โรงแรมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 หลายแห่งต่างปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด หนึ่งในนั้นคือ "โรงแรมโฆษะ" ใจกลางเมืองขอนแก่น แม้ต้องยอมรับสภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็พยายามหารายได้เสริมด้วยการจำหน่าย "ไก่ย่างโฆษะ" เพื่อนำรายได้มาจ่ายเงินเดือนพนักงานกว่า 200 ชีวิตให้มีรายได้ และไม่ต้องเลิกจ้าง
"ไก่ย่างโฆษะ" ผลิตจากไก่เพื่อสุขภาพ นวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เลี้ยงโดยเกษตรกรขอนแก่น มีกรดยูริคต่ำกว่าไก่ทั่วไป 67% ไขมันต่ำกว่าไก่ทั่วไปเหลือเพียง 50% หมักด้วยสมุนไพร 9 ชนิด นำไปเข้าไมโครเวฟก่อนรับประทาน จำหน่ายที่ล็อบบี้โรงแรมโฆษะ, อะโกรเอาท์เล็ต มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจำหน่ายเป็นชุด 4 ตัว 999 บาท ส่งฟรีในพื้นที่กรุงเทพฯ
โรงแรมโฆษะ ความสูง 17 ชั้น บนถนนศรีจันทร์ ใจกลางเมืองขอนแก่น เปิดให้บริการเมื่อ 16 ธันวาคม 2511 ในยุคนั้นถือเป็นโรงแรมที่ทันสมัยที่สุดในจังหวัด ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมานานกว่า 50 ปี ปัจจุบันมีห้องพักทั้งหมด 195 ห้อง และห้องประชุมสัมมนาทั้งหมด 9 ห้อง กลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าส่วนราชการ ใช้บริการห้องประชุมสัมมนา
เจ้าของโรงแรมโฆษะ คือ “ชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์” ทายาทรุ่นที่ 3 ของชาวจีนที่ชื่อ “ซา แซ่โค้ว” ที่ปักหลักเมืองขอนแก่นขายของป่า พืชไร่ ก่อนสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยโรงสีข้าวและโรงเลื่อยไม้ มาถึงรุ่นที่ 2 อย่าง “เชษฐ์ โฆษะวิสุทธิ์” เปิดกิจการโรงแรมโฆษะ สำหรับชาติชายนอกจากจะบริหารโรงแรมนี้อย่างเต็มตัวแล้ว ยังเป็นนายกสมาคมโรงแรมภาคอีสานอีกด้วย
ในยุคนั้นเศรษฐกิจขอนแก่นเจริญขึ้น จากการเป็นศูนย์กลางการบริหารราชการระดับภาค เป็นเมืองเศรษฐกิจ การศึกษา และการแพทย์ในภาคอีสาน รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ขอนแก่น ทำให้มีนักธุรกิจเข้ามาลงทุนในขอนแก่นมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมที่ครั้งหนึ่งมีกลุ่มดุสิตธานี กลุ่มบริษัทราชา กรุ๊ป เปิดโรงแรมเพิ่มเติม
ที่ผ่านมา โรงแรมโฆษะเคยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ขณะนั้นกำลังก่อสร้าง โครงการโฆษะ แกรนด์ ทาวเวอร์ ศูนย์การค้า 5 ชั้น โรงแรมและอาคารสำนักงานสูง 28 ชั้น แต่เมื่อรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลดค่าเงินบาท ทำให้ธนาคารหยุดปล่อยกู้ ต้องหาเงินใช้หนี้ค่าก่อสร้างจนหมด และปล่อยให้อาคารร้างนานกว่า 20 ปี ปัจจุบันมี “กลุ่มมิตรผล” ซื้ออาคารไปแล้ว
มาถึงสถานการณ์โควิด-19 จากที่ให้บริการห้องพักไม่มีวันหยุด ก็จำต้องหยุดกิจการชั่วคราว ตามคำสั่งจังหวัดขอนแก่นที่ปิดโรงแรมทุกแห่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ชาติชายตัดสินใจหารายได้เสริม เปิดครัวโฆษะที่หน้าโรงแรม จำหน่ายอาหารแบบเทคโฮมและดีลิเวอรีในตัวเมืองขอนแก่น พร้อมกับขาย "ไก่ย่างโฆษะ" ที่ชาติชายยอมลงมาย่างไก่ร่วมกับลูกน้องด้วยตัวเอง
ความแตกต่างระหว่างวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 กับสถานการณ์โควิด-19 ก็คือ ในยุคนั้นแม้เศรษฐกิจไม่ดีแต่โรงแรมยังมีลูกค้าประจำ มีสภาพคล่องพอที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่มาครั้งนี้หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สภาพคล่องเป็นศูนย์ และไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการให้ผู้บริหารลดเงินเดือนลงถึง 80% เพื่อให้มีเงินจ่ายพนักงาน
ไก่ย่างโฆษะ เกิดขึ้นจากชาติชายทำวิสาหกิจเพื่อสังคม ลงทุนนำลูกไก่สายพันธุ์ KKU1 นวัตกรรมจากศูนย์เครือข่ายวิจัยและพัฒนาด้านการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ (ไก่พื้นเมือง) คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาให้เกษตรกรชาวขอนแก่นกว่า 100 ครอบครัว เลี้ยงเป็นรายได้เสริม ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมน และนำเนื้อไก่ส่งขายตามร้านเลมอนฟาร์มในกรุงเทพฯ อยู่แล้ว
เมื่อถึงคราวสถานการณ์โควิด-19 ชาติชายจึงซื้อไก่จากเกษตรกรนำมาทำเป็นไก่ย่างแช่แข็งพร้อมทานพร้อมน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ส่งขายแบบดีลิเวอรีที่กรุงเทพฯ จุดเด่นนอกจากยูริคต่ำ ไขมันต่ำแล้ว ด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะ จึงให้ความหอม เนื้อแน่นแต่นุ่ม จิ้มง่าย เคี้ยวง่าย เนื้อส่วนอกไม่จืด ต่างจากไก่ย่างที่อื่นซึ่งบางแห่งแม้แต่ไก่เนื้อยังแข็งจนต้องใช้แรงมือและแรงฟันในการเคี้ยว
นอกจากไก่ย่างโฆษะแล้ว ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ "ไก่อบสมุนไพรโฆษะ" แบบแช่เย็นจำหน่ายอีกด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างทดลองตลาด อีกด้านหนึ่ง ครัวโฆษะยังได้พัฒนาช่องทางดีลิเวอรีให้บริการในพื้นที่ตัวเมืองขอนแก่น ด้วยเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่ง ส่งตรงจากโรงแรมโฆษะ จำหน่ายผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 043-333-999 และไลน์ครัวโฆษะอีกด้วย
ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างในการดิ้นรนเพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 โรคระบาดจากไวรัสที่เรามองไม่เห็น ให้พนักงานโรงแรมเก่าแก่แห่งนี้ยืนหยัดอยู่ได้ ด้วยความหวังที่โอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะกลับมาหลังคลี่คลาย สำหรับใครที่สนใจไก่ย่างโฆษะ สั่งซื้อได้ที่ไลน์ @kosachick หรือโทร. 081-913-1333 ส่งฟรีในพื้นที่กรุงเทพฯ
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค กับ Ibusiness Review ที่นี่ที่เดียว! ทางเฟซบุ๊ก Ibusiness และเว็บไซต์ ibusiness.co)
