xs
xsm
sm
md
lg

‘เฌอปราง อารีย์กุล’ กับสิ่งที่อยากทำในฐานะกัปตันวง BNK48

เผยแพร่:   ปรับปรุง:

‘แคปเฌอ’ ‘กัปตันเฌอปราง’ คือคำเรียกขานที่ผู้คนมีต่อเธอคนนี้ ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ กัปตันวงคนเก่งแห่ง BNK48 วงไอดอลชื่อดัง ที่แม้จะจบการศึกษาภาควิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยการคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 แต่งานในวงการบันเทิงของเฌอปรางก็ยังคงโลดแล่นอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าในฐานะ บทบาทในการเป็นโปรดิวเซอร์ ‘Ganbare! Kenkyuusei’โปรดิวเซอร์สเตจเทรนนีให้สมาชิกรุ่นที่สาม ซึ่งนับเป็นการแสดงความสามารถอีกด้านของเฌอปราง นอกเหนือจากการแสดงภาพยนต์ ซีรีส์หรือมิวสิกวิดีโอที่เคยมีให้เห็นผ่านตา ล่าสุด เฌอปรางยังมีผลงานละครพีเรียดที่อยู่ในช่วงของการเวิร์คช้อปเรียนรู้ตัวละครจากเรื่อง บุษบาลุยไฟ ที่กำกับโดยครูช่าง (ชนประคัลภ์ จันทร์เรือง)

เฌอปรางให้สัมภาษณ์พิเศษ กับ Ibusiness ในหลากหลายประเด็น ไม่ว่าสิ่งที่อยากทำในฐานะกัปตัน BNK48 รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์ที่ผ่านมานับแต่เดบิวต์ จิตใจที่เข้มแข็ง ก้าวผ่านทุกอุปสรรคของแรงกดดันต่าง ๆ มาได้กระทั่งถึงทุกวันนี้ คือบทพิสูจน์ว่าเด็กสาวคนนี้ มีทัศนคติที่น่าสนใจ ไม่ธรรมดา


>> สิ่งที่อยากทำในฐานะกัปตันวง BNK48
และบทบาทที่อยากทำในวงการบันเทิง

เฌอปรางกล่าวว่า ในฐานะกัปตัน วง BNK48 ด้วยความที่เราเป็นรุ่นหนึ่ง และเราชอบ AKB48 มาก่อน เฌอก็เลยได้รับแรงบันดาลใจมาและอยากส่งแรงบันดาลใจต่อ และได้รับโอกาสด้วย ทำให้ได้มาอยู่ตรงนี้ ก็เลยได้ส่งต่อด้วย อยากทำอีก อยากส่งต่อ อยากเห็นว่าเจนต่อไป

เฌอปรางเล่าถึงอนาคตที่วางไว้ในฐานะกัปตัน วงBNK48 และกล่าวด้วยว่าบทบาทในวงการบันเทิงที่อยากทำ คือการแสดงบทบาทใหม่ๆ เช่น เฌอปรางซอบศิลปะการต่อสู้ เป็นบทบาทใหม่ที่อยากทำ สนุกสนาน หรือรับบทเป็นคนอีกประเภทหนึ่งไปเลย บ้าๆ หรือแสดงเป็นคนในอาชีพที่เราไม่เคยทำ เช่น เชฟ

“เฌออยากลองรับบทผู้มีทักษะเฉพาะบางอย่าง เพราะถ้าไม่ใช่งานแสดงก็ไม่มีโอกาสได้ลอง งานแสดงมีความได้เปรียบตรงนี้ เป็นสิ่งที่อยากทำ และเฌอชอบถ่ายแบบ ถ่ายนิตยสาร แต่เฌอไม่ใช่คนสวย เป็นนางแบบไม่ได้ แต่ก็ชอบถ่ายแบบ”
เฌอระบุถึงสิ่งที่ชอบและอยากทำ

>> บทบาทในการเป็นโปรดิวเซอร์
‘Ganbare! Kenkyuusei’


