xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ถกห้างเพิ่มสต๊อกสินค้าจำเป็น พร้อมเบรกแพลตฟอร์มส่งอาหารขึ้นค่าบริการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กรมการค้าภายในถกห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่งรับมือโควิด-19 ขอความร่วมมือเพิ่มสต๊อกสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพให้มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน พร้อมขอแพลตฟอร์มส่งอาหารห้ามปรับขึ้นค่าบริการ ส่วนผลตรวจสอบล่าสุดพบสินค้ามีเพียงพอ ราคาเป็นปกติ ไม่พบการกักตุน ขู่ใครกักตุน ฉวยโอกาส โทษหนัก คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน ส่วนไม่ปิดป้ายราคาปรับ 1 หมื่น

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้หารือกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่งทั่วประเทศ ให้เตรียมพร้อมสต๊อกสินค้าเพิ่มมากขึ้นจากภาวะปกติ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง น้ำดื่ม อุปกรณ์ทำความสะอาด ตลอดจนของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้าในชั้นวางอยู่เสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น

ทั้งนี้ ยังได้หารือผู้ประกอบการให้บริการส่งสินค้าและสั่งซื้ออาหารออนไลน์ โดยขอความร่วมมือไม่ให้มีการปรับราคาค่าบริการ และให้เข้มงวดด้านสุขอนามัยของพนักงานส่งสินค้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน โดยได้รับการยืนยันทั้งจากห้างค้าปลีกค้าส่งว่าปริมาณสินค้ามีเพียงพออย่างแน่นอน ประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุน และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์จะไม่มีการปรับราคาค่าบริการ

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง และได้มีการกำชับให้มีการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้สินค้าในห้างค้าปลีกค้าส่งยังคงมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ราคายังเป็นปกติ แม้ในช่วงนี้อาจจะมีลูกค้าบางคนที่มีปริมาณการซื้อสินค้าแต่ละครั้งเพิ่มขึ้นบ้างเพราะต้องการซื้อเก็บไว้ ไม่ต้องการออกจากบ้านๆ บ่อย แต่โดยรวมแล้วไม่ได้มีผลกระทบอะไรและยังไม่พบการกักตุนสินค้า

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือขายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยหากตรวจพบมีการจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร หรือมีการกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายจะมีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น