xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) อดีตนางแบบ กลับบ้านเกิดสร้างธุรกิจผลไม้อบแห้ง ทำรายได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี วัยเพียง 26 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:






“นาขวัญ ตระการศิรินันท์” ดีตนางแบบ จากเวทีการประกวดไทยซุปเปอร์โมเดล ปี 2010 ไม่ได้มีดีแค่ความสวย หุ่นดีเท่านั้น แต่เธอยังเป็นผู้หญิงเก่ง ที่เมื่อตั้งใจทำอะไรก็ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จไปหมด จากลูกชาวสวนผลไม้ จังหวัดลำพูน วันนี้ เธอได้กลายเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ในวัยเพียง 26 ปี

เส้นทางธุรกิจของอดีตนางแบบ “นาขวัญ” เริ่มต้นเมื่อตอนอายุ 26 ปี ทิ้งอาชีพนางแบบที่เธอบอกว่า เป็นอาชีพที่เธอชอบ และสนุก แต่ไม่ใช่อาชีพที่ยั่งยืน หรือ ทำให้เธอได้จับเงินล้านภายในระยะเวลา 1-2 ปี เธอก็เลยตัดสินใจกลับบ้านเกิด มาพลิกฟื้นอาชีพ ช่วยครอบครัว สร้างแบรนด์ผลไม้อบแห้ง ที่ครอบครัวทำอยู่


ครอบครัวทำลำไยอบแห้ง ต่อยอดสร้างแบรนด์

นาขวัญ เล่าว่า เดิมครอบครัว พ่อกับแม่ทำลำใยอบแห้ง ส่งประเทศจีน และพอคิดว่าจะเลิกอาชีพนางแบบกลับมาบ้าน คิดว่าจะทำอะไรดี ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะกลับมาทำธุรกิจผลไม้อบแห้ง ที่ครอบครัวทำอยู่แล้ว กลับมาปีแรกก็เลยนำเงินเก็บที่ได้ไปลุยธุรกิจเปิดร้านพิซซ่า และ เปิดโคเวิร์คกิ้งสเปซ Coworking Space แต่ทุกอย่างถูกพับไปด้วยเวลาเพียงแค่ 1 ปี เพราะขาดการศึกษาตลาดก่อนลงมือทำ ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จและต้องเลิกกิจการไป และประกอบกับส่วนตัวคิดว่า ถ้าเปิดร้านพิซซ่า หรือ ให้บริการ Coworking Space คงจะยากที่จะได้จับเงินล้านภายในระยะเวลาไม่กี่ปี


ด้วยเหตุนี้เอง “นาขวัญ” ยอมกู้เงินหลักล้านบาท มาต่อยอดธุรกิจของครอบครัว สร้างแบรนด์ผลไม้อบแห้ง จนได้เป็นที่มาของธุรกิจผลไม้อบแห้ง แบรนด์ NANAFRUIT โดยผลไม้อบแห้งของเธอต่างจากที่ครอบครัวทำโดยสิ้นเชิง ซึ่งผลไม้อบแห้งที่ครอบครัวทำอยู่เป็นลำใยอบแห้งแบบอบทั้งเปลือก และขายเป็นวัตถุดิบส่งให้กับซัพพลายเออร์อีกที่หนึ่ง

ในส่วนของผลไม้อบแห้ง “NanaFruit” เป็นระบบการผลิตผลไม้อบแห้ง โดยใช้การผลิต ในลักษณะของการดึงความชื้น ดึงความสด ออกจากผลไม้ ด้วยระบบเทคโนโลยี ดีไฮเดรต (Dehydration) ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตผลไม้อบแห้งที่มีการใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เป็นการดึงความชื้น ความสดออกจากผลไม้โดยที่รสชาติของผลไม้จะยังคงอยู่เหมือนเดิม