เฌอปรางเล่าถึงการเป็นโปรดิวเซอร์สเตจเทรนนี ว่า “น้อง ๆ รุ่นที่สาม ตอนที่เขาเข้ามายังไม่มีเสตจเทรนนีเลย แล้วถ้าเขาใช้เสตจเดิมก็จะดูเหมือนกับรุ่นพี่เกินไป เพราะฉะนั้น มันก็ต้องมีส่วนที่น้อง ๆ ได้เรียนเต้นเพลงหลัก เพลงซิงเกิลอื่น ๆ ของพวกเราเพื่อใช้ในอนาคต ในการที่จะไปออกอีเวนท์ ออกงานร่วมกับพี่ ๆ เฌอก็เลยเสนอขึ้นไปว่างั้นทำเสตจ เคงคิวเซย์ใหม่เลยไหม เนื่องจากเรามีการประชุมกันอยู่เรื่อย ๆ และมีการพูดถึงความเป็นไปของวง หรือระบบการทำงานข้างในกัน การฝึกฝน เมมเบอร์ค่อนข้างจะดูแลกันเองเป็นหลัก ในการเรียนท่า หรือขึ้นสเตจ จะเป็นพวกเราเป็นหลัก เฌอก็เลยได้รับบทให้เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับสมาชิกรุ่นที่สาม ก็จัดการดูแลสเตจ ฝีกเด็กหรือสเตจคิงคิวเซย์ ชุดใหม่อันนี้ขึ้นมา ซึ่งก็ได้เป็นคนตั้งชื่อว่า ‘กันบาเระ เคงคิวเซย์’ หรือ ‘พยายามเข้านะ น้อง ๆ ทุกคน’ ค่ะ”

เฌอปรางเล่าถึงความเป็นมาก่อนจะบอกกล่าวถึงรายละเอียดในการทำงานว่า มีตั้งแต่ เริ่มคุยงาน ซึ่งเฌอปรางได้แรงบันดาลใจมาจากเมมเบอร์ AKB48 ที่ชื่อว่า ‘มุรายามะยุยริ’ ซึ่งเฌอปรางมีโอกาสได้ไปทำความรู้จักตอนที่ได้มีโอกาสไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น

“ตอนไปถ่ายทำเอ็มวีที่ญี่ปุ่น และได้เข้าไปดูการซ้อมของเขา แล้วก็ตอนแรกไม่รู้จักเมมเบอร์คนนี้เลย แต่รู้ว่าเขาเป็นโปรดิวเซอร์ของสเตจเทรนนีของน้อง ๆ AKB48 รุ่น 16 เฌอก็เลยรู้สึกชื่นชมและคิดว่า เอ๊ะ! เราจะมีโอกาสทำแบบนี้บ้างมั้ยที่ วง BNK48 ได้เห็นการทำงานของทางนู้นก็รู้สึกว่าเก่งมาก ๆ เลย ดูดีมากเลย อันนี้ก็เป็นโอกาสหนึ่ง มองเป็นช่องทางหนึ่งก็ลองเสนอเขาดู ก็เลยได้มีโอกาสลองทำ นี่คือแรงบันดาลใจตอนนั้น แล้วก็เริ่มพูดคุยมา มีน้อง ๆ รุ่นสาม เราก็เข้ามาพูดคุยในฐานะกัปตันวงอยู่แล้ว งั้นเราก็ลุยเรื่องสเตจเทรนนีกับน้อง ๆ ไปเลย”

เฌอปรางบอกเล่าแรงบันดาลใจจากไอดอลญี่ปุ่น และเล่าถึงการทำงานในฐานะโปรดิวเซอร์ว่า มีเสนอทางญี่ปุ่น เป็นคนคิดเซ็ตลิสต์ เพลง โดยมีเงื่อนไขว่าให้นำเอาเพลงที่มีอยู่แล้วในวง BNK48 มาจัดเซ็ตลิสต์ใหม่ โดยทางญี่ปุ่นมีข้อจำกัดว่า ถ้าเป็นเพลงออริจินัลต้องให้อยู่ใกล้ๆ กัน ไม่ข้ามไปข้ามมาจนเกินไป ต้องมีการตรวจสเตจก่อนที่จะทำการแสดง มีการไลฟ์คุยกัน และมีการส่งฟีดแบ็คไปมา ระหว่างทางไทยและญี่ปุ่น

