xs
xsm
sm
md
lg

ภาคเอกชนโล่งอก! เรือยักษ์เริ่มลอยลำหลังปิดกั้นคลองสุเอซ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ส.อ.ท.โล่งอกหลังข่าวล่าสุดการแก้ไขปัญหาเรือ Ever Given ที่ขวางทางคลองสุเอซได้เริ่มกลับมาลอยลำได้แล้ว คาดทุกอย่างจะคลี่คลายส่งออกไทยได้รับผลกระทบเล็กน้อย แต่ต้องติดตามตู้คอนเทนเนอร์ระยะสั้นอาจขาดแคลนเพิ่มได้

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.ได้ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเรือ Ever Given ของบริษัท เอเวอร์กรีน มารีน ที่ถูกพายุทรายพัดเกยตื้นทำให้ขวางคลองสุเอซอย่างใกล้ชิด ล่าสุดได้เริ่มกลับมาลอยลำได้แล้วหลังจากที่หยุดชะงักมาเกือบสัปดาห์จึงทำให้ภาพรวมการส่งออกของไทยจะได้รับผลกระทบจากกรณีนี้เพียงเล็กน้อย

“ถือเป็นข่าวดีที่เรือ Ever Given กลับมาลอยลำได้และทุกอย่างน่าจะเริ่มคลี่คลายได้เร็วๆ นี้ ทำให้ผลกระทบมีไม่มาก เรือส่วนใหญ่จึงไม่ต้องอ้อมไปยังแหลมกู๊ดโฮป (Good Hope) ที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก แต่ในแง่การหมุนเวียนตู้คอนเทนเนอร์ระยะสั้นจะกระทบบ้างที่จะทำให้การขาดแคลนเพิ่มขึ้นอีกจากปัจจุบันก็ประสบปัญหานี้อยู่แล้วเพราะผลกระทบโควิด-19 และหวังว่าจะคลี่คลายโดยเร็ว” นายเกรียงไกรกล่าว

ทั้งนี้ การระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาผู้ส่งออกได้เผชิญกับปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนเพราะการค้าลดลงตู้ไม่เกิดการหมุนเวียน ไปตกค้างปลายทางทำให้ค่าระวางเรือได้ปรับขึ้นไปจากเดิม 4-5 เท่ามาอยู่ที่ 4,000 เหรียญสหรัฐต่อตู้ในปัจจุบัน และปัญหาเรือคลี่คลายแล้วก็ยังคงต้องติดตามค่าระวางเรือว่าจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ และตู้คอนเทนเนอร์จะมีการขาดแคลนมากน้อยเพียงใด

สำหรับเส้นทางการขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซเพื่อไปยังยุโรปเส้นทางขนส่งที่ต้องหยุดชะงักงันมาหนึ่งสัปดาห์แล้วนั้นนับเป็นความเสี่ยงใหม่ที่นับเป็นบทเรียนสำคัญของโลก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีอุบัติเหตุเช่นนี้ได้ โดยอดีตที่ผ่านมาผลกระทบของเส้นทางนี้มักเป็นเรื่องของภาวะสงครามเท่านั้น

“ยอมรับว่าถ้าเหตุการณ์นี้ยืดเยื้อ ผลกระทบการค้าโลกจะรุนแรงมาก เพราะนักวิเคราะห์คาดว่าสินค้าที่ตกค้างจากความล่าช้าคิดเป็นค่าเสียหายถึงวันละ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ” นายเกรียงไกรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น