นาขวัญ ตระการศิรินันท์
กว่าจะมาเป็นแบรนด์ NanaFruit

“นาขวัญ” เล่าว่า กว่าที่เธอจะได้แบรนด์ผลไม้อบแห้ง NanaFruit อย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะต้องลองผิดลองถูก และต้องเสียผลไม้สดไปเป็นตัน จนสุดท้ายเธอก็ต้องหาที่พึ่ง โดยได้รับความช่วยเหลือ จากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้ามาช่วยและได้นำเทคโนโลยีการผลิตแบบดีไฮเดรต จนได้ผลไม้อบแห้งแบรนด์ NanaFruit ที่จำหน่ายอยู่ในขณะนี้

สำหรับในส่วนของแผนการตลาด “นาขวัญ” เล่าว่า เริ่มทำแบรนด์ผลไม้อบแห้ง NanaFruit เมื่อปี 2017 ซึ่งได้ลูกค้าที่เคยซื้อลำไยอบแห้งของครอบครัว จากประเทศจีน มาประเดิมเป็นลูกค้ารายแรกของเรา ในการบุกตลาดต่างประเทศ ครั้งแรก หลังจากนั้น เดินทางไปดูงานแสดงสินค้าด้านอาหารในหลายประเทศ และนำผลไม้อบแห้งของเราไปให้ลูกค้าได้ชิม ในช่วงแรกเพื่อให้ได้เงินมาก่อน เราจึงไม่ได้มุ่งการสร้างแบรนด์ ลูกค้ากลุ่มแรก จึงเป็นกลุ่มรับจ้างผลิตตามแบรนด์ของลูกค้าก่อน


"หลังจากนั้น เราค่อยๆเริ่มที่จะขายภายใต้แบรนด์ของตัวเอง โดยไปร่วมออกบูทในงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และออกบูทในงานแสดงสินค้าในประเทศ เช่น งาน ThaiFex ทำให้มีลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี รวมถึงตลาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และก่อนหน้าจะเจอสถานการณ์โควิด ได้ลูกค้านักท่องเที่ยว ซึ่งค่อนข้างจะเป็นรายได้ที่เยอะพอสมควร กับลูกค้าในกลุ่มทัวร์ริส แต่พอเจอโควิดลูกค้ากลุ่มนี้ ก็หายไปเกือบ 100% ทำให้ต้องหันมาหาตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดในกลุ่มคนไทยมากขึ้น หรือ การทดแทนตลาดนี้ด้วยการ พัฒนาโปรดักส์ใหม่ เข้าไปกลุ่มของ Fruit snack มากขึ้น ด้วย"


โควิดไม่ได้กระทบตลาดส่งออก ของ NanaFruit

อย่างไรก็ตาม สำหรับการส่งออกตลาดต่างประเทศ ในขณะนี้ เราได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะดิสบิวเตอร์ที่สั่งผลไม้อบแห้งของเรา ยังคงมียอดการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แทบจะไม่ได้ลดลงไปเลย มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะมีบางรายที่นำไปขายกลุ่มทัวร์ริส เขาเจอปัญหาเดียวกับเรา เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวการสั่งเข้ามาน้อยลงไป แต่ในทางกลับกันก็มีดิสบิวเตอร์บางประเทศมีออเดอร์เข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทำให้เมื่อยอดโดยรวมตลาดส่งออกไม่ได้ลดลงไป หรือไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

สำหรับรายได้ของ NanaFruit ที่ผ่านมา อยู่ที่ปีละ ประมาณ 240 ล้านบาท ส่วนในช่วงสถานการณ์โควิด ยอดขายสั่งซื้อกลุ่มทัวร์ริสหายไป รายได้ (2563) ลดลงไปเหลืออยู่ที่ปีละ ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่ง“นาขวัญ” บอกว่า เธอก็จะต้องหารายได้ส่วนอื่นๆ มาเพื่อชดเชยรายได้ส่วนที่หายไป นั่นคือ การออกโปรดักส์ใหม่ ในกลุ่มของสแน็ก เพราะถ้านำผลไม้ไทยเข้าไปในกลุ่มของตลาดสแน็กได้ ทำให้เรามีรายได้เพิ่มมากขึ้น และทำให้ต่างชาติรู้จักผลไม้ไทยมากขึ้น และได้หนีคู่แข่งไปอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งตลาดผลไม้อบแห้งในต่างประเทศ มีคู่แข่งหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ เวียดนาม จีน และอินเดีย ซึ่งในความเป็นจริงเราก็เป็นน้องใหม่ ดังนั้น เราจะสู้เขาไปไม่ได้ในเรื่องของราคา แต่เราได้ตรงรสชาติ ผลไม้ไทยรสชาติดีกว่าผลไม้ในหลายประเทศ


