xs
xsm
sm
md
lg

ธอส.สานต่อ 'บ้านล้านหลัง' เฟส 2 วงเงิน 3.6 หมื่นล้าน อสังหาฯ เข็นโครงการเข้าร่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ธอส.เตรียมชงบอร์ดขออนุมัติโครงการ 'บ้านล้านหลัง' เฟส 2 เพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อรวม 36,000 ล้านบาท ยืดสิ้นสุดโครงการจากสิ้นปี 64 ขยับไปหมดโครงการปี 67 พร้อมปรับอัตราดอกเบี้ยคงที่เหลือ 2% ในระยะ 3 ปีแรก คาดเสนอบอร์ดไม่เกินไตรมาส 2 ปีนี้ หวังช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ด้านบริษัทอสังหาฯ เข็นโครงการเข้าร่วม

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ "บ้านล้านหลัง" ว่า อยู่ระหว่างการเสนอต่อคณะกรรมการธนาคารฯ (บอร์ด ธอส.) เพื่อพิจารณาในการสานต่อโครงการในเฟสที่ 2 โดยจะขยายใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.เพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อจากเฟส 1 ที่มีวงเงินอยู่ 50,000 ล้านบาท เพิ่มเป็นอีกปีละ 12,000 ล้านบาท ตลอด 3 ปี รวมเป็น 36,000 ล้านบาท 2.ขยายระยะเวลาโครงการจากเดิมที่จะสิ้นสุด ณ สิ้นปี 2564 นี้ ขยายไปสิ้นสุดโครงการสิ้นปี 2567

และ 3.ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในโครงการ จากเดิมดอกเบี้ยคงที่ 1-5 ปีแรก ที่ 3% สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน และอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1-3 ปี สำหรับผู้มีรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือน เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ต่ำกว่า 3% (เหลือ 2%) เพื่อให้สอดคล้องกับดอกเบี้ยในตลาดปัจจุบัน

"การลดดอกเบี้ยจะช่วยเหลือผู้กู้ได้ค่อนข้างมาก อัตราการผ่อนจะลดลงเหลือเพียง 2,000 กว่าบาทเท่านั้นต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาท จากเงื่อนไขที่การผ่อนชำระบนอัตราดอกเบี้ยคงที่เดิม 3 ปี ที่ระดับ 3% จะทำให้ผู้ผ่อนชำระผ่อนบ้านต่อเดือนอยู่ที่กว่า 3,000 บาท"

การขยาย 3 เงื่อนไขในโครงการบ้านหลังแรก ในเฟส 2 นี้ หลักๆ เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้สามารถมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น ปิดช่องว่างด้านความเหลื่อมล้ำของผู้มีรายได้น้อยให้ลดลงได้ อีกทั้งยังสนับสนุนให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น และผ่อนชำระค่างวดบ้านในอัตราที่ต่ำลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข "โครงการบ้านล้านหลัง" กรณีลูกค้ารายย่อย โดยปรับเพิ่มราคาซื้อขายและวงเงินกู้ที่อยู่อาศัยเป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับราคาซื้อขายของอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ประกอบกับรัฐบาลได้มีการประกาศลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิและจดจำนองเหลือรายการละ 0.01% ที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท

โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ มีความเคลื่อนไหวในการเข้ามา "ชิงเค้ก" บ้านล้านหลังอย่างต่อเนื่อง จากเดิมมีผู้เล่นเพียงไม่กี่รายที่ยังพัฒนาโครงการดังกล่าวป้อนออกสู่ตลาดอย่างชัดเจน เช่น บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ ผู้พัฒนาโครงการรีเจ้นท์ โฮม ป้อนโครงการบ้านต่ำล้านเข้าร่วมโครงการ ธอส.มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 หน่วย และมีแผนจะผลิตป้อนอีกไม่ต่ำกว่า 20,000 หน่วย ขณะที่ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศชัดเจนจะเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดดังกล่าว โดยพัฒนาโครงการห้องชุดระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท เข้าสู่ตลาดแล้ว 4-5 โครงการ และในปี 2564 จะขยายเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก เช่นเดียวกับ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่ส่งคอนโดพลัม แบรนด์คอนโดราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทเข้าสู่ตลาด รวมถึง บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่เดิมเคยมีฐานลูกค้ากลุ่มบ้านราคาถูก ก็หันมาพัฒนาโครงการเพิ่มเติมในปี 64
กำลังโหลดความคิดเห็น