xs
xsm
sm
md
lg

ล้ำไปอีกขั้น!! อินโดนีเซียเตรียมเปิดตลาดเทรดคริปโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


อินโดนีเซียเตรียมเปิดตลาดเทรดคริปโตเร็วๆ นี้
อินโดนีเซียเตรียมเปิดตลาดซื้อขายคริปโตในอนาคตอันใกล้ ปูทางรัฐบาลเข้าชิงส่วนแบ่งอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มไปต่ออีกยาว เฉพาะปีที่แล้วมีการเทรดสินทรัพย์สกุลเงินดิจิตอลในแดนอิเหนามูลค่าถึงราว 4,440 ล้านดอลลาร์

การแข่งขันเพื่อช่วงชิงพื้นที่ในตลาดคริปโตน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ในสายตารัฐบาลหลายประเทศ แม้บางชาติยังกล้าๆ กลัวๆ แต่หลายชาติอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) แล้ว และดูเหมือนรัฐบาลอินโดนีเซียจะก้าวล้ำนำหน้าหลายประเทศ โดยล่าสุดกำลังเตรียมการเพื่อเริ่มต้นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเองอยู่ในขณะนี้

Tempo.co รายงานว่า เจอร์รี ซัมบัวกา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์อินโดนีเซีย ประกาศระหว่างการสัมมนาบนเว็บเกี่ยวกับคริปโตเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า ในอนาคตอันใกล้ซึ่งอาจเป็นภายในไม่กี่เดือนนี้หรือแม้กระทั่งเดือนหน้า กระทรวงพาณิชย์จะจัดตั้งตลาดที่มีการควบคุมและอำนวยความสะดวกการซื้อขายสินทรัพย์คริปโต

ซัมบัวกาชี้ว่า ตลาดคริปโตอินโดนีเซียนับวันยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น บ่งชี้ทิศทางอนาคตที่สินทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์สกุลเงินดิจิตอลอาจเป็นเป้าหมายสำคัญของทุกอุตสาหกรรม และเป็นกลไกหลักที่ช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าของประเทศ ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่อยากตกขบวนเงินตราดิจิตอลนี้

อินโดนีเซียไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีแผนเปิดตลาดเทรดคริปโต แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระแสโลกที่หลายประเทศเริ่มเปิดตลาดคริปโตของรัฐเพื่อชิงผู้ซื้อขายคริปโตภายในประเทศจากภาคเอกชน

ตัวอย่างเช่นรัฐบาลเวเนซุเอลาที่เปิดตลาดคริปโต “เวเนซุเอลา เอ็กซ์เชนจ์” (VEX) เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเพื่อสนับสนุนโทเคนเปโตรของรัฐบาล รวมถึงบิตคอยน์ ไลต์คอยน์ และแดชที่จับคู่กับเงินโบลิวาร์

แม้บางประเทศในเอเชีย อย่างเช่นญี่ปุ่น ตั้งกฎเข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการเทรดคริปโต แต่อินโดนีเซียกลับตัดสินใจทำให้ตลาดเงินดิจิตอลเป็นมิตรกับเทรดเดอร์และนักลงทุนมากขึ้น เดือนกันยายน 2018 กระทรวงพาณิชย์อนุญาตให้ประชาชนเทรดและครอบครองสินทรัพย์คริปโตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งยังกำหนดนโยบายอีกหลายอย่างเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้

รายงานของสมาคมบล็อกเชนอินโดนีเซียพบว่า ปี 2020 มีเทรดเดอร์คริปโตกว่า 1.5 ล้านรายในอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นจากปี 2015 ถึง 2,263%

รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่า 80% ของประชากร 269 ล้านคนในแดนอิเหนายังไม่มีบัญชีธนาคาร จึงถือเป็นหนึ่งในตลาดคริปโตที่มีอนาคตสดใสในเอเชีย

ขณะเดียวกัน เมื่อปลายเดือนที่แล้ว มิรา คริสตันโต นักวิจัยด้านคริปโตและบล็อกเชนของ messari.io ได้ออกรายงานเกี่ยวกับตลาดสกุลเงินดิจิตอลในเอเชีย ซึ่งมีประชากรถึง 60% ของประชากรโลก และมีผู้ใช้คริปโต บริษัท ผู้ขุดเหรียญ เทรดเดอร์อยู่เป็นจำนวนมาก

รายงานฉบับนี้ที่มีชื่อว่า ภูมิทัศน์คริปโตเอเชีย ครอบคลุมแพลตฟอร์มเทรดคริปโต รวมถึงกองทุน และผู้เล่นสำคัญในตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคริสตันโตอธิบายว่า ภูมิหลังของภูมิภาคนี้ที่มีการอ่อนค่าของสกุลเงินและการควบคุมเงินทุน ล้วนแล้วช่วยกันทำให้สถานการณ์สุกงอมไปสู่การดิสรัปต์ซึ่งทำให้เอเชียกลายเป็นตลาดคริปโตที่คึกคักที่สุด

รายงานระบุว่า ตลาดชั้นนำ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และสิงคโปร์ มีสภาพคล่องสูง ขณะที่ประเทศอื่นๆ มีแนวโน้มเติบโตชัดเจน

คริสตันโตแจงว่า การควบคุมเงินทุนผลักดันให้นักลงทุนในจีนและเกาหลีใต้เปิดใจรับเงินดิจิตอล ขณะที่ผลตอบแทนการลงทุนต่ำทำให้คริปโตกลายเป็นทางเลือกใหม่ของคนญี่ปุ่น

ปลายปี 2019 บริษัทคริปโตใหญ่ที่สุดของโลก 6 ใน 10 แห่งอยู่ในเอเชีย และ ณ วันที่ 12 มกราคมปีนี้ 42% ของมาร์เก็ตแคปของโปรเจ็กต์โทเคน 20 อันดับแรกของโลกกระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคนี้

รายงานยังระบุว่า ญี่ปุ่นมีความพิเศษตรงที่มีตลาดฟอเร็กซ์ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่เกาหลีใต้มีสัดส่วนการเข้าถึงของนักลงทุนคริปโตสูงสุด และสิงคโปร์เป็นหนึ่งในตลาดคริปโตที่มีกฎระเบียบผ่อนคลายอย่างมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น