“นาขวัญ” เล่าถึง ผลไม้ที่นำอบแห้งในครั้งนี้ มีด้วยกัน 10 ชนิด ได้แก่ ลำไย, ทุเรียน, กล้วย, มะม่วง, สับปะรด, แก้วมังกรขนุน,ฝรั่ง สตอเบอรี่ ฯลฯ มีสัดส่วนการส่งออก 80% ขายในประเทศ 20% โดยในแต่ละเดือนต้องใช้วัตถุดิบ คือผลไม้สดประมาณ 1,000 ตัน หรือประมาณ 1ล้านกิโลกรัม และได้ผลไม้อบแห้งประมาณ 1แสนกิโล และในหนึ่งปีต้องใช้ผลไม้สด ประมาณ 10,000 ตัน ผลไม้ที่ได้มาจากสวน ในแถบ จังหวัดภาคเหนือ ลำพูน ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ หรือถ้าทุเรียนสั่งมาจากภาคใต้ และมีผลไม้บางอย่าง ก็ต้องสั่งมาจากภาคกลาง


เส้นทางผู้หญิงเก่ง จับเงินร้อยล้านวัยเพียง 26 ปี

สำหรับนักธุรกิจสาว “นาขวัญ” คนนี้ ประวัติเธอไม่ธรรมดา นอกจากความสวย หุ่นดีแล้ว เธอยังเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่ง เพราะเวลาเธอตั้งใจทำอะไร เธอก็ทำได้ดี และประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน ที่เธอมักจะบอกว่าเธอเรียนไม่เก่ง แต่เธอจะขยันมาก ทำให้เธอประสบความสำเร็จ เรียนจบปริญญาตรี ตั้งแต่อายุ 19 ปี ที่ประเทศจีน และการที่เธอได้ไปอยู่ประเทศจีน ทำให้เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคนจีน ที่เขาจะขยัน ทำอะไรเร็ว เปลี่ยนชีวิตสาวเหนือที่ทำอะไรช้าๆ ไปเลย และได้เรียนรู้การทำธุรกิจที่ประเทศจีน สามารถหาเงินเรียนเองได้ โดยการนำเสื้อผ้าจากประเทศจีนส่งกลับมาให้เพื่อนที่เมืองไทยขาย


หลังจากกลับมาเมืองไทย แม่เห็นว่าเธอหุ่นสูงดี ก็เลยขอให้เธอลองเข้าร่วมประกวดไทยซุปเปอร์โมเดล ตอนประกวดเธอบอกว่า เดินแบบไม่เป็นเลย แต่ก็เรียนรู้เองจากทางอินเตอร์เน็ต ฝึกเดินเอง จนการประกวดครั้งนั้น เธอก็คว้าแชมป์ติดใน 1ใน 3 การประกวดซุปเปอร์โมเดล 2010 และได้โลดแล่นอยู่ในวงการนางแบบอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนตัดสินใจกลับบ้านเกิดมาทำธุรกิจ และเธอได้ขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ในวัยเพียง 26 ปี ปัจจุบัน แม้ว่าธุรกิจของเธอจะทำรายได้เป็นร้อยล้าน แต่เธอก็บอกว่ายังไม่คืนทุน เพราะมาร์จินกำไรน้อยมาก การลงทุนขยายกิจการซื้อที่ดินลงทุนไปเป็นร้อยล้าน โดยเธอตั้งใจว่า จะปลดหนี้และคืนทุนได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ติดต่อ โทร.053-126-068




* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
กำลังโหลดความคิดเห็น