นับตั้งแต่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศเปิดบริการพร้อมเพย์ (PromptPay) มาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 2559 เป็นต้นมา กระทั่งเปิดบริการโอนเงินระหว่างบุคคลกับบุคคล เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2560 ใช้เพียงเลขที่บัตรประชาชนหรือเบอร์มือถือ แทนเลขที่บัญชี นับจากนั้นเป็นต้นมาคนไทยต่างนิยมใช้พร้อมเพย์มากถึง 55.1 ล้านบัญชี และมียอดใช้สูงสุด 20 ล้านรายการต่อวัน
ล่าสุดร่วมกับ ธนาคารกลางสิงคโปร์ เชื่อมระบบกับ “เพย์นาว” (PayNow) ของสิงคโปร์ ให้คนไทยโอนเงินไปยังผู้รับปลายทางประเทศสิงคโปร์ได้สูงสุด 1,000 เหรียญสิงคโปร์ (SGD) ต่อวัน ด้วยค่าธรรมเนียมช่วงแนะนำ 75 บาท ถูกกว่าโอนเงินระหว่างประเทศ และเงินเข้าบัญชีภายใน 3 นาทีเท่านั้น นำร่อง 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย กสิกรไทย และไทยพาณิชย์
โดยปกติแล้วการโอนเงินระหว่างไทยกับสิงคโปร์ หากใช้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ นอกจากจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากแล้ว จะมีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 250-399 บาท ใช้เวลาดำเนินการภายใน 3 วันทำการ อีกด้านหนึ่งจากประเทศสิงคโปร์ จะโอนเงินไปยังผู้รับในประเทศไทย แม้บางธนาคารจะโอนฟรีแต่ก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าจะได้รับเงินตั้งแต่ 1 วัน ช้าที่สุด 2-3 วันทำการ
ครั้งหนึ่ง นายราวี่ เมนอน (Ravi Menon) ผู้ว่าการธนาคารกลางสิงคโปร์ เคยกล่าวว่า ที่ผ่านมาสิงคโปร์มีชาวต่างชาติและแรงงานข้ามชาติจำนวนมาก ส่งเงินกลับประเทศบ่อยครั้ง แต่ก็มีข้อจำกัดในการโอนเงินระหว่างประเทศที่ยังคงล่าช้า ค่าใช้จ่ายสูง และไม่มีประสิทธิภาพ หากทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลงและถึงมือผู้รับเร็วขึ้น ก็จะช่วยเหลือครอบครัวได้ทันท่วงทีมากขึ้น
3 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางสิงคโปร์ ได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เชื่อมโยงระบบเพย์นาวของสิงคโปร์ กับพร้อมเพย์ของประเทศไทย ใครก็ตามที่ลงทะเบียนเพย์นาว หรือพร้อมเพย์ จะสามารถส่งเงินระหว่างสิงคโปร์มายังประเทศไทย โดยใช้เพียงเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะได้รับเงินทันที ปลอดภัย ในอัตราแลกเปลี่ยนที่แข่งขันได้ และทำรายการได้ทุกเวลา
เพย์นาว (PayNow) เป็นระบบโอนเงินโดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ เลขประจำตัวประชาชนสิงคโปร์ (NRIC) เลขประจำตัวชาวต่างชาติในสิงคโปร์ (FIN) เลขประจำตัวบริษัท (Unique Entity Number หรือ UEN) ที่อยู่การชำระเงินเสมือน (Virtual Payment Address หรือ VPA) ปัจจุบันมีผู้ให้บริการเพย์นาว 12 แห่ง แบ่งเป็นธนาคาร 9 แห่ง สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร 3 แห่ง มีผู้ลงทะเบียน 4.9 ล้านคน (ณ วันที่ 3 ม.ค. 2564) และมีการทำรายการมากกว่า 4,100 ล้านครั้ง (ณ เดือน พ.ย. 2563)
สำหรับรูปแบบบริการพร้อมเพย์อินเตอร์ จะโอนเงินโดยใช้เบอร์มือถือ ขึ้นต้นด้วย +65xxxxxxxx ที่ผู้รับลงทะเบียน PayNow ไว้ สามารถโอนเงินได้สูงสุดวันละไม่เกิน 1,000 เหรียญสิงคโปร์ต่อวัน ค่าธรรมเนียมช่วงแนะนำตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 ก.ค. 2564 รายการละ 75 บาท หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2564 เป็นต้นไป ค่าธรรมเนียมรายการละ 150 บาท นำร่องแล้ว 3 ธนาคาร ได้แก่
ธนาคารกรุงไทย เปิดให้โอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT เวอร์ชัน 10.5.1 ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2564 โดยเข้าไปที่เมนู "พร้อมเพย์อินเตอร์" กรอกเบอร์มือถือ (+65xxxxxxxx) จำนวนเงินดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD) ซึ่งจะแปลงเป็นเงินบาทโดยอัตโนมัติ ก่อนแสดงชื่อผู้รับเงิน ให้ตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนกดยืนยันการทำรายการ
ธนาคารกสิกรไทยเปิดให้โอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS เวอร์ชัน 5.13.0 ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. 2564 โดยเข้าไปที่เมนู "โอนเงิน" เลือก "โอนเงินต่างประเทศ" กรอกข้อมูลส่วนตัวผู้โอน เลือกประเทศ "Singapore" เลือก "โอนด้วยเบอร์มือถือ (PayNow ID)" ให้บริการเฉพาะผู้รับปลายทางที่ผูก PayNow ID กับธนาคาร DBS Bank, OCBC และ UOB Singapore เท่านั้น
ส่วน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดให้โอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy โดยเข้าไปที่เมนู "ธุรกรรมของฉัน" เลือก "โอนเงินต่างประเทศ" เลือก "Singapore" เลือก "เบอร์มือถือ" ข้อดีคือ โอนสะดวกรวดเร็วภายใน 3 นาที ไปยังบัญชีผู้รับเงินในประเทศสิงคโปร์ อัตราค่าธรรมเนียมถูก และใช้บริการได้ทั้งผู้โอนเงินสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น แต่ไม่สามารถเป็นบุคคลคนเดียวกันได้
สำหรับธนาคารในประเทศสิงคโปร์ แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีบริการโอนเงินจาก PayNow ไปยังรหัสพร้อมเพย์ในประเทศไทย แต่หากเปิดให้บริการจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนที่ต้องการส่งเงินกลับบ้านเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะแรงงานไทยประมาณ 20,000 คน ให้สามารถส่งเงินกลับบ้านได้เร็วขึ้น แม้จะต้องยอมจ่ายค่าธรรมเนียมเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
