xs
xsm
sm
md
lg

7 สมาคมเหล็กฯ ถกรับมือราคาเหล็กโลกแพง วาง 5 แนวทางแก้แบบยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กลุ่ม 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทยหารือเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาสินค้าเหล็กราคาสูง เชื่อหากมีการร่วมมือทั้งห่วงโซ่การผลิตสามารถบรรเทาผลกระทบผู้ใช้สินค้าเหล็กได้ เสนอ 5 แนวทางสร้างความยั่งยืน

นายกวินพัฒน์ นิธิเตชเศรษฐ์ นายกสมาคมผู้ผลิตท่อและแปรรูปเหล็กแผ่น เปิดเผยว่า 7 สมาคมเหล็ก ซึ่งประกอบด้วย สมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย, สมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นไทย, สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น, สมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า, สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน, สมาคมผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี และสมาคมโลหะไทย ได้หารือถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเหล็กทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นไปตามกลไกตลาดจากความต้องการเหล็กทั่วโลกที่สูงขึ้นจากการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดย 7 สมาคมฯ พร้อมที่จะร่วมมือกับภาครัฐและผู้บริโภคในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

“จีนมีการลดการผลิตในประเทศจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการมีนโยบายการลดการผลิตเพื่อการส่งออกโดยการยกเลิกการคืนภาษีส่งออก (VAT. Rebate) 9-13% สำหรับสินค้าเหล็กบางรายการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2564 ทำให้ผู้ส่งออกจีนต้องปรับราคาขึ้นชดเชยกับการยกเลิกการคืนภาษีดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนต้นทุน และราคาขายของประเทศจีนด้วย” นายกวินพัฒน์กล่าว

นายพงศ์เทพ เทพบางจาก กรรมการสมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตในประเทศมีความยินดีที่จะสร้างความสมดุลระหว่าง Demand และ Supply ในประเทศ โดยเพิ่มการผลิตสินค้าเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ โดยข้อมูลจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2564 อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศมีการผลิตเพิ่มสูงขึ้นถึง 9.5% ไม่มีการชะลอการผลิตเพื่อดึงราคา ถึงแม้ว่าจะมีความต้องการใช้เพิ่มเติมจากกลุ่มผู้บริโภคที่หันกลับมาใช้สินค้าเหล็กในประเทศแทนการนำเข้า เนื่องจากราคาสินค้านำเข้ามีราคาที่ใกล้เคียง และ/หรือสูงกว่าสินค้าเหล็กในประเทศ

“การสั่งซื้อต้องรอสินค้าประมาณ 3 เดือน ซึ่งเกิดความเสี่ยงในการสั่งซื้อสินค้า รวมถึงบางครั้งมีการผิดนัดยกเลิกสินค้า ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้สินค้าเหล็กในประเทศอย่างมาก นอกจากนี้ จากการที่ผู้ผลิตในประเทศมีกำลังการผลิตกว่า 23.5 ล้านตัน แต่ปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตเพียง 37% ดังนั้นจึงยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการใช้ของผู้บริโภคในประเทศอย่างแน่นอน” นายพงศ์เทพกล่าว

นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ อุปนายกสมาคมโลหะไทย กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันของกลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ ประกอบด้วย 5 แนวทาง ดังนี้ 1. การสร้างความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน โดยผู้ใช้เหล็กวางแผนการใช้เหล็ก แจ้งผู้ผลิตเหล็กให้ทราบล่วงหน้า เพื่อสามารถจัดซื้อวัตถุดิบและวางแผนการผลิตได้ทันเวลา และสามารถทราบถึงต้นทุนที่แน่นอนก่อนรับงานโครงการต่างๆ ได้ 2. กลุ่มผู้ผลิตในประเทศจะรายงานข้อมูลการผลิต และราคาต่อสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อมูลความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ

3. สนับสนุนให้ภาครัฐพิจารณาปรับค่าตัวเลขดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของค่างาน (ค่า K) ของงานโครงการภาครัฐ เพื่อให้สามารถครอบคลุม และหรือเยียวยาผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้รับเหมาโครงการ 4. ขอให้ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดการใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าเหล็กในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าเศษเหล็ก ที่ปัจจุบันมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ ส่งผลให้เกิดการนำเข้าจากต่างประเทศ และมีราคาที่สูงกว่าในประเทศเนื่องจากต้องเสียค่าขนส่งระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ค่าขนส่งปรับเพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาตู้บรรจุสินค้า (Container) ขาดแคลน และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

5. เร่งนำเสนอ และผลักดันนโยบายอุตสาหกรรมเหล็ก 4.0 ร่วมกับสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยผ่านกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมเหล็ก และตอบสนองต่อนโยบาย BCG Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ของกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น