จีนรับหยวนดิจิตอลได้อานิสงส์บิตคอยน์ฟีเวอร์

แบงก์ชาติจีนยอมรับความสนใจที่มีต่อโปรเจ็กต์เงินหยวนดิจิตอลส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากบิตคอยน์ที่ราคาพุ่งโด่งทำนิวไฮหลายรอบ แม้คริปโตยังคงถูกแบนในประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ก็ตาม พร้อมกันนี้ยังยืนยันว่า เงินดิจิตอลประจำชาติไม่ได้พัฒนามาเพื่อทำลายบริการชำระเงินเดิม แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้กับอาลีเพย์และวีแชต เพย์

เงินหยวนดิจิตอลเป็นตัวอย่างของสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) และมีเป้าหมายในการแทนที่เงินสดที่หมุนเวียนในตลาดบางส่วน

ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) หรือธนาคารกลางของจีน วางตำแหน่งเงินหยวนดิจิตอลเป็นเครื่องมือเร่งรัดระบบชำระเงินไร้เงินสดและเป็นเวอร์ชันดิจิตอลของเงินหยวน โดย PBOC ริเริ่มโปรเจ็กต์สกุลเงินดิจิตอลมาตั้งแต่ปี 2014

ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หวัง ซิน ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยของ PBOC ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า ตลาดให้ความสนใจเงินหยวนดิจิตอลอย่างมาก ส่วนหนึ่งนั้นสืบเนื่องจากการที่ธนาคารกลางของหลายประเทศมากขึ้นริเริ่มพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลแห่งชาติ

ปัจจุบัน ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ กำลังสำรวจช่องทางในการออกสกุลเงินดิจิตอลของตัวเอง แต่โปรเจ็กต์ที่คืบหน้าที่สุดคือเงินหยวนดิจิตอล

หวังเสริมว่า อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หยวนดิจิตอลเป็นที่สนใจมากขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการพุ่งทะยานของราคาบิตคอยน์

คริปโตมูลค่าสูงสุดของโลกสกุลนี้พุ่งทำสถิติใหม่หลายรอบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เฉพาะปีนี้ราคาเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า

อย่างไรก็ตาม เงินหยวนดิจิตอลต่างจากบิตคอยน์ตรงที่บิตคอย์เป็นคริปโตแบบกระจายศูนย์ พูดง่ายๆ คือไม่มีหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารกลาง ที่มีอำนาจควบคุม บิตคอยน์ยังอิงกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ขณะที่ถึงตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า เงินหยวนดิจิตอลอิงกับเทคโนโลยีใด

นอกจากนั้น ช่วง 2-3 ปีมานี้ ทางการจีนยังกวาดล้างบิตคอย์และคริปโตสกุลอื่นๆ มาตลอด

ปี 2017 ปักกิ่งแบนการระดมทุนด้วยการเสนอขายโทเคน (initial coin offering) และกวาดล้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เช่น แพลตฟอร์มหรือเว็บซื้อขายเงินดิจิตอล

เดือนที่แล้ว เขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีนห้ามทำเหมืองขุดคริปโตเพื่อลดการใช้พลังงาน

ขณะเดียวกัน แม้ยังไม่มีกำหนดเปิดตัวชัดเจน PBOC เดินหน้าโครงการนำร่องทดลองใช้หยวนดิจิตอลในหลายเมือง ในรูปล็อตเตอรี่ที่แจกให้ประชาชนไปใช้จ่ายฟรีกับห้างร้านที่เข้าร่วมโครงการ

เฉพาะช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา มีการแจกเงินหยวนดิจิตอลราว 1.5 ล้านดอลลาร์ในปักกิ่ง เมืองอื่นๆ ที่มีโครงการทดลองใช้รวมถึงเซินเจิ้น ซูโจวและเฉิงตู หวังเสริมว่า PBOC จะขยายโครงการนำร่องต่อไป

ปลายเดือนที่แล้ว ซีเคียวริตี้ส์ ไทมส์รายงานว่า ชาวเมืองเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งสามารถสมัครใช้วอลเล็ตหยวนดิจิตอลผ่านธนาคารของรัฐบาล 6 แห่งที่เข้าร่วม ได้แก่ อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า, อะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า, แบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชันส์, แบงก์ ออฟ ไชน่า, ไชน่า คอนสตรักชัน แบงก์ และโพสทัล เซฟวิ่ง แบงก์ ออฟ ไชน่า

รายงานระบุว่า ผู้ใช้ที่สนใจสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าสู่ลิงก์สมัครวอลเล็ตหยวนดิจิตอล โดยจะมีคำแนะนำให้ลูกค้าผูกเงินจากบัตรของธนาคารที่ถืออยู่เข้าสู่วอลเล็ต ซึ่งจะจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดวันละ 1,000 หยวน แต่ลูกค้าสามารถขอเพิ่มวงเงินได้

ขั้นตอนการสมัครใช้เวลา 24 ชั่วโมงโดยประมาณ โดยระหว่างนั้นผู้ใช้จะได้รับ SMS พร้อมวิธีดาวน์โหลดและติดตั้งวอลเล็ต และต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัว เช่น ชื่อจริง ที่อยู่อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อเปิดใช้งาน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ระบบได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และไม่ใช่ว่าผู้สมัครทุกคนจะได้รับการอนุมัติ

หลังจากได้รับอนุมัติแล้ว ผู้ใช้สามารถใช้เงินหยวนดิจิตอลกับตู้ขายสินค้าอัตโนมัติในสถานีรถไฟใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ห้างหุยจิน และห้างซูเจียฮุย รวมถึงแพลตฟอร์มจัดส่งอาหารเหม่ยถวน รวมถึงห้างร้านต่างๆ ที่รับชำระด้วยเงินหยวนดิจิตอล

ขณะเดียวกัน แม้เงินหยวนดิจิตอลถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วย PBOC ตรวจสอบและควบคุมระบบการชำระเงินที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงอาลีเพย์ของอาลีบาบา และวีแชต เพย์ของเทนเซ็นต์ แต่บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของมู่ ฉางชุน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสกุลเงินดิจิตอลของ PBOC ว่า การพัฒนาเงินหยวนดิจิตอลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องระบบนิเวศการเงินและการชำระเงินในประเทศในกรณีที่ผู้ให้บริการชั้นนำเหล่านั้นประสบปัญหาทางการเงินหรือทางเทคนิค หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ เงินหยวนดิจิตอลไม่ได้เกิดมาเพื่อทำลาย แต่สามารถอยู่ร่วมกับอาลีเพย์และวีแชต เพย์ได้