“และเรื่องชุด เฌอก็เป็นคนที่คอยดู คอยออกแบบไปด้วย ว่าอยากให้เป็นโทนแบบไหน ประมาณไหน แล้วก็มีการตัดชุดเพิ่มได้หนึ่งชุด แล้วจะเอาชุดไหน ใช้ในช่วงไหน สุดท้ายก็เป็นคนคอยดูภาพรวมของการฝึกซ้อม ซึ่งก็ต้องผสานงานกับทางครูร้องครูเต้น เข้ามาดูน้อง ๆ แล้วก็ ดูภาพรวมของสเตจค่ะ ก็ทั้งแสง สี เสียง การร้องจะเป็นประมาณไหนบ้าง มีเสียงในช่วงไหนบ้าง น้องจะร้องกันอย่างไร ประมาณนั้นค่ะ รายละเอียดในการทำงาน” เฌอปรางบอกเล่าถึงบทบาทในฐานะโปรดิวเซอร์สเตจเทรนนีที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก


>> เคล็ดลับในการเป็นเซ็นเตอร์
หรือติดเซ็มบัตสึทุกซิงเกิล


เมื่อถามว่ามีเคล็ดลับอะไรถึงติดเซ็มบัตสึทุกซิงเกิล เฌอปรางตอบว่า การที่ติดเซ็มบัตสึมาโดยตลอดทุกซิงเกิล ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเฌอคนเดียว เป็นทางผู้ใหญ่ที่มองเห็นศักยภาพของเรา

“เฌอก็ต้องขอขอบคุณมาก ๆ ที่มองเห็นอะไรบางอย่าง เฌอก็ไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง แต่ก็คงเป็นความไม่ท้อง่ายๆ ความอดทนสูง ความพยายาม ที่เฌอก็ทำไปโดยที่ไม่คิดอะไร ก็แค่พยายามทำๆๆๆ ก็ขอบคุณที่การพยายามทำของเฌอมันพอจะเห็นผลลัพธ์บางอย่าง หรือเห็นความเปลี่ยนแปลงในทักษะว่าเออมันดีขึ้นนะในช่วงระยะเวลาหนึ่ง”

เฌอปราง กล่าวเพิ่มเติมว่า บุคลิกท่าทางก็อาจจะมีผล แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ซึ่งสุดท้าย ทางผู้บริหารเลือกให้เป็นกัปตันวง เราก็ต้องทำให้ดี ซึ่งนั่นก็คงนับว่ามีส่วนในตำแหน่งที่เขาเลือกให้มาทำ พอเป็นเซ็มบัตสึ การถูกโปรโมท ให้ทำนั่น ทำนี่ ก็คงมีส่วนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนั้น ก็คือแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุน เพราะมีซิงเกิลที่แฟน ๆ เลือกเข้ามา โหวตเข้ามา ซึ่งก็ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ

“ขอบคุณมาก ๆ ที่ทำให้เฌอติดอยู่ในซิงเกิล จนถึงขั้นไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นได้ ก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้น ประหลาดใจ และไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะมีโอกาสทำแบบนี้ จากที่เราเป็นเพียงคนที่ชื่นชอบ AKB48 แต่ได้เข้าไปอยู่ ได้เข้าไปเจอ ไอดอลที่เราชอบด้วย ได้ไปเจอคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกอย่าง ได้ไปเจอเขาเพราะแฟน ๆ ส่งให้เราไป รู้สึกเป็นแรงผลักดันให้เฌอก้าวต่อไป ไม่ยอมแพ้กับมันง่าย ๆ”

เฌอกล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุน ส่วนเคล็ดลับอื่น ๆ เฌอไม่รู้จริง ๆ แต่เฌอก็พยายามดูแลตัวเอง

“เฌอทำงานตรงนี้ต้องดูแลตัวเอง รักษารูปร่าง ร่างกายเราให้พร้อมเสมอ ความแข็งแรง การออกกำลังกายที่ทำให้เราสามารถไปเต้น ร้อง ได้ ถ้าแข็งแรงก็ร้องเพลงได้ดีขึ้นด้วย ผิวพรรณ รูปร่างหน้าตา การทำผม การดูแลผิว เฌอรู้สึกว่าเฌอมีทักษะในการดูแลตัวเองเยอะขึ้นมาก ทักษะการแต่งหน้าเพิ่มขึ้นมาแบบมหาศาลมาก สกิลการแต่งหน้าคนละสกิลกับเมื่อก่อนเลย ก็อาจมีส่วน เพราะต้องแต่งหน้าทำผมเองในบางครั้งที่จะออกอีเวนท์ ออกงาน” เฌอระบุถึงสิ่งที่อาจเป็นเคล็ดลับสำคัญ

