบรนด์ของไข่มุก”

ไข่มุกระบุและเล่าเพิ่มเติมถึงความเป็นเป็นบันเดิลเซ็ต ฟูจิมีตัวกล้องโพลารอยด์ Instax อยู่แล้ว แล้วเขามาคุยกับเราว่าเขาอยากจะออกตัวนี้ ซึ่งปกติแล้ว กล้อง อินสแต็ก จะมีเซ็ตพิเศษอยู่แล้ว เช่น ทำกับดิสนีย์ เพื่อดันยอดขาย หรือเป็นกิ๊ฟท์เซ็ต ที่เขาจะทำตลอดอยู่แล้ว

“กล้อง อินสแต็ก ที่ไข่มุกได้มาตัวแรกที่แม่ซื้อให้ ก็เป็นบันเดิลเซ็ตกับซานริโอ” ไข่มุกระบุถึงแนวทางการทำการตลาดแบบบันเดิลเซ็ตของกล้องฟูจิ


>>> Bunnyshoot-Bunnywood

ไข่มุกเล่าว่า ฟูจิติดต่อมา ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งโชคดี ที่ไข่มุกมีแบบที่เตรียมนำเสนอไว้อยู่แล้ว เมื่อนำมาพูดคุยพัฒนาต่อทางฟูจิก็ชอบ

“เขาค่อนข้างเปิดให้เราช่วยคิดเลย ว่าเราชอบ แบบไหน คือไข่มุกทำสายคล้องกล้องของตัวเองอยู่แล้ว แล้วเขาเห็นเขาชอบ เขาก็เลยติดต่อมา อันที่ทำให้เขาคือ Bunnywood เป็นอันที่เรากำลังคิดอยู่พอดี พัฒนาเป็นสายตรง สายรุ่นใหม่ ชื่อ บันนี่ วู้ด คือตัวอะไหล่อันใหม่จะมาจากไม้สัก พัฒนาต่อยอดมาจากอันแรกที่ดูสนุกสนาน ดูหวาน ดูเด็กไปนิดหนึ่ง จริง ๆ ไข่มุกไม่ได้วางทาร์เก็ตไว้ที่กลุ่มเด็กขนาดนี้แต่ก็ปรากฏว่ามีเยอะ แต่เราก็รู้ว่ายังมีกลุ่มคนที่มินิมัล กลุ่มคนที่โตขึ้น แล้วก็เรียบง่ายขึ้น แต่ยังมีความสนุกอยู่ เราก็พัฒนา ว่าทำยังไงให้ยังเป็นเราอยู่และก็ต่อยอดในกลุ่มที่กว้างขึ้นด้วย”

ไข่มุกเล่าว่า ก่อนหน้านี้ ผลิตคอลเล็กชั่นแรก ชื่อ นิวเวฟ เป็นรุ่นที่ไข่มุกขายเองในนาม Bunnyshoot ไม่ได้ผลิตให้ทางฟูจิ แต่ที่ทำให้ฟูจิคือเซตพิเศษสายคล้องกล้อง Bunnywood ขายพร้อมกล้องมีแค่หนึ่งร้อยชุด ในเซ็ตมีกล้อง มีฟิล์ม มีตัวถุงผ้า

“สำหรับบันนี่วู้ด ที่ทำให้ฟูจิ เราจะมีสลักไม้เข้าไป สลักคำว่า อินสแต็ก เป็นสีพิเศษ เราเริ่มเปิดขาย 21 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา และหมดภายใน 1 อาทิตย์ เป็นกล้องโพลารอยด์ เสียงตอบรับเกี่ยวกับสายบันนี่วู้ด เสียงตอบรับดี จากอันแรกที่เราเคยทำมา ก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จจากที่เราพัฒนาต่อยอดมา ก็ได้ลูกค้ากลุ่มกว้างขึ้น กลิ่นความดีไซน์ที่เป็นเราก็ยังอยู่ แม้ดีไซน์จะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อนาคตอาจจะมีฝากขายที่ฟูจิ แต่ยังไม่ได้คุยกันละเอียดขนาดนั้น” ไข่มุกเล่าถึงผลสำเร็จด้วยยอดขาย 100 ชุดที่หมดเกลี้ยงภายใน 1 สัปดาห์

กระนั้น หลังจาก 100 เซ็ตที่หมดไปแล้ว แต่สายบันนี่ วู้ด โดยบันนี่ ชู๊ต ก็ยังจะออกจำหน่ายตามปกติ เพราะไข่มุกออกแบบไว้แล้ว แต่เป็นสีอื่น ที่ต่างไปจากเซ็ตพิเศษ ที่ทำให้ฟูจิ

นับเป็นความน่าสนใจของนักออกแบบวัยเพียง 25 ปี คนนี้ ที่แม้เพิ่งทำแบรนด์ขอองตนเองได้เพียง 1 ปี กว่าๆ บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกก็ให้ความสนใจในผลงานการออกแบบที่สะท้อนตัวตนความเป็นเธอ ไข่มุก-นพพรรณ พรวนสุข


กำลังโหลดความคิดเห็น