xs
xsm
sm
md
lg

UWC สร้างสถานีโทรคมนาคมให้เช่าในฟิลิปปินส์ รับรายได้ 25 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



"เอื้อวิทยา" ลงทุนสร้างถานีโทรคมนาคมให้เช่าในฟิลิปปินส์ รับรู้รายได้ค่าเช่ายาว 25 ปี พร้อมตั้งบริษัทย่อย "SkyTowers Infra Inc." ในฟิลิปปินส์ อีกทั้งได้ความร่วมมือกับบริษัท Mariwasa Siam Ceramics ซึ่งเป็นบริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCG) ในการใช้บริการร่วมด้านโลจิสติกส์ คลังสินค้า และการขนส่ง โมเดลธุรกิจดังกล่าวบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (Mobile Network Operator)

นายธีรชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) หรือ UWC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายฐานธุรกิจไปในต่างประเทศ โดยเป็นธุรกิจให้เช่าเสาโทรคมนาคม (Tower Co) ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้รับรู้รายได้จากค่าเช่าที่มีสัญญาเช่าระยะยาว 25 ปีกับบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีลูกค้าหลักเป็นผู้ให้บริการมือถือที่ถือหุ้นใหญ่โดย CHINA TELECOM รัฐวิสาหกิจมือถือยักษ์ใหญ่จากจีน ที่ได้รับสัมปทานคลื่นความถี่ 700-3,500 MHz ระยะเวลา 25 ปีจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ ให้เป็นผู้ให้บริการมือถือรายที่ 3 และได้ลงทุนกว่า 17,000 ล้านบาท ในปี 64 ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีการลงทุนด้านโทรคมนาคมติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

ทั้งนี้ UWC ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ โดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านสื่อสารและโทรคมนาคม (Department of ICT) ให้เป็นบริษัทที่สามารถดำเนินธุรกิจก่อสร้างสถานีเสาส่งสัญญาณและให้เช่าเสาโทรคมนาคมได้

พร้อมกันนี้ UWC ได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ SkyTowers Infra Inc. ในฟิลิปปินส์แล้ว และได้ความร่วมมือกับบริษัท Mariwasa Siam Ceramics ซึ่งเป็นบริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCG) ในการใช้บริการร่วมด้านโลจิสติกส์ คลังสินค้า และการขนส่ง โมเดลธุรกิจดังกล่าวบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ (Mobile Network Operator) จะกำหนดโลเกชันที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณ และทำสัญญาเช่ากับบริษัทก่อนที่บริษัทจะสร้างสถานีส่งสัญญาณที่มีเสาโทรคมนาคม โดยบริษัทฯ จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่เป็นสถานีส่งสัญญาณที่มีสัญญาเช่าระยะยาว 25 ปี จึงไม่มีความเสี่ยงด้านการหารายได้ เพราะทุกสถานีที่ก่อสร้างจะมีสัญญาเช่าก่อนแล้วเท่านั้น ทำให้บริษัทฯ จะมีรายได้จากค่าเช่าที่แน่นอนในทุกสถานีที่ลงทุนก่อสร้าง นอกจากนี้ บริษัทฯ จะได้รับค่าเช่าล่วงหน้า 1 ปีทันทีที่ก่อสร้างสถานีเสาโทรคมนาคมแล้วเสร็จ

สำหรับแผนงานโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย การสร้างสถานีโทรคมนาคม 140 สถานี ในปี 64 และ 240 สถานีในปี 65 และปี 66 หากบริษัทฯ มีสถานีโทรคมนาคมให้เช่าครบ 620 สถานีตามแผนใน 3 ปีนี้ จะสามารถสร้างรายได้จากค่าเช่ากว่า 550 ล้านบาทต่อปี และจะมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 42% หากคิดจากสัญญาเช่า 25 ปี โดยมีผลตอบแทนโครงการ (Project IRR) 18% และผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Equity IRR) 28% ซึ่งการคิดผลตอบแทนดังกล่าวคำนวณจากการให้เช่ากับลูกค้าเพียง 1 รายเท่านั้น แต่ในรูปแบบธุรกิจและใบอนุญาตของรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เปิดโอกาสและสนับสนุนให้บริษัทนำเสาโทรคมนาคมซึ่งเป็น Common Tower ไปให้บริษัทผู้ให้บริการมือถือเช่าได้มากกว่า 1 ราย

ทั้งนี้ ประเทศฟิลิปปินส์มีประชากรกว่า 110 ล้านคน มีผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ 3 ราย มีความต้องการสถานีโทรคมนาคมอย่างน้อย 50,000 สถานี แต่ปัจจุบันมีเสาโทรคมนาคมเพียง 20,000 สถานี รัฐบาลจึงได้ออกกฎหมายสนับสนุนให้มีการลงทุนด้านโทรคมนาคมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่จะให้การบริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือให้มีความรวดเร็วและครอบคลุมให้ได้ดียิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปีหลังจากนี้

ดังนั้น การลงทุนดังกล่าวเพราะ UWC เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับความชำนาญกว่า 54 ปีของบริษัทในด้านเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงเละเสาโทรคมนาคม และเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้มากยิ่งขึ้นนอกเหนือจากการผลิตเสาส่งสัญญาณเพื่องานโครงการในประเทศเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ธุรกิจเสาโทรคมนาคมให้เช่ายังเป็นธุรกิจที่จะเสริมสร้างให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจากรายได้และกำไรที่มีต่อเนื่องและสม่ำเสมอในระยะ 25 ปีจากนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น