xs
xsm
sm
md
lg

กรมพัฒน์ฯ จับมือ “ยูนิลีเวอร์” มอบชั้นวางสินค้ารีไซเคิลให้ร้านโชวห่วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจับมือ “ยูนิลีเวอร์” นำร่องมอบชั้นวางสินค้ารีไซเคิลที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ให้กับร้านโชวห่วยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 100 ราย เพื่อช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้ดูดีขึ้น และดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า วันที่ 8 เม.ย. 2564 กรมฯ ได้ร่วมกับบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด นำชั้นวางสินค้ารีไซเคิลไปมอบให้ร้านโชวห่วยจำนวน 100 ร้านค้า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเริ่มนำร่องในพื้นที่อำเภอปากช่องจำนวน 3 ร้านค้า คือ ร้านสมบัติ มินิมาร์ท ร้านเขาใหญ่สโตร์นิวส์ และร้านติ๊ก (หลายสิ่งลิตเติ้ลมาร์ท) ซึ่งจะช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้ดูดีขึ้น ดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มากขึ้น และยังได้ใช้โอกาสนี้รับฟังปัญหา อุปสรรค ก่อนให้คำแนะนำเพื่อพัฒนาสู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วยด้วย

สำหรับชั้นวางสินค้า ผลิตจากบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคใช้แล้ว (Post-consumer) เช่น ถุงเติมน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า สบู่ แชมพู นำไปสร้างเป็นไม้เทียมและประกอบเป็นชั้นวางสินค้าที่มีความคงทนและมีอายุการใช้งาน 5-10 ปี และการนำชั้นวางสินค้ารีไซเคิลมาใช้ทดแทน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่แสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมของร้านค้าโชวห่วย สอดคล้องกับโมเดลการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

“กรมฯ ขอขอบคุณบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ที่ตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยหันมาใช้ชั้นวางสินค้ารีไซเคิลมาใช้ทดแทนชั้นวางสินค้าแบบเดิม”

ทั้งนี้ ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการสมาร์ทโชวห่วยของกรมฯ จะได้รับการพัฒนาภาพลักษณ์ร้านค้าและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีให้สามารถแข่งขันได้และมีการบริหารจัดการที่ดี มีกำไรเพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ ซึ่งการเสริมอาวุธให้แก่ร้านโชวห่วยถือเป็นวาระเร่งด่วนของกรมฯ เพราะร้านโชวห่วยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภคในทุกพื้นที่ อีกทั้งเป็นแหล่งการจ้างงานเป็นช่องทางการกระจายสินค้าของผู้ผลิตสินค้าชุมชนรวมถึงสินค้า OTOP และที่สำคัญยังเป็นช่องทางการช่วยเหลือประชาชนซึ่งภาครัฐได้สนับสนุนโครงการต่างๆ เช่น บัตรสวัสดิการและโครงการเราชนะ โชวห่วยจึงจำเป็นที่จะต้องมีความเข้มแข็ง และเป็นรากฐานให้กับสังคมไทยต่อไป

ปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมามีร้านค้าโชวห่วยกว่า 25,960 ร้านค้า จากโชวห่วยทั่วประเทศ 400,000 ร้านค้า ซึ่งกรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรได้ผลักดันร้านโชวห่วยทั่วประเทศสู่การเป็นร้านสมาร์ทโชวห่วยแล้ว จำนวน 31,357 ราย โดยในปี 2563 ธุรกิจโชวห่วยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากนโยบายการช่วยเหลือของภาครัฐผ่านโครงการบัตรสวัสดิการ คนละครึ่ง และเราชนะ โดยคาดว่ามียอดขายกว่า 2 ล้านล้านบาท และคาดว่ารายได้จะขยายตัวอีกในปี 2564 นี้

ผู้ประกอบการโชวห่วยที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0-2547-5986 e-Mail : bizpromotion.dbd@gmail.com สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th




กำลังโหลดความคิดเห็น