xs
xsm
sm
md
lg

TOP เล็งขยายกำลังผลิต PX ต่อยอดโครงการ CFP

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ไทยออยล์เล็งขยายกำลังการผลิตพาราไซลีนในบริษัทลูก หวังต่อยอดโครงการ CFP ที่จะผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 66

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำแนฟทาหนัก (Heavy Naphtha) จำนวน 9 แสนตันต่อปีซึ่งเป็นผลพลอยได้จากโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตโรงอะโรเมติกส์ในเครือ คือ บริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด โดยจะพิจารณาจังหวะการลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์พาราไซลีน (PX) มีกำลังการผลิตเกินความต้องการใช้มาก ส่งผลให้ราคาพาราไซลีนอ่อนตัวลงในปี 2563 เชื่อว่าปีนี้ราคาพาราไซลีนจะขยับดีขึ้น ส่วนเบนซีน (BZ) ยังมีความต้องการใช้ค่อนข้างดี

ส่วนแผนการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจโอเลฟินส์ภายใต้โครงการ CFP Beyond นั้น บริษัทจะเข้าไปเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนในโรงโอเลฟินส์ในต่างประเทศที่ดำเนินการอยู่แล้ว นับเป็นการลงทุนในรูปแบบ Fast Track แทนการสร้างโรงงานแห่งใหม่ ทำให้ร่นระยะเวลาลงทุน ใช้เงินลงทุนไม่สูงมากแต่สร้างรายได้ทันที ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาหลายโครงการอยู่

นายวิรัตน์กล่าวว่า โครงการ CFP มูลค่าการลงทุน 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและขยายกำลังการกลั่นน้ำมันจากเดิม 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ปัจจุบันมีความคืบหน้าการก่อสร้าง 60-70% ซึ่งในปีที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา โครงการนี้ทำให้การก่อสร้างล่าช้าไปบ้าง แต่บริษัทจะเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดในปี 2566 หรือล่าช้าออกไปเล็กน้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น