เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี-ราช กรุ๊ป จับมือลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลมเบนเตร 80 เมกะวัตต์ในเวียดนาม เริ่มก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ต้นปี 66
วันนี้ (31 พ.ค.) บริษัทเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี จำกัด และ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) จับมือเป็นพันธมิตรในการก่อสร้างและดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี เบนเตร ขนาดกำลังผลิต 80 เมกะวัตต์ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามแล้ว โดยเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี เป็นบริษัทด้านพลังงานที่มีฐานธุรกิจในออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือหุ้นโดย Denham Capital โครงการนี้นับเป็นโครงการที่สองที่เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี และราช กรุ๊ป ร่วมมือกัน หลังจากที่ได้ผสานความเป็นพันธมิตรกันสำเร็จเมื่อปี 2563 จากโครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง ในประเทศไทย
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีที่ราช กรุ๊ป และเน็กส์ซิฟ บรรลุข้อตกลงการร่วมทุนอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้ร่วมกันทำงานพัฒนาโครงการภายใต้สัญญาการร่วมพัฒนาโครงการ (Joint Development Agreement) ที่ได้ลงนามเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ด้วยประสบการณ์การทำงานในโครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ระยอง ทำให้มั่นใจว่าทีมงานที่มีความมุ่งมั่นจะสามารถผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเบนเตรประสบความสำเร็จได้แน่นอน
นายแมทธิว บาร์ทลีย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเบนเตรเป็นการลงทุนครั้งที่สามในเวียดนามของบริษัท และเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของบริษัทในอันที่จะสร้างการเติบโตภาคพลังงานไฟฟ้าของเวียดนาม ปัจจุบัน บริษัทกำลังพัฒนาโอกาสการลงทุนอื่นๆ ในเวียดนามและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้านพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในภูมิภาคนี้
โครงการโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี เบนเตร เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมใกล้ชายฝั่งทะเล มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 80 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่คอมมูนถานไฮ เมืองถานฟู จังหวัดเบนเตร ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 160 กิโลเมตร ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการทั้งหมดจะจำหน่ายให้การไฟฟ้าเวียดนาม ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 20 ปี สำหรับใบอนุญาตต่างๆ และสัญญาการเชื่อมต่อโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้เริ่มงานก่อสร้างและคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 19 เดือนก่อนที่จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ราวต้นปี 2566
โดยมีบริษัท SEPCOIII เป็นผู้รับเหมางานวิศวกรรม จัดหาและก่อสร้างโครงการ รวมทั้งเป็นผู้รับจ้างงานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโครงการด้วย ทั้งนี้ SEPCOIII นับเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญงานวิศวกรรมและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเน็กส์ซิฟ เบนเตร จะติดตั้งเครื่องกังหันลมประสิทธิภาพสูงรุ่น Goldwind-155 จำนวน 19 ต้น กำลังผลิตต้นละ 4.5 เมกะวัตต์ ซึ่งได้ประเมินแล้วว่ามีความเหมาะสมกับลักษณะของกระแสลมและที่ตั้งโครงการมากที่สุด
ทั้งนี้ ทางเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี ได้จัดทำแผนที่ลมคุณภาพสูงสำหรับโครงการ โดยใช้ข้อมูลการตรวจวัดลมด้วยเสาวัดลมเป็นเวลา 3 ปี และจากนั้นนำข้อมูลมาหาความสัมพันธ์กับข้อมูลที่ได้จากสถานีวัดลมที่ติดตั้งระบบ LIDAR (Light Detection and Ranging) บริเวณนอกชายฝั่ง