เมื่อถามว่าการติดเซ็มบัตสึ เป็นแรงกดดันไหม?
เฌอปรางกล่าวว่า เรียกว่าเป็นแรงผลักดันดีกว่าค่ะ มันไม่ได้กดเรา แต่ผลักเรา ผลักให้เฌอทำนู่นทำนี่ ผลักให้เฌอดูแลตัวเอง ทั้งผม ผิว ดูแลรูปร่าง ดังนั้น เป็นแรงผลักดัน ด้วยการงาน ด้วยแฟน ๆ ด้วยแรงขับเคลื่อนทั้งหมดที่พูดถึง ก็เลยเป็นแรงผลักดันให้เฌอไม่ขี้เกียจในการดูแลตัวเอง

เฌอปรางฝากถึงสมาชิกหรือเมมเบอร์ที่อยากเป็นเซ็มบัตสึหรือเซ็นเตอร์ โดยเซ็นเตอร์ ขึ้นอยู่กับแต่ละเพลง ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับแต่ละเงื่อนไข แต่ละซิงเกิลว่าจะถูกเลือกโดยใครบ้าง โดยอะไรบ้าง บางครั้งก็ลือกด้วยการเป่ายิงฉุบ เซ็นเตอร์ก็โชคดีมาก ๆ หรือเหมาะสมตามเพลง ตามที่ผู้ใหญ่มองเห็น


>> สู้ ๆ นะรุ่นน้อง พยายามให้ดีที่สุด

ส่วนการเป็นเซ็มบัตสึหรือ 1 ใน 16 คนนั้น เฌอปรางกล่าวว่า มาถึงจุดหนึ่งก็ต้องบอกว่า รุ่นเรา มีแค่ 16 ที่ แต่ละซิงเกิลส่วนใหญ่ ณ ขณะนี้ ของพวกเราจะมี 16 ตำแหน่ง สำหรับน้อง ๆ ในอนาคตก็ขอให้เป็นตัวของตัวเองที่สุด ชัดเจนในสิ่งที่เราอยากทำ มีความสุข รักษาจิตใจที่แข็งแรง เป็นแรงใจที่ดีให้กับแฟน ๆ ความเป็นแต่ละคนที่ผู้ใหญ่เขาจะเลือกไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วก็คือตัวตนที่แต่ละคนเป็นและทำมาจริง ๆ

“จะพูดยังไงดี สู้ๆ ค่ะ ก็พยายามให้ดีที่สุด หลาย ๆ คนต้องใช้เวลามากกว่ารุ่นพวกเฌอ รุ่น 1 แน่ ๆ รุ่น 3 รุ่น 4 รุ่น 5 อาจต้องใช้เวลาเยอะกว่าจะได้ถึงจุดนั้น กว่าจะได้อออกสื่อ กว่าจะได้อยู่มในเอ็มวี เป็นเซ็มบัตสึ หรือเป็น เซ็นเตอร์ ต้องใช้เวลาเยอะกว่าพวกเรามาก ๆ ก็อยากให้อดทน พยายาม ไม่ย่อท้อ แล้วก็ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และมีทัศนคติที่ดี”

“สู้ ๆ นะ เป็นอะไรที่เฌอบอกน้อง ๆ รุ่น 3 ตลอด สู้ ๆ นะ เป็นกำลังใจให้ แม้อาจจะไม่ได้เป็นเซ็มบัตสึหรือเซ็นเตอร์ อย่างที่หวัง แต่พวกเธอจะไม่เสียดายเวลาที่ผ่านไปแน่ ๆ และไม่เสียดายเวลาที่กำลังใช้อยู่ ที่จะก้าวต่อไปในอนาคต” คือคำกล่าวให้กำลังใจที่เข้มแข็ง สมเป็น ‘แคปเฌอ’ กัปตันคนเก่งแห่งวง BNK48
กำลังโหลดความคิดเห็น